พอลล่า เทเล่อร์ ถ่ายทอดความเป็น “แม่” ผ่านภาพยนตร์เรื่อง “ร่าง”

พอลล่า เทเล่อร์ ถ่ายทอดความเป็น “แม่” ผ่านภาพยนตร์เรื่อง “ร่าง”

พักเบรกเรื่องหนังไปนานถึง 4 ปีเต็ม กลับมาคราวนี้นางเอกสาว พอลล่า เทเล่อร์ พลิกบทบาทแบบเต็มพิกัด ทิ้งคราบใส มาบทดราม่าแบบสุดๆ ในภาพยนตร์เรื่อง “ร่าง” ของค่ายโกลเด้นท์ เอ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ หนังที่เธอบอกว่า ร้องไห้มากที่สุด หนังที่เธอแต่งหน้าน้อยที่สุด และเป็นหนังที่ดราม่าที่สุดในชีวิตของเธอ ด้วยเหตุนี้เราจะขอคิวเธอมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ พร้อมๆ กับอัพเดทเรื่องราวในชีวิตของเธอ

@ อะไรคือแรงบันดาลใจในการรับเล่นหนังเรื่องนี้

เรื่องราวของหนังมันน่าตื่นเต้นดี แล้วก็ไม่ได้เป็นหนังผีแบบจ๊ะจ๋ามากมาย แต่มันเป็นในเรื่องดราม่ามากขึ้น มันเป็นอีกแนวที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน เหมือนพอลล่าพลิกบทบาทไปเลย ก็สนุกดี และคนไทยชอบหนังผี มาดูเลย ที่มารับนี้เพราะมันแปลก พอลล่าตัดสินใจไม่นาน พออ่านเนื้อเรื่องแล้วก็รับเล่นมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับพอลล่า เมื่อก่อนเราก็อยากเล่นอะไรแบบนี้นะ อยากเปลี่ยนแนวใสๆ บ้าง แต่ว่าไม่ค่อยได้โอกาส พอมีน้อง (น้องไลลา) มันก็เหมือนเปิดมิติใหม่ให้เรา เออ..เล่นแบบนั้นสิ เล่นแบบนี้สิ

@ ชอบความเป็นหนังผี หรือความเป็นดราม่า

ชอบทั้งสองอย่างเลย ในส่วนดราม่า มันจะดราม่ามาก มันจะ deep มาก มันเหนื่อยมาก พอลล่ามานั่งคิดนะ เอ...เรื่องนี้ได้ยิ้มเปล่าเนี่ย..เออ..ได้ยิ้มตอนแรก (หัวเราะ) เป็นเรื่องที่ร้องไห้ตลอด ทุกคนบอก พอลล่า ไม่ยิ้มเลย ก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยดราม่านะ ก็จะมีเรื่อง บ้านฉันตลกไว้ก่อนพอสอนไว้ มันก็ดราม่านิดนึง ไม่ได้ดราม่ามาก เป็นหนังที่ออกใสๆ มากกว่า

@ เรียกได้ว่าไม่เคยเล่นหนังผีมาก่อนเลย

ไม่เคยเล่น โอเค. มันอาจจะมีในเรื่องของดราม่า แต่ ผี ส่วนใหญ่มันก็เป็นซีจีเน๊อะ ซึ่งเราก็ยังไมเห็น ตอนเล่นก็คิดเอง กลัวผีมั้ย พอลล่ากลัวคนมากกว่า เพราะคนสามารถทำร้ายเราได้มากกว่าผี แต่ก็กลัวแหละ ไม่ใช่ว่าอยากเจอหรอก มันก็ตื่นเต้น ส่วนใหญ่พอลล่าไม่ดูหนังผี เพราะกลัว แต่เรื่องนี้ต้องดู (หัวเราะ) ตอนเล่นมันยังไม่เห็น ก็ยากนะ บางทีการเล่นหนังผี ไม่เหมือนกับการเล่นหนังประเภทอื่น คือมันจะเห็นภาพเลย แต่การเล่นหนังผีจะยากกว่ามันต้องจินตนาการเอง ในหนังเขาทำซีจีก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะออกมายังไง

@ พอรู้ว่าจะรับเล่นหนังเรื่องนี้พอลล่าทำการบ้านอย่างไรบ้าง

ทำการบ้านกับผู้กำกับฯ เราเป็นคนที่ชอบอยู่กับผู้กำกับฯ ก็จะถามว่า จะเอายังไง แบบไหน พอลล่าไม่ชอบอ่านบทมาก เพราะเราจะไปจินตนาการในหัวเองว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอมาเล่นแล้วมันไม่ใช่ เราชอบที่อยู่กับผู้กำกับฯ ว่าเราจะทำอะไร จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราจะได้เล่นถูก

@ มีความยากหรือเครียดมากน้อยแค่ไหน

มันยากเหมือนกัน มันเป็นอะไรที่ไม่เคยเล่นมาก่อน มัน dark มันเศร้าตลอด deep deep แล้วก็เครียดมาก แต่เพราะด้วยบท มันเป็นอะไรที่เครียดตลอดเลย เป็นหนังที่ร้องไห้มากที่สุด ร้องตลอดเลย คุยกับผู้กำกับฯ ว่าจะมีร้องอีกมั้ยเนี่ย...เหนื่อยมากเลย วิธีการผ่อนคลายก็คือการนอนค่ะ ทำอะไรไม่ได้เลย ช่วงนี้วุ่นวายมาก ถ่ายหลายเรื่อง

@ กับน้องโมบาย (ด.ญ.วนิสา นุชนนท์) ล่ะคะ เป็นอย่างไร

น้องน่ารักค่ะ เขาเป็นคนที่ดวงตาของเขามีความใส ตาเขาโต เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก ร้องไห้เก่งมาก คือสั่งปุ๊บก็ร้องได้เลย จริงๆ ในเรื่องพอลล่าไม่ได้เป็น แม่เขานะ คือพอลล่าคิดว่า ในชีวิตจริงของพอลล่าได้เป็นแม่แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจเหมือนกัน การเอาใจ ดูแล มีตรงนี้ให้น้องเค้ามากขึ้นในฐานะที่เราเป็นแม่

@ พอลล่ากับน้องโมบายมีการปรับตัวอย่างไร

พอลล่าคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดานะ ที่เรามีเด็กคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต มันก็ต้องมีการปรับตัวแหละ แล้วก็ของเขาโอเค. เขาก็นิ่ง จริงๆ เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันหรอก เพราะตัวจริงเขาก็เป็นคนนิ่งๆ เขาไม่ค่อยพูด แต่ก็ไม่อึดอัดนะ มันเกี่ยวกับอารมณ์ที่แบบเขาโอเค.มั้ย มันเป็นการดูแลเขามากกว่า คือจริงๆ หลักอันแรกคือ เราต้องดูแลเด็กคนนี้ ยังไม่ต้องรักกัน หรือมีความผูกพันกัน ยังไม่ต้องพูดอะไรกันหรอก เราต้องดูแลเขา เขาจะต้องปลอดภัย และหลังจากนั้นค่อยๆ พยายามที่จะดูแลเขาให้ดี

@ ในหนังเรื่องนี้มีเรื่องของการทำแท้งด้วย

พอลล่าคิดว่าการที่จะทำอะไรแบบนั้น คือเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี พอลล่าคิดว่าทุกอย่างมันมีเหตุผล คือทุกอย่างมันข้อดีกับข้อไม่ดี เพราะว่าสิ่งเดียวคือทุกคนควรที่จะเลือกด้วยตัวอง ควรจะเป็น disition ของตัวเองว่าควรจะทำอะไร

@ มีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับฯ โจ๋-ภณ เป็นครั้งแรก

พี่โจ๋น่ารักมาก ก็คุยกันตลอด จริงๆ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ก็เลยไม่มีเวลาคุยกันมากมาย แต่พี่เค้าก็โอเค.นะคะ น่ารัก ตอนแรกเลยเราไปเจอผู้กำกับฯ ก็นั่งคุยกัน แล้วก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก ไม่ใช่หนังผีทั่วไป ที่ทำให้ทุกคนกลัว เน้นดราม่ามากกว่า แล้วมีผีมาแทรก จริงๆ หนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับความรักนะ แต่ไม่ใช่ความรักที่สดใส เป็นความรักแบบที่เป็นตัวเดินเรื่องที่แตกต่างกัน

@ เคยถามมั้ยว่าทำไมผู้กำกับฯ ถึงเลือก พอลล่า มารับบทนี้

เค้าบอกว่าด้วยความที่เราเป็นแม่ มันมีมิติอีกแบบหนึ่ง พอเราไปเล่นเออ..ก็จริงนะ มันเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องไปดูแลเด็กที่มีปัญหา เขาก็โตแล้ว เพราะเขาเกิดอุบัติเหตุที่บ้านเค้า เราก็รับมาดูแล และการที่เราเอาใจใส่ดูแลเขา มันก็ไม่เหมือนกับ การเป็นแม่คน มันจะเปลี่ยนไป มันจะมีความเป็น แม่ มากขึ้น

@ ในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างต่างกับชีวิตจริงของพอลล่ามากๆ

พอลล่าก็ต้องคิด ต้องนึกว่า ถ้าชีวิตมันเจอแบบนี้ dark มากๆ แบบนี้จะต้องทำยังไง ว่ามันรู้สึกอย่างไร ถ้ามันเสียไปจะเป็นอย่างไร ก็คิดว่าถ้าสิ่งที่เรามีหายไปเราจะทำอย่างไร

@ บทที่เล่นกับเด็ก ส่วนใหญ่จะเล่นกับพระเอก

คนมักจะถามว่า พระเอก เป็นใคร เราก็บอก ไม่มี (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ก็จะเล่นกับน้องโมบายมากกว่า พอลล่าคิดว่าการที่เราเป็นแม่ ทำให้เราเปลี่ยนไปจากตรงนี้ การที่เราเล่นกับน้องโมบาย ความเป็นแม่มันช่วยเลย คือเขาไม่ใช่ลูกเราหรอก แต่เราเอาความใส่ใจเข้าไป เหมือนลูก ด้วยบทมันคือเราอยากจะมีลูก ก็เลยเอาเด็กคนนี้มาเลี้ยง ในเรื่องเราก็จะมีเพื่อนที่ทำงานสถานสงเคราะห์ แล้วเพื่อนรู้ว่าเราอยากมีลูก พอดีที่นั่นก็มีน้องโมบายอยู่ ซึ่งเขามีปัญหา ชีวิตเขาจะ dark มาก เราก็เลยรับเขามาดูแล พยายามดูแลเขา อยากรู้ว่าเขาเป็นอะไร ก็อินนะ เหมือนกับเราต้องจินตนาการว่า ถ้าเกิดแบบนี้เราจะทำอย่างไร คือการเงียบมันจะยากกว่าการโวยวายนะ การที่อยู่นิ่งมันยากกว่าเยอะมาก เขาก็นิ่ง เราก็เหมือนแบบต้องพยายามดูแลเขา

@ เห็นว่าหนังเรื่องถ่ายไปพร้อมกับซิทคอม “เนื้อคู่ประตูถัดไป ซีซั่นใหม่” ด้วยมีการปรับอารมณ์อย่างไร

เอาเครียดมาก่อน แล้วค่อยมาซิทคอม (หัวเราะ) อย่าง เนื้อคู่ประตูถัดไป ก็ยังเป็น ขวัญใจ คาแร็กเตอร์เขากำลังจะโตขึ้น อยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องโตขึ้น ซีซั่นนี้ตัวละครจะมีพัฒนาการเยอะขึ้น แต่ละคนจะมีความรับผิดชอบมากขึ้น ทุกคนจะต้องโตกันแล้ว จริงๆ ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องราวมาก เพราะเขาให้มาทีละตอน ไม่อยากให้เรารู้เยอะ เราก็จะตื่นเต้น ต่อไปจะเป็นยังไง  อะไร

@ ละคร ดงดอกงิ้ว ของช่อง 8 ล่ะ

ก็จะเป็นแนวแรงๆ หน่อย ดราม่า bitchy หน่อย ไม่เคยเล่นแบบนี้ แล้วกลับมาเล่นละคร และเราก็ไม่เคยเล่นแบบนี้ เหมือนที่เราบอกว่า ต้องเคาะสนิม ทุกวันนี้ยังเคาะอยู่ มันเหนื่อยมาก มันยากมาก แต่ละอัน การทำงานไมเหมือนกันด้วย ตอนนี้บอกได้เลยว่า ละครยากสุด

@ รู้สึกว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง และได้รับงานที่แตกต่างมากขึ้น

พอลล่าคิดว่า การที่พอลล่าได้มาเป็นแม่แล้ว ทำให้เราเปิดมิติให้ตัวเอง รวมถึงงานในวงการด้วย เปิดมิติแบบไม่ต้องสดใสอย่างเดียว สำหรับงานพอลล่าเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เหมือนเราโตขึ้น พัฒนาขึ้น ได้เล่นอะไรที่แบบใหม่ ซึ่งเราก็เหมือนอยากเล่นแบบนี้มาตลอด ถ้าตอนเด็กก็คงไม่คิดหรอกว่าเราจะได้เล่นแบบบทนี้ ก็คิดแค่ว่าอยากเปลี่ยน อยากเปลี่ยน แต่ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปในรูปแบบไหน

@ อะไรคือสิ่งสำคัญในการกลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง

สำคัญที่สุดคือ รับงานที่ตัวเองอยากทำ เราคงไม่ได้อยู่ในจุดที่เราต้องเก็บเงินเยอะๆ พยายามที่จะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจทำมากกว่า ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในช่วงที่ vest คือเรามีเวลาละ มีเวลาที่จะเลือกว่าเราจะทำอะไร ถามตัวเองว่าอยากทำอะไร อยากเล่นอะไร ก็เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่เราอยากทำ บอกไม่ได้หรอกว่ามันคืออะไร อยากเล่นอะไรที่ใหม่ๆ มันเปิดมิติให้เรา

@ หันมาเรื่องส่วนตัวกันบ้าง มีแพลนที่จะมีน้องอีกสักคนมั้ย

วางแพลนไว้แล้วว่าจะมีปีหน้า ถามว่าอยากได้ผู้ชายมั้ย ถ้าได้ก็ดี แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่าต้องได้ผู้ชายนะ ใจจริงอยากมี 3-4 คน แต่ก็ไม่กดดันตัวเองว่าจะต้องมีให้ได้ ปล่อยมันไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องธรรมชาติ การมีลูกรู้เลยว่าชีวิตมันสนุกนะ เราบอกทุกคนเลยว่า มีลูกมันสนุกนะ ยุให้ทุกคนมีเลย (หัวเราะ) เราก็ชวนเพื่อนๆ ว่ามีลูกเลย เราบอกทุกคนไม่ได้หรอกว่า เอ้ย...มีลูกสิ มันสนุกนะ ต้องมีเอง จริงๆ มันเหนื่อยแต่มันก็สนุก เหมือนที่คนเขาบอกว่า มันเติมเต็ม มันจริง เมื่อก่อนเราทำงานเหนื่อยแล้วกลับบ้าน เสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นเราก็ไปลุยงานต่อ คือเราไม่ได้มีอะไรอยู่ที่บ้าน แต่ตอนนี้พอเรากลับมาบ้านแล้ว เราก็มีใครที่รอเราอยู่ ทุกวันนี้เรื่องความรักในชีวิตพอลล่ามันอิ่มดี คือเมื่อก่อนทำงานเหนื่อยๆ แล้วกลับมาบ้าน แล้วก็อยู่คนเดียว วันๆ หนึ่งเราอาจจะอยู่กับคนอื่นเป็นพันๆ คน แต่พอกลับบ้าน เรากลับมาอยู่คนเดียว alone ไม่ได้มีใคร ไม่ได้มีสามี ไม่ได้มีลูก แต่ตอนนี้พอทำงานเสร็จ พอเรากลับบ้านมา เรามีของเรา เป็นทีมเรา

@ ฝากถึงหนังเรื่องนี้

อยากให้คนไปดู อย่าเข้าไปเพราะเป็นหนังผี แต่อยากให้เข้าไปดูในความเป็น ดราม่า อยากให้ดูในเรื่องของความรัก อย่าคิดว่าเป็นหนังผีอย่างเดียว จริงๆ มีผีแค่ 10% เป็นความรักหมดเลย ผีก็มาจากความรักนะ แต่พอลล่าก็ไม่คาดหวัง ไม่อยากให้คนเข้าไปดูว่ามันเป็นหนังผี ทำให้คนกลัวตลอด อยากให้ดูว่าเป็นหนังรัก หนังดราม่า เกี่ยวกับความรัก ทำให้คนได้เก็บไปคิดมากกว่า

@ แล้วเรื่องธุรกิจ พอลล่า เบบี้ ล่ะเป็นอย่างไรบ้าง

ก็ดีค่ะ เพิ่งเริ่มปีนี้ ผ่านไปเก้าเดือน จริงๆ ยังไม่ค่อยมีเวลาให้กับมัน แต่ปีหน้าน่าจะให้มันเป็นรูปบริษัทมากขึ้น คงไม่มีใครอยากให้ออกมาปีละ 1 คอลเล็คชั่นหรอก (หัวเราะ) ปีหน้าก็ต้องตั้งใจออกมาหลายๆ คอลเล็คชั่น ปัญหาอยู่ที่เรื่องของโปรดักชั่น มันช้ามาก ปีหน้าจะมี 2-3 คอลเล็คชั่น ตั้งใจเลย


พอลล่า เทเล่อร์ พอลล่า เทเล่อร์


พอลล่า เทเล่อร์ พอลล่า เทเล่อร์


พอลล่า เทเล่อร์ พอลล่า เทเล่อร์


พอลล่า เทเล่อร์ พอลล่า เทเล่อร์


พอลล่า เทเล่อร์ พอลล่า เทเล่อร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์