พจน์แฉ ผัวตัวจริงของ “แอนนี่” เป็นหมาไม่ออกมายอมรับ

“คือเราอย่าไปมองสิว่า เพศแม่เป็นเพศที่อ่อนแอ เพศพ่อก็สำคัญด้วยถ้าไม่มีเพศพ่อเนี่ยลูกจะออกมาได้ไหม ก็ต้องเห็นใจพ่อด้วย จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของคนสองคน องค์กรสตรีอะไรเนี่ยคำก็จะฟ้องสองคำก็จะฟ้อง ผมว่าคุณเอาทั้งสองมาประสานกันให้เขาคุยกันมันไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ใช่เดี๋ยวจะฟ้องเฮียฮ้อเดี๋ยวจะฟ้องคนโน้น คุณไม่คิดเหรอว่า เมื่อความจริงมันเปิดเผยออกมาหน้าแหกนะ”
     
      “ความจริงมันอยู่ที่ศาลตัดสินและเขาต้องมีหลักฐานแล้วเขาถึงกล้าออกมาพูด เฮียฮ้อไม่ใช่เด็กๆ นะ ที่ผมสงสารมันเพราะว่าเฮียฮ้อไม่เอามันแล้ว ซึ่งตรงนี้เฮียฮ้อเขามีสิทธิ์เพราะฟิล์มเป็นเด็กในสังกัด แต่คุณพวกที่ออกมาว่าเด็กผมสำส่อนพวกนี้ไม่มีสิทธิ์ เฮียฮ้อเขาไม่ช่วยฟิล์มหรอก เพราะขายเทปฟิล์มก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามันไม่ได้ขายดีหรอก ก็ยังมาว่าช่วยเพราะผลประโยชน์”
     
      “ผมไม่เข้าใจว่าผู้หญิงมันทำผิดทำเลวไม่ได้หรือไง อันนี้ผมยกตัวอย่างให้ฟังนะ สมมติมีผู้หญิงคนหนึ่งจำหน่ายตั๋วอยู่ 3 หมื่นบาท แล้วเราไปเที่ยวแล้วอยู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าท้องแล้วคุณต้องรับผิดชอบ เขาก็ต้องพิสูจน์ดีเอ็นเอถูกต้องไหมว่าใช่ลูกของเขาหรือเปล่า ถ้ามันไม่ใช่เขาก็ต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ไปตลอดชีวิตเหรอ อันนี้คือการสมมติขึ้นมานะ”
     
      “ฟิล์มมันก็ต้องตรวจดีเอ็นเอไง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมสังคมถึงไม่เข้าใจฝ่ายชายบ้าง ผู้หญิงทำอะไรก็ถูกเหรอ ผู้หญิงทำผิดทำเลวก็มีนะ เพราะฉะนั้นก็ต้องเห็นใจฝ่ายชายด้วย คงเป็นเพราะบ้านเรามันไม่มีมูลนิธิผู้ชายหรือยังไงก็ไม่รู้เนอะ”
     
      “แล้วที่เขาบอกว่า ผู้ใหญ่รังแกเด็กมันไม่ใช่ ตอนที่เขาออกรายการตีสิบเขาก็บอกว่า เขาอายุ 30 แล้วนะ เขาพร้อมที่จะมีลูก แต่ตอนนี้คนที่ถูกรังแกคือคุณฟิล์ม คุณฟิล์มมันอายุ 25 เอง มันเด็กที่สุดแล้วในจำนวนที่ออกมาเป็นข่าวทั้งหมด แล้วที่ผมออกมาพูดเนี่ย ผมพูดในฐานะที่เป็นคนเอามันเข้ามาในวงการและผมก็คุยกับมันตลอด คุยๆ จนมันจะฆ่าตัวตาย คุยแบบไม่รู้จะคุยยังไงแล้ว คุยจนผมไม่ได้ทำงานเลย หนังเหนิงก็ไม่ได้กำกับเป็นห่วงแต่มัน”
     
      “ผมอยากให้สังคมเข้าใจมันบ้าง มันก็พูดแต่ส่งสารผู้หญิงสงสารเด็ก ผมก็เอ้าฟิล์มแล้วคุณจะยังไง ถ้าไปตรวจดีเอ็นเอแล้วเป็นลูกคุณงล่ะ ถ้าใช่ลูกผมก็จะเลี้ยงเป็นอย่างดีเลย เพราะเด็กน่ารักมาก แต่ถ้าไม่ใช่ลูกฟิล์มเขาก็บอกว่า เขาก็จะเลี้ยง คือมันก็จะเลี้ยงอ่ะ ผู้ชาย 4 คนที่เฮียพูดมีมันคนเดียวนี่แหละออกมายอมรับ คนอื่นไม่มีใครยอมรับเลย เต๋า(สมชาย เข็มกลัด) ไม่ต้องไปสัมภาษณ์กันหรอกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ไปหาความจริงกับสองคนนี้ดีกว่าใครพูดความจริงใครพูดโกหก ลองไปดูอีกะเทยปากเป็นอัมพาตว่ามันพูดอะไร เราก็ไม่อยากพูดเพราะเคยได้ยินมาบ้าง”
     
      “ฟิล์มต้องฟ้อง ถ้าเขาไม่ตรวจดีเอ็นเอสังคมก็ยังคิดว่าเป็นลูกฟิล์มอยู่ เป็นจนตายไปเลยเหรอ เพราะเขาไม่ยอมตรวจ ลองคิดดูสิทำไมไม่ยอมตรวจ ถ้ามีความมั่นใจมากทำไมไม่ตรวจ แล้วก็บอกว่าดีเอ็นเออยู่บนหน้าน้องแล้ว หน้าอะไรแล้วเด็กคนที่หน้าเหมือนทักษิณล่ะ ต้องเป็นลูกทักษิณเหรอ”
     
      “ผมก็อยากจะบอกสังคมว่า เห็นใจมันเถอะครับฟิล์มมันพึ่งอายุ 25 เอง อย่าสงสารแต่เพศแม่เพราะเพศพ่อก็ลำบากต้องหาเลี้ยง แม่คลอดลูกออกมาก็เลี้ยงลูกแต่พ่อก็ลำบากต้องหาเงินเลี้ยงเมียเลี้ยงลูก เหมือนกัน มันก็ต้องเห็นใจเพศพ่อด้วยไม่ใช่เห็นใจแต่เพศแม่ ระหว่างเรื่องสองคนเนี่ยเขามีอะไรกันเนี่ยมันก็เป็นเรื่องของทั้สองคน ผมก็ยังพูดกับฟิล์มเลยว่า คุณฟิล์มถ้ากูอยู่วันที่คุณงมีอะไรกันน่ะ กูจะไปห้ามเลย จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวแบบนี้”
     
      “แล้วหนังสือพิมพ์ก็มาบอกอีกว่า พจน์ อานนท์เป็นกุนซือเฮียฮ้อ กูเนี่ยนะเป็นกุนซือ ผมไม่เคยคุยกับเฮียฮ้อพึ่งจะเคยคุยครั้งเดียวว่า ให้เฮียทำใจดีๆ ไว้สังคมมันก็เป็นแบบนี้ความจริงมันต้องอยู่ได้ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะยังไง ถามว่าฟิล์มตั้งใจจะฆ่าตัวตายหรือเปล่า คงต้องไปถามเขาเอง แต่ผมว่าเขาคงทำอะไรไม่ถูกเพราะสังคมก็รุมอัด เฮียฮ้อก็ไม่ให้งาน ผมก็บอกว่าผมไม่เอาแล้ว คือไปรุมมันคนเดียว คือเห็นใจแต่ฝ่ายหญิง ทำไมไม่เห็นใจทั้งสองฝ่าย เพราะตอนที่เขามีอะไรกันพวกเราไม่รู้เรื่องเลยนะ”

พจน์แฉ ผัวตัวจริงของ “แอนนี่” เป็นหมาไม่ออกมายอมรับ


พจน์แฉ ผัวตัวจริงของ “แอนนี่” เป็นหมาไม่ออกมายอมรับ


พจน์แฉ ผัวตัวจริงของ “แอนนี่” เป็นหมาไม่ออกมายอมรับ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์