พิ้งกี้ ลั่นไม่คิดเป็นเมียน้อยใคร

กำลังเป็นสาวที่สื่ออยากจะเจอตัวมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับนางเอกสาวตาสวย พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช หลังจากที่เธอตกเป็นข่าวฮือฮาว่าเป็นมือที่ 3 เขย่าขาเตียงนางเอกรุ่นพี่ ธัญญ่า-ธัญญาเรศ และสามี ร.ท.สัณชัย เองตระกูล วันนี้สาวพิ้งกี้จะมาเปิดใจเคลียร์ทุกข่าว ตั้งแต่เรื่องดังกล่าวไปจนถึงเรื่องที่มีข่าวว่าเธอจะย้ายไปอยู่ช่อง 3     

***ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง เรื่องการทำงานที่อินเดีย
   
การทำงานที่อินเดียก็ไปมาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ก็ถือว่านานเหมือนกัน ตอนแรกที่ไปเนี่ยก็กำหนดเอาไว้ว่าเดือนกว่า แต่พอดีผู้กำกับต้องไปเอกซเรย์สมอง เพราะเคยตกรถมอเตอร์ไซค์ งานที่โน่นก็เลยต้องเลื่อนไป กี้ก็เลยกลับมาก่อน แต่ว่าการทำงานกี้ก็ได้ทำมา สเต็ปหนึ่งแล้วคือ การเต้นแล้วก็ร้องเพลง ถือว่าเป็นการนำร่องที่ยากพอสมควร แล้วต่อไปก็คงยากกว่าเดิมขึ้นอีก เพราะจะเป็นเรื่องของการแอ๊คติ้งแล้ว


***เห็นต้องมีเต้นด้วย
   
ใช่ ๆ มันไม่ใช่แค่ไปเล่นละครอย่างเดียว จากที่เราเคยเล่นหนังเล่นละครก็ถือว่ายากแล้ว เพราะภาษาที่เราพูดก็เป็นภาษาอื่น เรายังต้องไปเต้นอะไรที่มันเป็นแนวอินเดียนสไตล์จริง ๆ ต้องไปวิ่งบนภูเขา

***การทำงานที่นั่นกับที่นี่แตกต่างกันมากแค่ไหน
   
เราเป็นคนต่างชาติ เขาก็จะไม่รู้จักเราเลยว่าใครคือ “พิ้งกี้” การที่เราจะไปที่นู่น  ทั้งผู้กำกับและทีมงานอีกหลายร้อยคน เขาก็จะมองว่าเราจะไหวมั้ย เราจะเป็นยังไง การทำงานทุกวันนอกจากจะอดทน เราต้องตั้งใจมากกว่า 100% พักปุ๊บต้องซ้อมต้องคิดเรื่องงานตลอด ทำงานหนักและเหนื่อยมาก อยากจะร้องไห้มาก เราเต้นกลางแดดตอนเที่ยงวัน คัตแล้วคัตอีก เพราะเขาจะถ่ายหลายมุม เพื่อเลือกมุมที่สวยที่สุด เราก็จะต้องเต้นให้เพอร์เฟกต์ที่สุด ทุกครั้ง ถามว่ามีท้อมั้ย ท้อนะ เต้นทีฝุ่นเข้าหน้า เต้นจนขาถลอก วันแรกที่ไปทำงานก็มีประจำเดือนอีก ปวดท้องมาก แต่พอแอ๊ค ชั่นเราก็ต้องยิ้มสู้

***อยู่ที่เมืองไทยพิ้งกี้ก็เป็นนางเอกระดับต้น ๆ  แต่พอไปที่นั่นเหมือนเป็นเด็กใหม่ เขาดูแลเราดีมั้ย
   
พอขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอก ทุกคนก็จะให้เกียรติเรามีคนดูแล ซึ่งอาจจะดูแลมากกว่าที่นี่ด้วยซ้ำ เขาบอกเราว่าอยู่ที่เมืองไทยมีบอดี้การ์ดมั้ย เขาบอกว่าเราควรจะมีบอดี้การ์ดดูแลเรา 2 คน  เวลาไปเดินห้างอย่าให้คนเข้าถึงตัวเราได้ นั่นคือสิ่งที่เขาวางไว้ เราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก อยู่เมืองไทยมีแค่คนขับรถก็พอ แต่ถ้าอยู่ที่นั่นสมมุติมีผลงานออกมาแล้ว เราจะเป็นอีกแบบหนึ่งไปเลย คือ อุตสาหกรรมหนังที่นั่นมันใหญ่ ไม่ว่าหนังจะดังหรือไม่ดังเราเปรี้ยงแน่นอน  เพราะคนจะรอดู

***อย่างนี้พิ้งกี้กดดันมั้ย
   
พยายามที่จะตัดแรงกดดันที่มี อย่างตอนอยู่เมืองไทย กี้ก็กดดันนะ เพราะคนหาว่าเราเป็น “นาธาน 2”  ตอนนั้นกี้พยายามไม่รับฟังข่าวสาร เราคิดว่าเราไปเพื่อทำงาน ไปทำงานที่อินเดียเงินก็ไม่ได้เยอะ เราไปเพื่อเอาประสบการณ์ เรื่องชื่อเสียงจะไปได้ไกลแค่ไหนก็ค่อยว่ากัน อีกอย่างที่กี้หนักใจคือเรื่องภาษา ช่วงที่ไปถ่ายทำก่อนหน้านี้ เรายังถ่ายแค่ซีนเต้น แต่หลังจากนี้จะต้องถ่ายบทพูดแล้ว กี้ต้องทำงานอย่างหนัก พยายามจำบท


***ทิศทางการทำงานโอเคหรือเปล่า
   
อยู่ที่นั่นกี้ได้ทำอะไรที่ยังไม่เคยทำทั้งหมดในชีวิตเราเลย เป็นบทบาทที่ดีมาก ๆ ก็ต้องรอดูกันว่าจะเป็นอย่างไร

***ถ้ากระแสตอบรับดี กี้จะอยู่ที่นั่นเลยมั้ย 
       
ทางทีมงานอยากให้กี้ไปอยู่ที่นั่นเลย ให้ทิ้งเมืองไทยไปเลย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเราไปอยู่ที่นั่นต้องประสบความสำเร็จในจุดหนึ่งอยู่แล้ว แต่สำหรับตัวกี้เองรู้สึกว่าที่นั่นมันไม่ใช่บ้านเรา ยังไงที่นี่ก็คือบ้านเรา เราจะทำอะไรก็ได้สบายใจ แต่ที่นั่นถ้าผลตอบรับดีก็อาจจะกลับไปทำอะไรสักอย่าง แต่ยังพูดอะไรไม่ได้ ขอดูเรื่องของอนาคตก่อน

***ช่วงที่กี้ไม่อยู่ก็มีข่าวว่ากี้จะย้ายไปช่อง 3
   

ข่าวเยอะมาก ถึงขั้นแบบว่าที่ช่อง 3 วางละครให้กี้เล่นกับพี่อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ แล้ว ข่าวเยอะจนแบบ ตัวกี้ยังไม่รู้เรื่องเลย ต้องโทรฯถามแม่ตลอด งงมาก แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าสัญญากี้กับช่อง 7 เหลืออีก 2 เดือน ตอนนี้ก็ยังเล่นอยู่กับช่อง 7 และในอนาคตก็จะเล่นกับช่อง 7 ด้วย ส่วนช่อง 3 กี้ยังไม่ได้ไป แต่ถ้าหมดสัญญาแล้วกี้ก็อาจจะอิสระก็ได้ ถามว่าในอนาคตมีโอกาสไปช่อง 3 มั้ย ก็ไม่แน่ เราก็ไม่ได้ตายตัวอะไรอยู่แล้ว เพราะกี้อยากลองอะไรใหม่ ๆ ถามว่าทางช่อง 3 มีมาทาบทามกี้บ้างมั้ย ก็มีคุยบ้าง แต่ตอนนี้กี้ยังมีงานที่อินเดียด้วย ทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศกับ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ แล้วก็จะมีละครกับช่อง 7 อีก กี้ขอทำอะไรเป็นอย่าง ๆ ก่อนดีกว่า

***ขอถามถึงข่าวที่กำลังครึกโครมขณะนี้ว่ากี้เป็นมือที่ 3 ระหว่าง พี่เป๊ก-สัณชัย และ ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล
   
รู้จักกับพี่เป๊กมานานแล้ว ตอนไปถ่ายแบบให้กับนิตยสาร “อาร์พีเอ็ม” แต่เพิ่งจะมาสนิทก็ช่วงปลายปีที่แล้ว จริง ๆ พี่เป๊กเหมือนหัวหน้าแก๊ง เขามีน้อง ๆ เยอะมาก กี้ก็เป็นน้องคนหนึ่ง เขาเป็นคนช่วยเหลือคนอื่น กี้ก็สนิทกับเขา ก่อนหน้านี้ก็เคยไปเที่ยวกัน แต่ไปกันหลายคน มีพี่ชายและพี่สะใภ้ของกี้และเพื่อนคนอื่น ๆ อีก กี้จะไม่มีวันไปไหนกับเขาสองต่อสองเพราะเขาก็มีครอบครัวอยู่แล้ว


***งงมั้ยว่าทำไมไปมีข่าวกับเขาได้อย่างไร
   
จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มันละเอียดอ่อนมาก ช่วงที่กี้ไปอินเดียปุ๊บ วันรุ่งขึ้นก็มีข่าวเลย กี้ไม่มีโอกาสแก้ตัวอะไร ยิ่งนานวันยิ่งลาม มีข่าวในอินเทอร์เน็ตแบบแรงมาก กี้ยังรู้สึกว่ามันขนาดนี้เลยเหรอ โอเคข่าวทุกข่าวมันต้องมีมูลความจริง แต่ดันมีการใส่สีเติมแต่งเข้าไปด้วย อ่านแล้วแบบสะเทือนใจมาก กี้อยากจะบอกทุกคนว่า กี้ไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร ข่าวออกมาทำนองว่ากี้เป็นเมียน้อย กี้ได้แค่ระบายในเว็บไซต์ของ กี้เอง มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เป็นเรื่องใหญ่โตมาก แต่กี้อยู่ที่อินเดียก็ต้องทำงาน เปิดอินเทอร์เน็ตอ่านข่าวไปก็ร้องไห้ไป กี้กลับมาถึงกรุงเทพฯได้สักพักแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ออกมาพูดเรื่องข่าว คนก็มองว่าทำไมกี้ไม่ออกมาพูด จริง ๆ อยากออกมาพูดมากนะ แต่เพิ่งจะมีคนรู้ว่ากี้กลับมาเลยเชิญเราไปออกงานวันที่ 14 พ.ค.นี้ กี้ก็จะพูดในงานนั้นทีเดียว ก็อยากให้ฟังความสองข้างนะ

***ข่าวสร้างความกระทบกระเทือนใจให้กับครอบครัวมั้ย
   
มากค่ะ ถึงขั้นที่เพื่อนคุณพ่อโทรฯมาถามคุณพ่อว่า ลูกแกไปเป็นเมียน้อยเขาเหรอ กี้ไม่อยากให้พ่อรับรู้ข่าวนี้ อย่างข่าวที่บอกว่าพี่เป๊กซื้อรถให้เนี่ย พ่อถึงกับจะออกโรงเองเลย เขาอยากพูดแทนเรา เขาอยากจะพูดว่ามันมีปัญหาอะไรมากมั้ย รถคันนี้พ่อเป็นคนซื้อให้ลูกเอง เราใช้เงินในครอบครัวเราได้ กี้ก็มีงาน ช่วงนั้นมันลุกลามมาก เราก็ได้แต่นั่งฟังข่าว

***เห็นถึงขั้นจะมีการฟ้องร้องเลย
   
คือกี้เรียนมา เราก็รู้ว่าทางนั้นไม่มีสิทธิพาดพิงเรา ก็รอดูต่อไปแล้วกัน คุณแม่พูดไปว่า “จะ” แต่ยังไม่ฟ้อง ก็รอไปแล้วกันว่ามันจะมากกว่านี้มั้ย

***ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า พิ้งกี้จะไปเล่นคอนเสิร์ตที่อเมริกากับพี่เบิร์ด พี่ธัญญ่ากับพี่เป๊กก็ไปเที่ยวอเมริกาช่วงนั้นพอดี เลยมีข่าวเมาท์ว่าพิ้งกี้,พี่เป๊กและพี่ธัญญ่าจะไปเคลียร์กันที่นั่น
          
จริง ๆ อยากจะให้เรื่องเงียบ ๆ ไปนะ กี้ทำทุกอย่างที่ควรจะทำได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ในเมื่อทุกวันนี้อาจจะยังไม่จบ มันก็คงต้องแสดงความปกป้องศักดิ์ศรีเราบ้าง ถ้ากี้ทำอะไรตามกระบวนการกฎหมายได้กี้ก็จะทำ ส่วนเรื่องจะโทรฯไปเคลียร์กับอีกฝ่ายมั้ย กี้เคลียร์ไปตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่มีข่าวแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต้องแก้อะไรแล้ว

***ช่วงแรก ๆ ที่มีปัญหาพี่เป๊กได้โทรฯมาคุยบ้างหรือเปล่า
          
ก็มีโทรฯมาอยู่แล้ว เพราะมันหนักสำหรับตัวกี้ พี่เขาก็เป็นห่วงครอบครัวเรา เพราะเราก็มีครอบครัว กี้ก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับมาเมืองไทยกี้จะบอกพี่ ๆ นักข่าวเอง แต่ด้วยความที่เราอยู่ที่นั่น เราเลยยังพูดอะไรไม่ได้


***ถึงขั้นต้องลดความสนิทกับพี่เป๊กลงมั้ย
   
ไม่คุยแล้ว เป็นการตัดปัญหา เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

***ที่ผ่านมากี้ไม่ค่อยมีข่าวเสีย ๆ หาย ๆ แต่จู่ ๆ ก็ตกเป็นข่าวแรงขนาดนี้เสียใจบ้างมั้ย

   
มันทำให้เรารู้สัจธรรมชีวิต ถือว่าทุกข์สุด ๆ ในชีวิต คือต่อไปนี้เราเจออะไรในอนาคตก็คงไม่ท้อ เพราะเราผ่านอะไรแย่ ๆ มาแล้ว คงไม่โทษใคร มันเป็นความเข้าใจผิดกัน เวลาเราเห็นข่าวคนอื่นเราไม่รู้สึกไง แต่พอเราเจอเองเราจุกเลย แต่ก็ยังดีใจที่ยังมีคนให้กำลังใจเรา ก็อยากให้ทุกคนฟังกี้ก่อนแล้วค่อยตัดสินกี้

***เป็นเพราะกี้โสดด้วยหรือเปล่าเลยถูกจับคู่กับคนนั้นคนนี้

   
ตรงนี้แหละสำคัญ พอเราไปไหนกับใคร คนก็จะโฟกัสตัวเรากับคนที่มีชื่อเสียงทางสังคม ก็คงเป็นเพราะเราโสดเลยโดนแบบนี้ แต่ก็คงโสดแบบนี้ไปอีกพักใหญ่ เพราะยังไม่มีใครเข้ามาเลย อย่างตอนไปทำงานที่อินเดีย เราก็ไม่ได้ออกไปไหน ทำแต่งานตลอด

***เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนครั้งใหญ่เลยมั้ย
   
สอนเยอะเลยนะ ทำให้เราเห็นว่าเวลาคนเราล้ม อาจจะมีคนซ้ำเติม แต่เราต้องอยู่ด้วยกำลังใจ ตอนนั้นกี้ท้อจนไม่อยากอยู่ในวงการบันเทิงเลย เป็นอะไรใครที่ไม่โดนไม่รู้ ตอนนี้ก็ได้แต่รอให้เรื่องมันผ่านไป
   
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ ก็ขอให้สาวพิ้งกี้ผ่านพ้นเรื่องราวร้าย ๆ ไปได้ด้วยดี ยังไงเสียก็ยังมีคนที่รักและอยากจะให้กำลังใจเธออยู่อย่างแน่นอน ก็ขอให้สู้ต่อไปนะจ๊ะ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์