พักไมค์ : ?แอม? ปลงบทเรียนชีวิตคู่ ?ความรัก? ออกแบบไม่ได้

พักไมค์ : แอม ปลงบทเรียนชีวิตคู่ ความรัก ออกแบบไม่ได้

นาน ๆ จะมีผลงานเพลงออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังเสียที อย่างอัลบั้มชุดนี้ก็ห่างหายไปถึง 2 ปี ซุ่มเก็บเนื้อหาเพื่อมาถ่ายทอดเรื่องราวความรักและประสบการณ์ผ่านบทเพลง สำหรับ แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ซึ่งวันนี้ พักไมค์ ไม่พลาดที่จะมีนัดกับเธอมานั่งสนทนา เก็บรายละเอียดมาฝากแฟน ๆ เหมือนเคย

ทุกวันนี้ถึงเธอจะได้ชื่อว่าเป็นศิลปินคุณภาพระดับแนวหน้าของเมืองไทยก็ตาม แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น สตาร์ เลย กลับคิดว่าเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราเป็นคนทำงานที่ไม่ใช่สตาร์นะ ในที่สุดมันก็คือความจริง ความจริงก็คือคนคนนี้ก็เป็นคนแค่เนี้ย ไม่รู้สิเราชอบแบบนี้ สบายใจดี สตาร์ เขาต้องมีมาดอีกแบบนึง ไม่ใช่แบบที่เราเป็นหรือเปล่า ส่วนแอมเองจะเป็นคนที่ยังไงดีล่ะ อย่างที่น้อง ๆ เห็น เดินไปไหนเจอน้อง ๆ ที่ไหนก็แล้วแต่ เข้าไปทักทายพูดคุยได้ อย่างวันก่อนไปอัดรายการ เรายังแต่งหน้าทำผมไม่เสร็จเลยเดินออกมานอกสตูดิโอ มาเจอน้อง ๆ ทัก เขาก็ยังจะมาขอถ่ายรูปเราได้เลย ถ้าเป็นสตาร์เขาคงไม่ทำอย่างนี้กันมั้ง

แล้วช่วงเวลาที่ผ่านไปล่ะ เธอใช้เวลานั้นไปทำอะไร....

ไม่ได้ทำอะไรเลย เกเรซะงั้น ไม่ขยันหรอกค่ะ (หัวเราะ) ก็จะอยู่ในโลกส่วนตัว แล้วก็ไปอยู่กับคุณน้าที่ฝรั่งเศส แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวหรอก ไปอยู่ที่นั่นก็ไปนอน เพราะไม่มีใครมาโทรฯตาม กินฟรีอยู่ฟรีหมด สบายไม่เปลือง บังเอิญพอดีอาชีพอย่างเรา ถ้าเที่ยวในประเทศคงหนีคนไม่ค่อยพ้น ก็เลยต้องไปเที่ยวไกล ๆ ไง เพราะฝรั่งเขาก็ไม่รู้จักเราด้วย

ดูภายนอกค่อนข้างเป็นคนที่มีหลากหลายอารมณ์ บางครั้งก็ดูสนุกสนาน บางเวลาก็ดูเงียบขรึม แฟน ๆ คงอยากรู้ถึงชีวิตส่วนตัวของ สาวแอม กันบ้าง

แอมใช้เวลาช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเนี่ย ด้วยความระมัดระวังเกินเหตุไป เป็นคณิตศาสตร์ มากคำนวณชีวิตมากเกินไป และในระหว่างทางที่ทำอย่างนั้นได้ใช้พลังในร่างกายไปหมดแล้ว เหนื่อยมากกับพลังในการบังคับชีวิตให้เป็นไปอย่างที่เราออกแบบ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ก็เลยขอพักการออกแบบก่อนใช้แรงไปหมดแล้วเหนื่อยมาก ขอปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ สบาย ๆ มีคนเข้ามาคบหารู้จักกันก็คบ มีไมตรีจิตกันไป ไม่มีก็ช่างหัวมัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาพี่มีความเชื่อผิด ๆ คิดว่าชีวิตออกแบบได้ แต่ในที่สุดแล้วพระเจ้าก็บอกว่าไม่ได้มันออกแบบไม่ได้ พ่อพี่ก็ยังว่าพี่เลยว่าเลิกทำตัวเป็นพระเจ้าของตัวเองได้แล้ว.

อย่างตอนนี้เป็นช่วงเห็นแก่ตัว เพิ่งจะมาซึ้งกับคำนี้มากเลย ในช่วง 2 ปีนี้ คือไม่ใช่เห็นแก่ตัวแบบรู้สึกไม่ดีนะ แต่เป็นการเห็นแก่ตัวของฉันเองบ้างดีมั้ย หลังจากที่เห็นแก่ตัวของคนอื่นมามากแล้ว ที่ผ่านมารู้สึกว่าเราต้องทำอย่างนี้ต้องทำอย่างนั้น ไม่งั้นเดี๋ยวคนเค้าจะเกลียดเรา ทำอย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่ถูกใจคนนั้นคนนี้ ซึ่งในความเป็น จริง บ้าหรือเปล่าคนเรามีความคิดไม่เหมือนกันเราจะไปทำให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ พี่มีความคิดว่าถ้าเรามั่นใจว่าเราเป็นคนดี พี่ไม่รู้นะถึงความมั่นใจในตัวเองจะหมดไป แต่ถ้าเราทำดี คนที่รู้สึกหรือเห็นตรงจุดนี้ของเรา เขาก็จะมาคบกับเรา ถ้าหากเขาไม่เห็นหรืออยากให้พี่ไปทำอะไรตามใจเขา พี่ก็จะไม่ทำแล้ว

แล้วสาเหตุที่ทำให้เธอกลับมาคิดแบบนี้ได้เพราะอะไรกันแน่!

ก็มันมาถึงจุดที่ว่า เมื่อก่อนพี่คิดว่าถ้าเราดีกับทุก ๆ คนเนี่ย ถึงเราจะไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ตอบแทน แต่อย่างน้อยสิ่งที่เราจะได้รับก็คือความเกรงใจ จะเรียกว่าอะไรดี มีความซาบซึ้งน้ำใจกันบ้าง แต่พี่ว่าพี่เข้าใจผิด เพราะสิ่งที่พี่เข้าไปปะปนอยู่กลายเป็นว่ายิ่งเราตามใจเขามาก เขาก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก อารมณ์แบบว่ามาถึงจุดนึงเราทำอะไรมันก็ผิดไปหมด ต่อให้ทุ่มเทแค่ไหน ต่อให้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับให้ทุกคน มันก็ดูเหมือนจะไม่พอไปหมดแล้ว ทีนี้ในลิมิตของคนมันก็เริ่มจะแย่ ชักไม่ไหวแล้ว อย่างที่บอกความเป็นตัวของเราเองมันหล่นหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้

ดูจากเนื้อหาของเพลงในแต่ละครั้ง มักจะถ่ายทอดอารมณ์ของความรักได้โดนใจทุกครั้ง เลยอดถามถึงมุมมองความรักในสายตาของเธอไม่ได้ ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง

ก็เห็นนะว่าคนที่เขารักกันอยู่มันก็ยังมีอยู่ในโลกนี้ และความรักในแบบอื่น ๆ ก็ยังมีอยู่ ถ้าจะพูดถึงในแง่ของแฟนเนี่ย เราอาจจะยังไม่เจอก็ได้ คือ ที่เราตามหาอยู่ เนื้อคู่ฉันอยู่ไหนนะ มันมีหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็เลยเฉย ๆ ซะดีกว่า เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังไงก็ได้ คบผู้ชายได้ มีแฟนได้ เดทได้ แต่ถามว่าจะให้รักมากมายก่ายกองมั้ย ขอคิดก่อน บางทีเราอาจจะรักคนนั้นมากกว่าคนนี้ก็ได้

ไหน ๆ ก็เอ่ยถึงเรื่อง ความรัก แล้ว วกมาเข้าเรื่องความรักของเธอผู้นี้กันบ้าง เพราะก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่า เธอเพิ่งผ่านประสบการณ์ อกหัก มาหมาด ๆ

คือเป็นช่วงที่ระบบล่ม บังเอิญมันล่มทุกเรื่องมันล่มพร้อมกันภายในปีเดียว มันเหมือนกับเราเมาหมัด คือมันไม่ใช่เรื่องเดียว แต่สังคมอาจจะทราบเพียงเรื่องเดียวคือตัวเองเลิกกับแฟน แต่จริง ๆ ไม่ใช่ มีเรื่องในครอบครัวด้วย เราต้องจัดการชีวิตคนในครอบครัวด้วย เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ไหวแล้วขอรีเซตใหม่หมด และการที่เรารีเซตตัวเองมันก็ต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ นั่นก็คือปีที่เราหายไป

อย่างไรก็ตามแฟนคลับ สาวแอม คงต้องเป็นกำลังใจให้ตลอดไปแน่ ๆ จริงมั้ย!.