พระเอก ขุนศึก แจ้งจับหมอศัลยกรรมทำตาปิด!!

พระเอก ขุนศึก แจ้งจับหมอศัลยกรรมทำตาปิด!!

วิทย์ วรวิทย์ แก้วเพชร เตรียมแจ้งความจับหมอศัลยกรรมหลังทำตาปิด เผยสูญเงินรายได้ เพราะต้องยกเลิกงานโชว์ตัวทั้งหมด แพทย์ชี้ผลข้างเคียงฉีด โบท็อกซ์ ซึมเข้ากล้ามเนื้อตา


พระเอกขุนศึก ตัดสินใจเข้าแจ้งความ เอาผิดกับหมอศัลยกรรมเจ้าของคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวได้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ โดยนาย วรวิทย์ แก้วเพชร หรือ "วิทย์" อายุ 38 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อนสาวของตนได้เข้าไปรักษาใบหน้าที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านชิดลม กทม. ซึ่งได้ไปเปิดคอร์สค่ารักษาในวงเงิน 1.3 แสนบาท แต่รักษาได้ไม่นาน เนื่องจากเพื่อนสาวของตนไม่พึงพอใจผลที่ได้รับ

"เพื่อนผู้หญิงของผมเขาเลยไม่แฮปปี้ เขาก็ไม่ไปทำอีกเลย ช่วงเวลาผ่านไป ผมเห็นว่าคอร์สยังเหลืออยู่ ถ้าคิดเป็นจำนวนเงินก็ยังเหลืออีกมากทีเดียว ก็หลายหมื่นบาท ประกอบกับผมซึ่งเป็นคนที่ดูแลตัวเองอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจขอคอร์สที่เหลือของเพื่อนไปทำ เพราะไหนๆ เพื่อนผมก็ไม่ทำแล้ว ถ้าผมไม่ทำ ก็เหมือนทิ้งไปฟรีๆ และผมเห็นว่าคลินิกนี้ดังมาก เป็นที่รู้จัก ไม่คิดว่าหลังจากเพื่อนผมเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วผมจะมาโดนอีก ผมตัดสิน ใจไปฉีดโบท็อกซ์แก้ริ้วรอย ซึ่งก่อนหน้านี้ผมฉีดมาตลอด จากหลายแห่งก็ไม่เป็นไร ฉีดมาทุกที ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอมาที่นี่ หลังจากที่ผมไปฉีดเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ตาข้างซ้ายปิดไปข้างหนึ่ง" นายวรวิทย์กล่าว


นายวรวิทย์กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วไม่อยากจะแจ้งความดำเนินคดี แต่เนื่องจากตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณีไม่ได้ จึงตัดสินใจจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. ที่ สน.ลุมพินี

"ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องราวเลยมาถึงวันนี้ เพราะผมไม่อยากแจ้งความ จึงเจรจากับคู่กรณีก่อน ดูว่าเขาจะรับผิดชอบอย่างไร คือจริงๆ พอเกิดเรื่อง เขาน่าจะคืนเงินให้ทั้งหมด แต่เขาไม่พูดถึงเลย เขาตกลงจะให้ผมแค่อาทิตย์ละหมื่น ผมต้องไปรับเงินจากเขาทุกอาทิตย์เนี่ยนะ ผมมองว่าไม่ถูกต้อง คิดดูเพื่อนผมจ่ายไปแล้วแสนสาม ก็แค่เอาเงินคืนมาก็แค่นั้น แต่เขาไม่ยอม ตอนนี้ผมทำงานก็ไม่ได้ ต้องยกเลิกงานโชว์ตัวทั้งหมด ต้องสูญเสียรายได้ ออกไปไหนก็ต้องใส่แว่น เขาบอกว่าเดี๋ยวก็หาย ซึ่งเมื่อไหร่ล่ะ" นายวรวิทย์กล่าว

นักแสดงคนเดิมยังบอกด้วยว่า ต้องการให้คู่กรณีรับผิดชอบ เพราะโกรธมาก อายมากที่ตาต้องมาปิดแบบนี้ อยากให้เป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชนว่า การฉีดอะไรก็ตามเข้าสู่ร่างกายล้วนมีผลข้างเคียง ไม่ดีเสมอไป อีกอย่างไม่ได้ดูถูกหมอ แต่เชื่อว่าที่ผ่านมา คงมีคนโดนลักษณะเดียวกันนี้ แต่ไม่กล้าบอก

ด้าน นพ.ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลักการโดยทั่วไปของการฉีดสารโบท็อกซ์นั้น จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไม่ทำงาน เช่น ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหน้าผาก เพื่อลบรอยย่นบริเวณหน้าผาก จะยักคิ้วไม่ขึ้น ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหัวคิ้ว จะขมวดคิ้วไม่ได้ และฉีดกล้ามเนื้อหางตา เพื่อลบรอยตีนกา กล้ามเนื้อรอบดวงตาก็จะเป็นอัมพาตได้

"บางคนฉีดสารโบท็อกซ์ไปแล้ว เกิดผลข้างเคียงของ "ยาซึม" ซึ่งสารโบท็อกซ์อาจไหลเข้าสู่กล้ามเนื้อตา ผ่านทางท่อน้ำเหลือง หลอดเลือดดำ หรือซึมผ่านเนื้อเยื่อ เข้าสู่กล้ามเนื้อตาที่อยู่ด้านใน ก็จะทำให้ตาลืมไม่ขึ้น ต้องรอให้หมดฤทธิ์ยาก่อนถึงกลับคืนสู่สภาพปกติ ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด กรณีที่ยาซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อตา ทำให้ลืมตาไม่ได้นั้น ไม่สามารถบอกระยะเวลาที่แน่นอนของการหมดฤทธิ์ยาได้ แต่ก็สามารถช่วยเร่งด้วยการเอาน้ำอุ่นประคบ นวดหนังตา และออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารออกจากร่างกายได้เร็วกว่าปกติ" นพ.ชลทิศ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ เตือนว่า ก่อนฉีดสารอะไรก็ตาม ควรศึกษาผลข้างเคียงก่อนว่าจะเกิดปัญหาอะไรบ้าง ต้องเลือกแพทย์ที่ชำนาญในการฉีด ต้องพึงระลึกว่าเป็นการฉีดชั่วคราวเพียงแค่ 3 เดือน หรือ 6 เดือน หากฉีดอย่างต่อเนื่องอาจต้องสูญเสียเงินอีกจำนวนมาก


นายวรวิทย์ เข้าแจ้งความจับหมอศัลยกรรม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์