ฟ้าหลังฝน!!ซูเปอร์สตาร์โกอินเตอร์ ฟิล์ม-รัฐภูมิ

“ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” จากเด็กหนุ่มที่มีความฝันในวัยเด็กอยากจะเป็น “คุณหมอ”

เพื่อหวังว่าจะดูแลรักษาคนในครอบครัวและคนอื่นในยามที่พวกเขาไม่สบาย แต่ด้วยกาลเวลาและเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นแฟน ๆ ที่ชื่นชอบดาราชื่อดัง ต่างก็วิ่งเข้าไปห้อมล้อม พร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดหลายต่อหลายครั้ง จึงเป็นจุดที่ทำให้เขาพลิกความฝันพร้อมตั้งคำถามในวัยเด็กกับคุณแม่ “อย่างฟิล์มเนี่ยจะเป็นดาราได้หรือเปล่า” ซึ่งเสียงตอบจากคุณแม่ “ได้ซิ   ...ใคร ๆ ก็เป็นดาราได้ทั้งนั้น” นั่นคือกำลังใจอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นไปได้ ว่าฝันนั้นคงจะไม่ไกลเกินเอื้อม หากเขาตั้งใจจริง “ฟิล์ม” พยายาม ฝึกฝนด้านการแสดง ด้วยการดูรายการบันเทิงต่าง ๆ ในทีวี เห็นนักร้องคนไหนออกมาหน้าจอ เขาก็พร้อมลอกเลียนแบบร้องเพลง ทำท่าทางฝึกแอ๊คติ้งตามแม้แต่ในโฆษณา โดยมีพี่ชายคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง และให้การแนะนำ 
   
แต่แล้วความฝันของเด็กหนุ่มคนนี้ ในช่วงที่เรียนมัธยมปลาย ก็ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นตัวประกอบหลังฉาก

ซึ่งบทบาททางหน้าจอแทบจะมองไม่เห็น เรียกได้ว่าเฉียดเห็นแค่ติ่งหู “ฟิล์ม” ย้อนเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า “แต่ผมก็ได้เรียนรู้ก่อนที่จะเข้ามาในวงการบันเทิง ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เราเห็น บางคนอาจจะโชคดีที่เข้ามาก็เริ่มทำงานแบบราบรื่น โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่สำหรับผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ช่วยสอนให้ผมค่อย ๆ เรียนรู้การทำงานจริง สำหรับเด็กหนุ่มในวัยมัธยมปลาย ที่ฝันอยากเป็นดาราเป็นศิลปิน ที่พอเริ่มต้นก็เจอคนหลายรูปแบบ บางครั้งทำงานแล้วไม่ได้เงิน ถูกหลอกสารพัด ตอนนั้นเสียใจมาก  แต่ก็ได้กำลังใจจากคุณแม่ แต่ผมเองก็ไม่เคยท้อยังคงมุ่งตามหาฝัน แม้เส้นทางจะไม่ราบรื่น แต่ก็ทำให้ผมเริ่มเข้าใจคำว่าโลกมายา”
 


เวลาผ่านไปสิ่งที่เขาฝันก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น

หลังจากที่ “ฟิล์ม” ได้รับการทาบทามจากผู้กำกับ “พจน์ อานนท์” ให้มาเล่นหนังที่ชื่อเรื่องดูแปลก ๆ    “ว้ายบึ้ม...เชียร์กระหึ่มโลก” กับบทบาทนักกีฬา “รักบี้” จนทำให้มีคนรู้จักฟิล์มมากขึ้น ส่งผลให้มีงานทยอยเข้ามา ทั้งถ่ายแบบนิตยสาร งานโฆษณา มิวสิกวิดีโอ และงานโชว์ตัวตามที่ต่าง ๆ และแล้วก็มาถึงโอกาสครั้งสำคัญที่ถือว่าเป็นการพลิกชีวิตของ “ฟิล์ม” จากเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ กลายมาเป็น “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” ดารา-นักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวันนี้ กับการเข้ามาเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดค่ายอาร์เอสฯ “ตลอด 1 ปีระหว่างนั้น เฮียฮ้อก็มอบโอกาสให้ผมด้วยคำแนะนำว่า อัลบั้มของ ...ฟิล์ม ควรมีการโชว์สเต็ป ลีลาท่าเต้น ผมรู้สึกว่าการเรียนร้องเพลง การเต้นมันค่อนข้างยากและเหนื่อยมาก สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานอย่างผม แต่ด้วยโอกาสที่เฮียหยิบยื่นให้ผม รู้สึกขอบคุณจริง ๆ บวกกับความฝันคือเรามาถึงตรงนี้แล้วจะท้อไม่ได้ ต้องพิสูจน์ความสามารถความตั้งใจที่มีให้ได้ครับ ในที่สุดก็เกิดเป็นอัลบั้มแรกในชีวิต (ชื่อชุด “ฟิล์ม เซย์ไฮ”) การตอบรับของคนฟังทุกคนทำให้ผมหายเหนื่อย”
   
แม้ว่าเขาจะทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจให้กับงานทุกชิ้น จนประสบความสำเร็จด้วยดีเสมอมา
 
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะมีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ฝันไว้ เขาก็มิอาจหนีอุปสรรคต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตได้ ที่ทำให้เขาต้องแก้ไขอยู่ตลอด  กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่โดนโจมตีว่า “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” เป็นศิลปินที่ขายหน้าตาเต็มร้อย แต่ร้องเพลงไม่ได้เรื่อง “ฟิล์ม” รู้สึกยังไง “สำหรับคำชมมันเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุข แต่ก็จะทำให้เราไม่รู้ข้อเสียหรือจุดบอดของตัวเอง แต่ถ้ามีคำวิจารณ์คุณแม่สอนผมว่าเราควรที่จะนำมันมาพัฒนาตัวเอง แล้วเราจะก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็งครับ” และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสี้ยวชีวิตของ “ฟิล์ม” ที่มีแฟนเพลงพร้อมกับกิจกรรมดี ๆ ที่เขาได้รับกับการก้าวเข้าสู่ซูเปอร์สตาร์เอเชีย ที่แฟนเพลงทั้งประเทศหวังไว้กับการโกอินเตอร์ของศิลปินไทยที่จะไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ ทั้งการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ “Habitat  for Humanity” องค์กรพัฒนาสังคมของสหรัฐ และเขาโชคดีได้รับโอกาสเข้าร่วม  หลาย ๆ โครงการ โดยเฉพาะโปร เจคท์ “Asia Star” หรือการปั้นนักแสดงสังกัดอาร์เอสฯ ให้เป็นซูเปอร์สตาร์เอเชีย ทั้งฝึกร้องเพลงอย่างหนัก เต้น ภาษา แบบเต็มที่ กับศิลปินฮอตจากเกาหลี งานได้ดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้าย เหลือเพียงแค่รอการโปรโมต  
   


แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” เจอมรสุมหนักที่สุดในชีวิต ที่เขาคงจดจำไปตลอดชีวิต

จากข่าวที่ไปทำดาราสาวตั้งท้อง รวมถึงเป็นพ่อของเด็ก ส่งผลทำให้การดำเนินชีวิตและงานทุกอย่างที่วาดหวังไว้ พังครืนในพริบตา “ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่าเป็นคนโชคดีมาก ๆ ผมเองก็เหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เที่ยววิ่งเล่นสนุกอยู่ในหมู่บ้านการแสดงแห่งหนึ่ง ซอยนั้นชอบร้องเพลง ซอยข้าง ๆ ชอบเล่นหนังเล่นละคร ตัวผมเองจากที่คิดว่าเพียงแวะเข้ามาหาขนมนมเนยอร่อย ๆ กินเป็นครั้งคราว ก็กลายเป็นความคุ้นเคยถึงขั้นฝากท้องจนครบสามมื้อ และทำให้ผมเติบโตไวแบบไม่รู้ตัว จนถึงวันนี้ ผมมีความตั้งใจแล้วครับ ว่าหมู่บ้านการแสดงแห่งนี้คือสถานที่ที่ผมจะฝาก ชีวิต เอาไว้ ทุกสิ่งที่ผ่านมาทำให้ผมสำนึกได้ เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้น ทำให้มีวันนี้ วันที่ความฝันเดินมาเกินครึ่งทางแล้ว”
   
“แต่การเก็บรักษาให้มันอยู่กับเราไปตลอด เป็นเรื่องโคตรยากยิ่งกว่าสำหรับคนที่ชื่อ ฟิล์ม-รัฐภูมิ แต่ผมก็เรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การเดินตามความฝันที่อยู่แค่เอื้อมไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด กับข่าวที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจ มันเป็นความไม่รอบคอบของตัวผมเอง ที่ใช้ชีวิตประมาท มักง่าย ทำผิดวัฒนธรรมประเพณี ยอมรับว่าท้อแท้ หมดหวังบ้าง  ในวันที่รู้ว่าถูกพักงาน ความฝันทั้งชีวิตทลายลง ตลอด 8 ปีที่ทำงานหนัก เป็นเสาหลักให้ครอบครัว จากวันนี้ไปไม่มีอีกแล้ว  แต่ผมต้องขอบคุณ เฮียฮ้อ ผู้บริหารฯ ผู้มีพระคุณที่สุดคนนี้ ที่ให้โอกาสผมได้เคลียร์ตัวเองและให้โอกาสผมอีกครั้งในการทำงาน”
   
“ทุกวันนี้ผมสามารถผ่านความรู้สึกผิดหวัง เสียใจมาได้ แม้ในวันที่ ต้องเสียน้ำตาลูกผู้ชาย สำหรับผู้ชายที่ชื่อ ฟิล์ม-รัฐภูมิ วงการบันเทิงให้อะไรกับตัวเองบ้าง วันนี้เป็นวันที่ผมประสบความสำเร็จในชีวิตไปอีกอย่างหนึ่ง ยอมรับว่าดีใจ แต่ที่ดีใจมากกว่างานรับปริญญา คือผมได้เห็นถึงความรักที่ทุกคนมีให้ คนธรรมดาอย่างผมมีวันนี้ได้เพราะทุกคนจริง ๆ ครับ ขอบคุณพี่ ๆ นักข่าว ดารา ทีมงาน ครอบครัว อาร์เอสฯ ผู้มีพระคุณทุกคนที่ยังคอยอยู่เคียงข้าง    กับผม และสิ่งที่จะช่วยให้ตัวผม สามารถสงบจิตใจผ่านเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาถึงวันนี้ คือธรรมะ ที่สามารถดูแลใจของผม พร้อมเผชิญและมีแรงใจที่จะก้าวต่อไปกับเหตุการณ์ข้างหน้า  ขอบคุณทุกคนจากใจจริงครับ”


ฟ้าหลังฝนของ “ฟิล์ม” ทำให้เขาได้มีโอกาสที่จะสานฝันต่อ...กับการไปเรียนต่อทางด้านภาษาไกลถึงประเทศอังกฤษ

แต่เขาก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันก็สอนให้เขาเข้มแข็งและกล้าเผชิญกับปัญหาที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ ด้วยจิตที่สงบและหัวใจเต็มร้อยของลูกผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” ที่เขาได้เขียนไว้ในหนังสือที่ชื่อ “Film’s moment of truth” ซึ่งเป็นเรื่องราวประสบการณ์บนสายบันเทิงของผม อยากให้ลองอ่านกันดูกับอีกหนึ่งมุมหนึ่งในชีวิตของเขา
   
ปริญญาชีวิตยิ่งใหญ่นัก หากคิดให้เป็น  มันจะเป็นภูมิคุ้มกัน..ให้ชีวิตเดินไปข้างหน้า พร้อมที่จะรับความสุขมากกว่าความทุกข์  ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การกระทำของคน ๆ นั้น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์