พิ้งกี้พ้อโดนคำพิพากษา!

ข่าวฮอตช่วงนี้ไม่มีข่าวไหนเกินข่าวนางเอกสาวนัยน์ตาคม เป็นกิ๊กกับ "เป๊ก"สัณชัย เองตระกูล สามีของดาราสาวรุ่นพี่ "ธัญญ่า-ธัญญาเรศ"

ด้วยเจ้าตัวติดภารกิจทำงานถ่ายหนังที่อินเดีย เพื่อก้าวสู่อนาคตดาราบอลลีวู้ด เลยยังไม่มีคำชี้แจงออกจากปาก ได้แต่อธิบายลงในเว็บไซต์ตัวเอง

ล่าสุดวันนี้ "พิ้งกี้" ได้กลับมาถึงเมืองไทยก่อนกำหนดการเดิม จึงมีโอกาสออกมาเปิดใจ

ยิงคำถามแรกก่อนเลยว่า ข่าวที่เกิดขึ้น มีผลกับการทำงานที่ประเทศอินเดียหรือเปล่า ดาราสาวยิ้มก่อนกล่าวแจง

"ไปที่นั่น 5 วันก็เป็นข่าว ตอนนั้นถ่ายหนังอยู่ อากาศก็ร้อน เต้นก็ยาก ภาษาก็ลำบาก แต่โชคดีว่าเราแยกแยะได้ คือเวลาทำงานกี้เต็มที่ แต่พอกลับถึงที่พักเครียดมากๆ มีคนโทรศัพท์จากเมืองไทย ตั้งแต่เพื่อน นักข่าว และคนอื่นๆ แต่ไม่ได้รับ เพราะเหนื่อยและเครียด"



"นอกจากนี้ยังมีคนส่งเมล์ให้ทางเน็ต ทั้งดีไม่ดีเต็มไปหมด ที่ดีก็เป็นกลุ่มแฟนคลับที่พยายามให้กำลังใจด้วยการทำเป็นคลิปพร้อมรูป แต่ดูยังไงก็เหมือนทำไว้อาลัยเรา(หัวเราะ) กี้ยังไม่ตาย แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องขอบคุณมากๆ เพราะเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ"

"แต่เพื่อนบางคนคุยกับเราไม่ยอมบอกให้เรารู้ พ่อเองอยู่เมืองไทย รับรู้อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดก็ยังไม่ยอมบอก กี้ กลัวเราทำงานไม่ได้ สุดท้ายกี้รู้จากที่คนโทร.ไปบอก ซึ่งข่าวนับวันจะแรงขึ้น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยเขียนลงในเว็บไซต์เพื่อชี้แจงให้คนรู้ โดยกี้พูดไปตามความรู้สึก เขียนไปร้องไห้ไป"

"ที่รู้สึกไม่ดีคือ ทำไมเขาตัดสินเราว่าเป็นคนแบบนั้นแล้วหรือ ทั้งที่ยังไม่ได้รู้ความจริงจากเรา พิมพ์ไป เปิดดูกระทู้ไป ด่าเราอีกแล้ว เราก็ร้องไห้ไป(หัวเราะ) จนสุดท้ายมาคิดว่า จะเสียใจทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ฆ่าใครตาย"

แล้วกับงานที่เมืองไทยล่ะ ได้รับผลกระทบไหม พิ้งกี้พยักหน้า

"ก่อนหน้านี้มีโฆษณาติดต่อมา 2 ชิ้น เขาก็ขอชะลอไว้ก่อน แต่ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ คิดแต่ว่า ช่างมันเถอะ"


ตอนนี้อยากจะพูดอะไรบ้าง

"กี้อยากบอกว่า กี้รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ และรู้อยู่ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ผิดหรือไม่ผิด เรื่องต่างๆ กี้ตัดสินใจเองได้ กี้แยกแยะออก และคิดว่าข่าวไม่สามารถจะพูดอะไรได้มาก มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา และเป็นเรื่องที่มีบุคคล 3 คนเกี่ยวข้อง"

"อยากจะบอกว่า อย่าพิพากษากี้จากสิ่งที่ได้ฟัง กี้ทำงานเลี้ยงครอบครัว ไม่จำเป็นต้องให้ใครดูแล เราเลี้ยงตัวเองได้ แต่ถ้าใครอยากจะดูแลก็ต้องเป็นโสด กี้เองไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน ตอนนี้กี้โดนสังคมประณามไปแล้ว จนรู้สึกว่า ทำไมเวลาใครโดนข่าวแบบนี้ให้ช่วยกันวิเคราะห์ก่อน ทุกอย่างมันมีเหตุผล"

"การที่กี้รู้จักคนๆ หนึ่ง เป็นการรู้จักแบบบริสุทธิ์ใจ เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ไม่มีความคิดไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามหรือผิดศีลธรรม กี้มีครอบครัวที่อบรมสั่งสอนว่าเรื่องแบบนี้เป็นบาป กี้ไม่ได้ทำให้ครอบครัวใครแตกแยก แต่ถ้าการรู้จักของกี้มันมีผลไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน กี้ขอโทษ เรื่องนี้ถ้าจะด่า ให้พ่อแม่ด่ากี้ ไม่ใช่ให้คนอื่นด่ากี้"


ทางบ้านว่าอย่างไรบ้างกับเรื่องที่เกิดขึ้น

"ก็สงสารค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้ เขาอยู่กับเราตลอด เพราะตอนนี้กี้เหนื่อยมากๆ ที่เมืองไทยเหมือนไม่มีคนเข้าใจ เราทำงานอยู่ที่นั่นเราเหนื่อย พอเรานิ่งก็เหมือนเรายอมรับ แต่เราไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะถ้าพูดมากกว่านี้ก็จะมีคนเสียหายเพิ่มขึ้น ซึ่งมันไม่ดี ขอให้อยู่แค่เราเถอะ"

"สิ่งที่บอกไป คนจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เรื่องที่เกิดเหมือนเป็นแรงผลักให้กี้มีกำลังใจในการทำงานหนักๆ ที่อินเดียได้เป็นอย่างดี อนาคตเรายังไปได้อีกไกล"

"กี้มีสมอง มีความสามารถ ไม่ต้องพึ่งใครค่ะ" ดาราสาวกล่าวทิ้งท้าย




กว่าจะเป็น"ดาว"แดนโรตี

ไปทำงานที่อินเดียสิบกว่าวัน สาวนัยน์ตาคม "พิ้งกี้-สาวิกา" ก็มีภาพบรรยากาศการทำงานมาฝากแฟนๆ พร้อมเล่าให้ฟังถึงวันแรกที่ไปถึงแดนภารตะว่า

"กี้ไปอินเดียวันที่ 27 มี.ค. ไปถึงเมืองเชนไนน์อากาศร้อนมาก พอไปถึงคุณวิจิน(Vijin)ผู้กำกับ และทีมงานก็เอาดอกไม้มาต้อนรับ รวมถึงตัวพระเอก "ซาบาสส์"(Sabass)"

ถัดจากนั้น 2 วันดาราสาวก็รู้ข่าวว่าผู้กำกับฯ มากำกับฯ ไม่ได้ เพราะต้องผ่าตัดสมอง

"ผู้กำกับฯ คนนี้เขาเป็นผู้กำกับฯ หนังแอ๊ก ชั่น มาก่อน เขาเล่นคิวบู๊ รถมอเตอร์ไซค์คว่ำเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีอาการ แต่พอเราไปถึงจะถ่ายอยู่แล้วเขาเกิดปวดหัวอย่างแรง พอเข้าโรงพยาบาลหมอบอกต้องผ่าตัด เขาเลยให้อีกคนมากำกับฯ แทน โดยจะเป็นส่วนของการเต้น ส่วนการถ่ายอย่างอื่นต้องรอจนกว่าเขาจะหายดี นี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้กี้ต้องกลับก่อนกำหนด เพราะกำหนดเดิมคือวันที่ 29 เม.ย."

"อีก 3 วันต่อมาก็ฟิตติ้งเสื้อผ้า ฟิตติ้งเสร็จถึงมีโอกาสทัวร์เมืองกัน ซึ่งกี้รู้สึกว่าคนของเขาเป็นแบบพอเพียง ไม่เห็นเขาจะมีเสื้อผ้าเยอะแยะ ไม่มีแฟชั่น มีชายทะเล แต่ไม่ลงไปเล่นน้ำ เป็นอะไรที่แปลกดี และไปเห็นชิงช้าสวรรค์ขนาดเล็กที่ใช้คนโยก ก็เลยลองนั่ง ขำๆ ดี เขาทำอะไรกันตามมีตามเกิด แต่ดูเขามีความสุขกันดี"


จากนั้นก็มาถ่ายจริงวันที่ 4 ซึ่งพิ้งกี้เล่าว่า

"ก่อนถ่ายจะมีการซ้อมเต้นกันก่อน ความมหาโหดเริ่มตรงนี้แล้ว เพราะมันยากมากๆ เพลงยาวถึง 7 นาที และโดยวิธีการเต้นของทมิฬ จังหวะเขาจะเร็วๆ กระชับ ท่าเต้นจึงต้องรุนแรงและเร็วไปด้วย จังหวะหายใจแทบไม่มี วันนั้นตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม พอกลับที่พัก เท้าลอกออกมาเป็นแผ่นๆ เลย เพราะเราเต้นรุนแรง แล้วพรุ่งนี้จะต้องไปถ่ายจริงแล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ กี้ก็เริ่มกังวล เพราะขนาดซ้อมยังเหนื่อยขนาดนี้ ของจริงจะขนาดไหน กลับถึงห้องต้องให้พี่สะใภ้มานวด ให้เพราะมันหนักจริงๆ"

"วันต่อมาซึ่งเป็นวันถ่ายจริง พอไปถึงกองถ่ายตอนสายๆ เห็นโลเกชั่นก็ตกใจ เป็นเหมือนแกรนด์แคนยอน เป็นเหมือนแพะเมืองผี ไม่มีต้นไม้เลย แดดงี้เปรี้ยง อากาศร้อนมาก แต่ทีมงานก็มีรถบ้านให้ใช้ แต่ทีมเราหลายคน คนของเขาที่ต้องขึ้นไปแต่งหน้าทำผมก็มี ซึ่งทีมงานของอินเดียจะไม่มีผู้หญิงเลย เสื้อผ้าหน้า ผม จะเป็นผู้ชาย และเป็นผู้ชายแท้ๆ ด้วย ไม่ใช่กะเทยอย่าง บ้านเรา แต่ขอบอกเขาแต่งหน้าสวยมาก ละเอียดมาก ทำด้วยความนุ่มนวลและสุภาพ น่ารักมากๆ"

"วันแรกที่ถ่าย เราร้องโอ้โหเลย สังเกตมั้ยคะว่า ทำไมในหนังอินเดียถึงเต้นพร้อมเพรียงกันมากๆ และท่าจะเป๊ะๆ ที่เป็นแบบนั้นเพราะเขาจะซ้อมกันสั้นๆ และถ่ายกันสั้นๆ อย่างท่อนนี้ 7 วินาที ก็เต้นกันเท่านี้ ไม่ถ่ายกันยาวเป็นเพลงเหมือนบ้านเรา เขาจะสอนตรงนั้น ให้จำกันตรงนั้น และแสดงกันตรงนั้น ซอยละเอียดยิบ มุมกล้องถึงเยอะมาก และการถ่ายใช้เวลามากๆ ทำให้เราเพิ่งจะเข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง เพลงนี้เพลงเดียวถ่ายถึง 5 วัน"


สำหรับสถานที่ถ่ายทำ อยู่ไกลจากในเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง

ที่นั่นพิ้งกี้เล่าว่า บริเวณนั้นเป็นชาวบ้านจนๆ พอมีกองถ่ายเข้าไปถ่าย เขาก็มาดูกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ ซึ่งมอมแมมมาก บางคนกินดิน แม่เห็นก็สงสารให้เงินไป 100 รูปี ประมาณ 140 บาทไทย พอตกเย็นยกกันมาทั้งหมู่บ้านเป็นร้อยๆ คนมั้ง เขาไม่ได้มาขอ แต่มามองหน้าเรา เราก็อดสงสารไม่ได้ แม่ก็ให้ไปอีก"

ตลอดระยะเวลาการทำงานสิบกว่าวัน พิ้งกี้ได้รับคำชมเชยจากผู้กำกับฯ ที่เป็นแดนซ์มาสเตอร์ที่รายงานให้ผู้กำกับฯ ที่พักรักษาตัวอยู่ฟังทุกวัน ทำเอาดาราสาวเป็นปลื้มและมีกำลังใจในการทำงานอีกเยอะเลยทีเดียว

ส่วนเรื่องความฮอตนั้น ไม่ต้องห่วง พิ้งกี้เล่าว่า

"คนที่นั่นเขาจะตื่นเต้นกัน เพราะข่าวที่กี้ไปแสดงที่นั่นมันดังไปก่อนหน้าที่กี้จะไปอีก ตอนนี้เขาเตรียมตัวให้ถึงขนาดว่าวันเปิดตัวหนัง เขาให้เรามาท่องเหมือนกับสปีชบนเวทีเป็นภาษาทมิฬ พูดให้ถูก ชัดเจน ประมาณ 2 หน้ากระดาษ เขาอยากให้คนทั้งฮอลล์ลุกขึ้นยืนและปรบมือให้เราขนาดนั้น ซึ่งตอนแรกในเดือนก.ค. คือกำหนดเปิดตัว แต่พอเขาไม่สบายก็ไม่รู้ว่าจะเลื่อนไปอีกนานขนาดไหน"

"และเห็นเขาบอกว่า เตรียมหนังไว้ให้อีกปลายปี และจากนี้ไป เวลาไปที่นั่นก็จะจัดบอดี้การ์ดให้ 2 คน เพื่อดูแลความสะดวกและความปลอดภัย"

แหมก็ทั้งสาว สวย เก่ง มีอนาคตไกลขนาดนี้ ระวังไว้ก่อนเป็นดี


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์