พุทธิพงษ์แฉเหตุ แม่ไม่ปลื้ม กบเชิดใส่ครอบครัว

ปัญหาโลกแตก “ศึกแม่ผัวลูกสะใภ้” ที่เกิดขึ้นว่าที่ลูกสะใภ้ นางเอกดัง กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง ที่ถูกฝั่งแม่ผัว นางดาริกา ปุณณกันต์ มารดาพระเอกไฮโซ บรู๊ค-ดนุพร ปุณณกันต์ ที่หันมาเอาดีทางการเมือง บ่นน้อยใจลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ เกี่ยวกับเรื่องที่ทั้งสองคน ไม่เคยมาบอกกล่าวเรื่องวิวาห์ให้รู้จากปาก ต้องรับรู้จากข่าวหนังสือพิมพ์ ทำให้กระแสข่าว “แม่ผัวไม่ปลื้มลูกสะใภ้” ที่มีออกมาเป็นระลอกนั้น กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา จนหลายคนเป็นห่วงว่ากระแสข่าวนี้จะส่งผลให้แผนการวิวาห์ของคู่รักมาราธอน กบ-บรู๊ค ที่คบหาดูใจกันมานานร่วม 10 ปี แต่ยังไม่ได้ลงเอยด้วยการแต่งงาน อาจสะดุดเพราะเจอศึกหนักจนต้องพับโครงการวิวาห์ไปเลย
 

หลังจากตกเป็นข่าวชนิดทอล์กออฟเดอะทาวน์ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.

บรู๊ค-ดนุพร ได้ควงคู่ กบ-สุวนันท์ มาเปิดใจถึงกรณีข่าว “แม่ไม่ปลื้ม” ที่โรงถ่ายลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เนื่องจากกบมีคิวถ่ายละครเรื่อง “นางทาส” อยู่พอดี โดยทั้งคู่เดินทางมาถึงพร้อมกัน แต่มารถคนละคัน เนื่องจากกบมีคิวถ่ายละครต่อ ส่วน บรู๊คก็มีประชุมสภาต่อ เมื่อมาถึงทั้งบรู๊คและกบได้เดินตรงดิ่งมาที่กลุ่มนักข่าวพร้อมเปิดฉากให้สัมภาษณ์ทันที แต่ในวันนี้กบดูนิ่งและสงบปากสงบคำระวังคำพูดมาก ถึงขนาดว่าเมื่อนักข่าวหันไปถามกบ บรู๊คจะขอร้องให้ถามตัวเองแทน และยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะตนเองเป็นต้นเหตุ
 

 บรู๊คเริ่มต้นกล่าวว่า

ทราบดีว่าข่าวที่เกิดขึ้น หลายคนให้ความสนใจ ที่ตัดสินใจมาพูดคุยกันวันนี้ เพื่อให้ทุกคนทุกฝ่ายสบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่คุณแม่ ได้พูดไปกับนักข่าวนั้น  ยอมรับว่าตนได้วางแผนชีวิตตัวเองและได้พูดกับสื่อมวลชนไปว่า ถ้าหลังเลือกตั้งตนก็อายุเยอะแล้ว ก็อยากมีครอบครัว หลังพูดไปก็มีผลกระทบกับตนเองพอสมควร เนื่องจากคุณแม่น้อยใจ เพราะตอนมีข่าวนั้นคุณพ่อคุณแม่อยู่ต่างประเทศ ตนก็ตกใจไม่คิดว่าสิ่งที่พูดไปจะกลายเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกเล่ม เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในครอบครัว ตนในฐานะคนกลาง มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย ให้ทุกคนสบายใจ ในฐานะของลูกก็ดี หรือในฐานะของคนที่เรารู้จักกันมา 10 ปี ก่อนมาแถลงข่าว ได้โทรศัพท์คุยกับคุณแม่คุณพ่อเป็นที่เรียบร้อย ยอมรับ ว่าบางเรื่องที่คุณแม่พูด ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณแม่รู้สึกน้อยใจ ว่าตนไม่ให้ความสำคัญท่าน
 

บรู๊คกล่าวเปิดใจอีกว่า

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของตนด้วยในการดำเนินชีวิต การที่ตนทำงานมากจนละเลยคนที่อยู่ใกล้ตัวไป ทำให้มีผลเสียกลับมา หลังจากได้รับเลือกตั้ง ตนทำงานหนักมาก เพราะพื้นที่มันใหญ่ ไม่ค่อยได้เจอคุณพ่อคุณแม่ กับน้องกบเองก็ไม่ค่อยได้เจอ บางครั้งความที่เป็นลูกก็คิดแต่ว่าพ่อแม่ต้องเข้าใจ จนมีผู้ใหญ่ท่านนึงคุยกับตนว่า อย่าคิดว่าพ่อแม่จะเข้าใจเราทุกเรื่อง เราต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว   ในฐานะตนเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน ขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจและให้กำลังใจ ที่ติก็มีบ้าง เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ชีวิต ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่ดี จากนี้ไปตนต้องบริหารเวลาให้ดีขึ้น พูดคุยกับผู้ใหญ่มากขึ้น คุณแม่จะได้ไม่รู้สึกน้อยใจ บางเรื่องตนไม่ทราบจริงๆ ว่าคุณแม่น้อยใจ ตนก็ได้แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยคุยกัน มันเลยกลายเป็นการสะสม ตกตะกอนอยู่ในใจคุณแม่ พอคุณแม่พูดไปในอารมณ์คุณแม่ที่รักลูก น้อยใจที่ลูกไม่มีเวลามาเจอเลย เวลาทำอะไรลูกไม่มาบอก จึงเป็นเรื่องขึ้น




ผู้สื่อข่าวถามจะพากบเข้าไปหาคุณแม่ที่บ้านเมื่อไหร่ บรู๊คตอบว่า ยังไม่ขอบอกอะไรตอนนี้

เท่าที่พูดคุยคุณแม่เข้าใจ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. เป็นวันครบรอบแต่งงาน 40 ปี ของคุณพ่อคุณแม่ หลังจากคุณแม่เจอสื่อก็กลับบ้าน ตนเจอคุณแม่ คุณแม่ก็เข้ามากอดตามปกติ ตนยังบอกแม่ว่ารักแม่นะ แม่ก็บอกว่ารักลูกนะ ไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้มีโอกาสมานั่งพูดคุยกัน เป็นความผิดของตนเองที่ละเลย เมื่อได้คุยกับคุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย ทุกคนก็ให้กำลังใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่เรื่องกบหรือยัง บรู๊คตอบว่า ได้คุยแล้ว

ในฐานะลูกยังไงก็ต้องรักแม่ ถึงจะเจอกันน้อย แต่ทุกครั้งที่เจอกัน ก็กอดกันพร้อมกับบอกรักแม่ ตนบอกแม่ไปว่า ถ้าคราวหน้าเกิดเรื่องอะไร ให้โทร.หาเลย จะหาเวลาเข้าไปพูดคุย คุณแม่จะได้ไม่เสียความรู้สึก ตนเป็นลูกชายคนเดียวที่ยังไม่มีครอบครัว เข้าใจว่าคนเป็นแม่ก็เป็นห่วง เป็นธรรมดา
  

ต่อข้อถามว่า โครงการวิวาห์กับกบจะยังคงมีภายในปีนี้เหมือนเดิมหรือไม่ บรู๊คมีท่าทีลำบากใจที่จะตอบก่อนกล่าวว่า

การที่เกิดเรื่องไม่เข้าใจกันขึ้น ต้องไปเคลียร์ก่อน รอให้ทุกอย่างลงตัวก่อนถึงจะทราบว่ามีกำหนดยังไงบ้าง เรื่องแต่งงานกับกบได้คุยกับคุณพ่อมาตลอด บ้านเรางานเยอะมาก ไม่มีวันว่าง 3 คน มาอยู่บ้านพร้อมกัน พูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย เมื่อตอนต้นปีมีข่าวว่าบรู๊คไปขอพระราชทานน้ำสังข์ ถ้าตามปกติก็สามารถตอบได้ว่าขอหรือไม่ขอ แต่เมื่อต้นปีคนไทยไว้ทุกข์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ การที่มีข่าวไปแบบนี้ ก็เกิดผลกระทบถูกมองว่าไม่รู้จักกาลเทศะ




เมื่อถามว่า งานแต่งงานจะเลื่อนไปปีหน้าหรือไม่ บรู๊คกล่าวว่า

ยังอยากแต่งงานปีนี้อยู่ ปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่ต้องแต่งปีนี้หรือเปล่า อยู่ที่ต้องทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ ให้ทุกฝ่ายสบายใจก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถึงขั้นเลื่อนการแต่งงานออกไปหรือไม่ บรู๊คตอบว่า

ไม่มีเหตุผลที่จะรีบร้อน ถ้าเดือน 12 วันที่ 31 ไม่แต่งงานแล้วจะหมดอายุ เพียงแต่มันเป็นความเข้าใจ หน้าที่ของตนคือต้องบริหารความรักให้ลงตัว ถ้าถามว่ายังอยากแต่งงานอยู่ไหม ก็ยังอยากแต่ง ตนอายุเยอะแล้ว ถ้าต้องยืดไปด้วยเหตุผลประการใด ก็โอเคนะ แต่ไม่ใช่ยืดออกไปอีก 10 ปี ตอนนี้ ยังไว้ทุกข์อยู่ด้วย คงต้องรอจังหวะอะไรให้เหมาะสม
  

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวหันไปถามกบ-สุวนันท์ ว่า รู้สึกอย่างไร บรู๊ครีบชิงตอบว่า

อย่าถามกบดีกว่าครับ ตนได้พูดไปพอสมควรแล้ว เท่าที่คุยกันมีเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น น้องกบก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา ขอร้องว่าไม่ต้องให้ ข่าวแล้ว ตนจะให้สัมภาษณ์เอง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของตน น้องกบเองคงจะไม่รู้ดีเท่ากับตน ตนเป็นคนคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ถ้าถามน้องกบก็คงไม่รู้ รายละเอียดมาก เมื่อถามว่า จะพากบเข้าบ้านไปหาคุณพ่อ คุณแม่มากขึ้นไหม บรู๊ครีบบอกว่า ใจเย็นๆ
 
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าข่าวนี้จะกลายเป็นปัญหาแม่ผัว-ลูกสะใภ้ บรู๊คบอกว่า

มันไม่ใช่คู่แรก พี่ชายตนก็มีครอบครัวแล้ว ส่วนตนคงทำให้ดีที่สุด เชื่อว่าไม่น่ามีอะไรที่หนักใจ เมื่อถามว่า ที่นางดาริกาบ่นว่าน้อยใจ เวลามีข่าวเชิงลบเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ออกมา แต่ทั้งกบ-บรู๊คไม่เคช่วยแก้ข่าวให้เลย บรู๊คแก้ตัวแทนกบว่า เรื่องนี้ตนเป็นคนบอกน้องกบเองว่า การพูดถึงคุณพ่อคุณแม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอร้องว่ามีเหตุการณ์อะไรก็ตามที่กระทบ กระเทือน ขอร้องให้น้องกบเลือกที่จะไม่พูดถึง น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าพูดกระทบชิ่งกันไปชิ่งกันมา มันจะกลายเป็นเรื่องเป็นราว เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็ได้ขอโทษคุณแม่ไป ที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ 




เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามขอร้องให้กบเผยความรู้สึก ปรากฏว่าบรู๊คได้ขวางไม่ยอมให้พูด

ก่อนที่บรู๊คจะยอมพูดถึงความในใจออกมาว่า ยอมรับว่ากลัวมากที่จะมาแถลง ข่าวในวันนี้ เพราะประเด็นมันค่อนข้างอ่อนไหว น้องกบก็กลัวว่าถ้าพูดอะไรไปแล้วข่าวไปลง อาจจะทำให้เป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต อย่างที่คุณแม่พูดกับตนว่า แม่ไม่เคยพูดเลยนะว่าลูกโกหก สื่อเอาไปเขียนเอง แม่พูดไปก็ร้องไห้
 
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คุณแม่พูดถึงกบว่าอย่างไรบ้าง บรู๊คตอบว่า

คุณแม่ไม่ว่าอะไร การที่ตนได้เคลียร์กับท่านแล้ว จะให้ท่านหายโกรธเลยคงเป็นไปไม่ได้ จิตใจคนมันต้องใช้เวลา การที่จะรู้สึกดีกันเหมือนเดิมเหมือนแต่ก่อน มันคือหน้าที่ของตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ลำบากใจหรือไม่กับการที่ต้องเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย บรู๊คตอบว่า

ไม่ ตนเป็นผู้ชาย แม่รักลูกเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าแม่รู้สึกว่าลูกไปรักคนอื่น มันอาจจะเกิดปัญหาได้ ถ้าตนเป็นผู้หญิงมีผู้ชายมารักปัญหามันจะไม่ค่อยเกิด เป็นธรรมชาติของโลกมนุษย์อยู่แล้ว คุณแม่น้อยใจในตัวบรู๊คมากกว่า
 

ผู้สื่อข่าวถามบรู๊คว่า กลัวจะเกิดปัญหา “แม่ผัว-ลูกสะใภ้” ขึ้นมาอีกหรือไม่ บรู๊คตอบว่าไม่

เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข่าวดีสำหรับตน อย่างน้อยก็รู้ว่าคุณแม่รู้สึกยังไง น้อยใจอะไรตรงไหน ในฐานะลูกตนจะได้ทำตัวได้ถูก ผิดก็ยอมรับและพยายามปรับตัวให้เป็นลูกที่ดีของคุณแม่เช่นเดิม

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้บรู๊คกับกบวางแผนแต่งงานไว้แค่ไหน บรู๊คตอบว่า

คิดหลายอย่าง ขออนุญาตไม่พูดถึง เมื่อผู้สื่อข่าวให้บรู๊คยืนยันว่า วิวาห์ไม่ล่มแน่นอน บรู๊คหัวเราะก่อนตอบว่า ตนก็รู้จักน้องกบมานานเราเข้าใจกัน เรื่องที่เกิดขึ้นทุกคนเข้าใจหมด ไม่ว่าคุณแม่ คุณพ่อ น้องกบ ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจกันอีกตนได้ขอโทษคุณแม่ไปแล้ว ก่อนมาแถลงข่าวก็โทรศัพท์ไปหา บอกคุณแม่ว่าจะมีการพูดคุยกับนักข่าว เดี๋ยวประเด็นจะกลายเป็นอย่างอื่น คุณแม่ก็รับทราบ บอกว่าตามใจลูก พูดดีๆนะ คือเราไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้มีปากมีเสียงกัน มันเป็นความไม่เข้าใจกัน สิ่งที่แม่พูดออกมาทำให้ตนรู้ว่าคุณแม่รักตน อยากให้ตนกลับไปดูแลท่านบ้าง น้องสาวก็อยู่ต่างประเทศ พี่ชายก็มีครอบครัวไปแล้ว



ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมจะพากบไปกราบขอโทษคุณแม่หรือยัง บรู๊คตอบว่า

 ไม่อยากบอกแผนการว่าจะทำอะไรต่อไป เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ต้องระวังคำพูดหลายๆอย่าง คำพูดนิดเดียวมันอาจจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตได้ ขณะที่กบซึ่งหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน ได้เปิดปากพูดว่าต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ ทุกอย่างคงเป็นไปตามที่พี่บรู๊คพูด ส่วนบรู๊ครีบพูดตัดบทว่า ทราบว่าทุกคนเป็นห่วงตนและน้องกบ เมื่อเข้าใจกันแล้วก็ไม่น่ามีอะไร
 
เรื่องนี้เกิดขึ้นมีส่วนกระทบต่อจิตใจกับทุกฝ่าย

กระทบกับจิตใจแฟนคลับ คนที่รักผม รักน้องกบ เมื่อถามถึงปัญหาคาใจที่แม่ดาริกามีต่อกบ บรู๊คแอ่นอกรับแทนว่า คุณแม่น่าจะมีปัญหาน้อยใจตนมากกว่ากบ เพราะตนไม่ดูแลท่านเลย ไม่ได้ไปทานข้าวนอกบ้านกับคุณพ่อ คุณแม่มาครึ่งปีแล้ว เชื่อว่าถ้าได้จัดเวลาทุกอย่างลงตัว ปัญหานี้ก็คงไม่เกิด ตนกับกบเองเดือนสองเดือนก็ไปกินข้าวกันสักครั้ง ตนมีบ้านของตัวเอง ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง พอย้ายออกมา เวลาเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ จังหวะว่างไม่ตรงกัน บางทีงานเยอะกลับบ้านก็อยากอยู่คนเดียว จากนี้ไปคงต้องกลับไปนอนบ้านบ้างเพื่อไปหาคุณพ่อคุณแม่  


ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯ กทม.

พี่ชายของบรู๊ค-ดนุพร ถึงการให้สัมภาษณ์ของนางดาริกา ปุณณกันต์ เกี่ยวกับเรื่องบรู๊ค-กบ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ว่า ตนรับรู้โดยตลอดและอยู่ในเหตุการณ์ ขณะนักข่าวบันเทิงมารุมสัมภาษณ์ คุณแม่ซึ่งเป็นคนตรงไปตรงมาไม่เคยพูดโกหกและไม่ค่อยมีโอกาสให้สัมภาษณ์ เพราะไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเหมือนบรู๊คและแฟนเขา ประกอบกับเจอคำถาม ในลักษณะที่ว่าไม่ได้แต่งงาน เพราะติดที่คุณแม่ไม่หาฤกษ์ให้ แกล้งดึงไว้ คุณแม่เลยมีโอกาสชี้แจงสังคมและประชาชนรับทราบ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ คุณแม่ไม่รู้เรื่อง ทั้งคู่ไม่เคยมาหารือ คุณแม่ก็อาจน้อยใจเพราะไม่เคยรับรู้เรื่องการแต่งงาน ทราบเพียงข่าวหรือมีคนโทร.มาบอก เลยอาจพูดแรงไปที่ว่า “เลี้ยงลูกได้แต่ตัว เหมือนเรือจ้างที่ถึงฝั่งก็ถีบหัวส่ง” ซึ่งเป็นการพูดจาจากหัวอกคนเป็นแม่ เพราะท่านอุตส่าห์เลี้ยงของท่านมา จนจบปริญญาโท มีหน้าที่การงานที่ดี เป็นที่รักของประชาชน

เมื่อเช้าก็เพิ่งคุยกับคุณแม่อีก ท่านก็คิดว่าการให้สัมภาษณ์ ดังกล่าว ประชาชนจะเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่

 ไม่ได้ ทำให้แฟนคลับยิ่งแอนตี้ ตนก็พอจะเดาออกว่า การให้ สัมภาษณ์ของคุณแม่จะต้องกลายเป็นประเด็น เพราะในตอนเย็นวันเดียวกัน ที่บ้านมีงานเลี้ยงครบรอบแต่งงาน 40 ปีของคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาบรู๊คก็มา ส่วนแฟนไม่ได้มาด้วย ตนบอกน้องไปว่า คุณแม่ เจอนักข่าวให้สัมภาษณ์เรื่องบรู๊คไป เค้าเองก็ยอมรับกับคุณแม่ว่าไม่ได้หารือคุณแม่เพราะงานยุ่ง


รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า

กบแฟนบรู๊คเคยมาที่บ้าน 2-3 ครั้งเมื่อ 4-5 ปีก่อน แต่หลังจากบรู๊คบวช ซึ่งเคยมีข่าวเรื่องการถือหมอน ที่มีการโจมตีคุณแม่ว่าไม่ให้ถือหมอน เพราะไม่ปลื้มว่าที่ลูกสะใภ้ ทางแฟนน้องชายก็ไม่แก้ข่าว กลับไปสัมภาษณ์อีกแนวหนึ่ง ส่งผลให้แฟนคลับไม่พอใจและมีการโจมตีคุณแม่ทั้งทางเว็บไซต์ต่างๆ รวมทั้งเขียนจดหมายมาต่อว่าที่บ้านว่ากีดกันความรัก ทั้งที่คุณกบก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่กลับไม่เคยชี้แจง ไม่เคยปกป้องครอบครัวเรา ตั้งแต่นั้นมาคุณกบก็ไม่เคยมาเหยียบที่บ้าน ไม่เคยเจอกับคนในครอบครัว ไม่เคยมีสัมพันธ์กันในครอบครัวของเรา เขาก็อยู่ข้างนอก ไม่เคยเข้ามาร่วมสังสรรค์ในครอบครัว
 



ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าความสัมพันธ์ระหว่าง “กบ” กับครอบครัวไม่ดี จะส่งผลต่อการแต่งงานของทั้งคู่หรือไม่ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า

ช่วงนี้อย่าเพิ่งมองเรื่องแต่งงาน ควรจะมองพัฒนาการระหว่างนี้ไปก่อน เพราะแฟนของน้องชายต้องแก้ไขปัญหาช่องว่างที่เกิดขึ้น ว่าควรทำอะไรได้มากกว่านี้ แก้ไขปัญหาก่อน ไม่เช่นนั้นหากมีการแต่งงานแล้ว ปัญหาเก่ายังคาราคาซังก็คงจะกระทบต่อบุคคลในครอบครัวทั้งหมด

เรื่องนี้ตนก็บอกบรู๊คไปแล้วว่า คุณแม่ ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำ

 ไม่เคยไปวุ่นวายเรื่องส่วนตัว แต่เป็น คนมีเหตุผล เพราะทุกคนในครอบครัวก็มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ตนแต่งงานกับนุสบามา 9 ปี ก็พานุสเข้าบ้าน น้องสาวเพิ่งแต่งงาน ก็พาน้องเขยมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมานาน ทุกคนอยู่ในบ้านเดียวกันหมด ใครที่มีปัญหากันแน่ ทั้งคู่คงต้องไปวิเคราะห์กันเอง ถ้าคุณแม่ตนร้ายจริงแล้วทำไมคนอื่นๆ ถึงไม่มีปัญหาในครอบครัว ทั้งสะใภ้คนโตและน้องเขย ก็มีความสุขและเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ได้ดี

อยากแก้ข่าวที่ว่าคุณแม่จะหาสาวไฮโซคนโน้นคนนี้ให้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง

 อยากให้เอาความจริงมาพูดกัน ถ้าคุณแม่ร้ายจริง ป่านนี้คงไปอาละวาด ไม่ปล่อยให้ทั้งคู่คบกันมานับ 10 ปีหรอก  

“อยากให้แฟนน้องชายใช้ความพยายามให้มากขึ้น พยายามเข้าหาผู้ใหญ่ ไม่ใช่พอมีปัญหาแล้วเข้ามาในครอบครัวไม่ได้ก็จบกันไป ต่างคนต่างอยู่ เพราะบ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่กันเป็นครอบครัว ไม่เช่นนั้นความเข้าใจผิดก็จะเกิดขึ้น และมีทัศนคติที่ไม่ตรงกัน ก็จะเข้าใจผิดกันไปตลอด” พี่ชายพระเอกบรู๊คกล่าวในตอนท้าย



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์