พอร์ชปัดหวงมินจิ้นพระเอกเยอะ

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย พอร์ชปัดหวงมินจิ้นพระเอกเยอะ

พอร์ช ศรัณ - มิน พีชญา

"พอร์ช-ศรันย์" ปากแข็งเรื่องความสัมพันธ์ "มิน-พีชญา" ยังไม่พร้อมเรียกแฟน

ยันไม่คิดแข่งเรื่องหัวใจกับ "ชิน-ชินวุฒิ" เข้าใจหากฝ่ายหญิงโดนจับคู่จิ้นพระเอกหลายคน

เป็นที่จับตามองเหลือเกินเกี่ยวกับความรัก ความลับ และเรื่องความสัมพันธ์ของพระเอก นางเอกสุดฮอตแห่งช่อง 7 สี อย่าง "พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์" และ "มิน-พีชญา วัฒนามนตรี" ที่ยังไงๆหลายคน ก็ต่างลงควาเห็นกันแล้ว หลังจากที่ฝ่ายชายออกมาบอกอย่างภาคภูมิ ว่าตัวเองเป็นหนุ่มที่สนิทที่สุดของมิน พอได้เจอหนุ่มพอร์ชเลยต้องขอถามแบบไม่อ้อมค้อมว่าสรุปแล้วความสัมพันธ์กับสาวมินเป็นแฟนกันจริงหรือไม่

"บอกตรงๆผมเป็นคนที่ไม่ชอบเลย ที่ต้องมานั่งบอกนั่งเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับความรัก ว่าผมชอบคนโน้นคนนี้ให้คนอื่นฟัง จริงๆแล้วรอให้ทุกอย่างมันโอเคเป็นไปในแบบที่เราต้องการซะก่อน แล้วค่อยมาบอกทีเดียวเลยดีกว่าไม่ต้องมานั่งลุ้นกัน เดี๋ยวแฟนคลับที่คอยจิ้นกันจะเหนื่อยซะก่อน

อีกอย่างเป็นเพราะอะไรหลายๆอย่าง ก็ยังไม่สรุปสักหน่อยว่าเป็นเรานะ ไว้รอดูกันต่อไปจะดีกว่าไม่อยากจะคิดอะไรมาก และไม่อยากให้แฟนคลับทั้งหลายคิดอะไรจนเกินเลย ผมกับมินยังเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันมากๆคนหนึ่งเท่านั้นก็พอ คำว่าแฟนนั้นรอไปก่อน ผมคงยังไม่กล้าขนาดนั้น"พอร์ชกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่หนุ่มพอร์ชไม่กล้าเปิดเผย ถึงความสัมพันธ์เกี่ยวกับมินมากเกินไปนั้น เป็นเพราะ ทางด้านชินเคยออกตัวแรงมาก่อนหน้านี้ พระเอกหนุ่มให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตัวเองไม่เคยคิดแข่งเรื่องความรักกับใครทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสาวมิน ที่ไม่ว่าจะเล่นละครเรื่องไหนก็ตาม จะต้องถูกจับเป็นคู่จิ้นกับพระเอกในทุกๆเรื่อง อย่างล่าสุดในละครเรื่อง "ซินเดอเรล่ารองเท้าแตะ"ประกบคู่กับ "เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ"หลายคนจึงอยากทราบว่า พอร์ชจะคิดเห็นอย่างไรบ้าง พระเอกหนุ่มตอบอย่างอารมณ์ดีว่า สำหรับเรื่องนี้ควรจะให้ความเข้าใจมากที่สุด เพราะตัวเองก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง

"จะบอกเรื่องนักแสดงแต่ละคน โดนจับเป็นคู่จิ้นกับใครหลายๆคนบางทีในจุดนี้ เราก็ต้องควรที่จะให้ความเข้าใจเขามากที่สุดนะเพราะเราเองก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน และเราคงไม่ต้องมานั่งคิดมากเลยกับเรื่องนี้ ผมเองยังโดนจับคู่จิ้นกับนางเอกของผมเกือบแทบจะทุกเรื่อง ดังนั้นเราก็ต่างมีความเท่าเทียมกันทั้งคู่"พอร์ชกล่าวสรุป