ผู้ชายธรรมดา ซี-ศิวัฒน์ ที่ไม่ธรรมดา

จริง ๆ แล้วในวงการบันเทิงบ้านเราดารานักแสดงหลายคนมาจากครอบครัวที่ดี และหลายคนมาจากสังคมชั้นสูง

ที่เข้ามาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและครอบครัว เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้ “ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” หนุ่มที่ได้ชื่อว่าบ้านรวยกับธุรกิจโรงแรมหลายแห่งใน จ.กระบี่ แต่หนุ่มคนนี้วางตัวแบบธรรมดาแสนธรรมดากับการทำงานในวงการบันเทิง และด้วยความธรรมดาที่เรารู้สึกว่าไม่ธรรมดาของผู้ชายคนนี้ เราจึงอยากจะเปิดใจหนุ่มคนนี้สักครั้งว่านอกจากจะมีสาว “เอมี่ กลิ่นประทุม” นั่งอยู่แล้ว เขายังมีอะไรในใจอีกหรือเปล่า เราว่า เราไปคุยกับเขากันเลยดีกว่า 



ที่บ้านก็รวย แล้วเข้ามาทำงานให้เหนื่อยทำไม ทำไมไม่ช่วยที่บ้าน ?
 
“ก็เขาให้เล่น เราก็เล่นแล้วเราชอบด้วย คือเป็นคนที่มองโลกค่อนข้างแคบ แต่พอเข้ามาทำงานในวงการมันก็ทำให้เราโตขึ้น ทำให้เรารวยขึ้น ทำให้เรามีชื่อเสียง คือผมชอบทำงานแบบนี้ มันทำให้เราได้เรียนรู้คน ได้เจอผู้คน คือพอเข้ามาจริง ๆ ทำให้ความคิดของเราที่เหมือนกบในกะลา ก็เปลี่ยนไป เพราะเราออกมาดูโลกภายนอกว่าตอนนี้เขาทำอะไรกันบ้าง”
 
ที่บ้านเลี้ยงออกแนวคุณหนูไหม ?
 
“ไม่ถึงขั้นคุณหนู แต่จะเป็นคนที่แบบมองโลกแคบ เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาก ผมเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก มีอุดมการณ์สูงมาก บางครั้งมากเกินไปด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ผมก็ยังเป็นอยู่ แต่เหมือนกับว่าเราได้รับอะไรมุมมองหลาย ๆ ด้าน ก็ทำให้เราเออ บางอย่างเราไม่ควรไปคิดอย่างนั้นอย่างเดียว เราควรคิดอะไรหลาย ๆ มุม หลาย ๆ ด้านบ้าง”
 
ดูเหมือนเป็นคนที่ซีเรียสกับชีวิตนะ ?
 
“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ผมซีเรียสในบางเรื่องครับ บางเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องซีเรียสก็ไม่ซีเรียส แต่ผมจะซีเรียสกับชีวิตนะ การทำงาน แต่ว่าเวลาทำงาน ผมจะสนุกกับมัน แต่ก่อนที่เราจะไปทำงานผมจะคิดก่อนว่าผมจะทำให้ดีที่สุด ผมจะเชื่อว่าการที่ผู้ใหญ่ให้เกียรติเขาคิดแล้วเขาผ่านขบวนความคิดมาแล้ว เราก็ไม่ควรทำให้เขาผิดหวัง”



ตอนเด็กมีความฝันกับเขาไหม ?
 
“มีครับ ผมเห็นพ่อ เห็นแม่ทำธุรกิจ  มา ก็อยากเป็นนักธุรกิจ แต่ตอนเด็ก ๆ เลยอยากเป็นหมอ ลำ (หัวเราะดังมาก) เพราะว่าพี่เลี้ยงที่เลี้ยงมาเขาชอบหมอลำมาก และเปิดให้เราดูทุกวัน แล้วเราก็นั่งดูก็ชอบ แต่พอโตขึ้นมาความคิดของเราก็เปลี่ยนไป ก็อยากจะเป็นนักธุรกิจ”
 
ทีนี้ขอถามถึงเรื่องทัศนคติกับสาว ๆ มั่ง?
 
“บอกได้เลยว่าเราเป็นคนเจ้าชู้ มันยังไม่ถึงเวลาด้วยตอนนั้น ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ก็ยอมรับเลยว่าตอนนั้นเป็นคนเจ้าชู้ แล้วเราก็ชอบผู้หญิงสวยด้วยนะ วัยรุ่นครับ คือถ้าถามผมตอนนั้นว่าภาพความรักเป็นยังไง ผมตอบได้เลยว่าไม่ชัดเจน มันเป็นอะไรที่เลือนรางมาก คิดเพียงแค่สนุกสนาน แต่ผมก็มีคติว่าถ้าผมจะคบใคร ผมก็คบคนเดียว จริงจังมาก คือที่ผมคิดอย่างนี้ ผมเชื่อว่าผมเป็นคนดีในสังคม  นะ เพราะมาจากสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่งพี่น้องผมทุกคนรักกัน ถ้าผมจะมีครอบครัวผมต้องมั่นใจจริง ๆ ต้อง พร้อมจริง ๆ คือผมต้องดูแลเขาได้พร้อมจริง ๆ คือถ้าผมไม่พร้อมผมก็ไม่คิดจะดูใคร ไม่คิดจะคบใครด้วย แต่ถ้าใครอยากคบผมก็จะแล้วแต่ แต่ผมจะบอกว่าผมเป็นยังงี้นะ ให้เขารู้เลย จนกระทั่งวันหนึ่งเรารู้สึกเราเพียงพอแล้ว การที่เราทำอะไรที่เรื่อยเปื่อยไม่จริงจัง มันไม่มีประโยชน์์เลย ก็เลิก”


แล้วคิดได้ยังไง ?
 
“มันก็คิดได้เองครับ คิดเร็วเกินไปด้วยผมว่านะสำหรับบางคน แต่เพียงแต่ว่าผมว่าเออ ถ้าเราจะมีความรัก ผมเชื่อนะว่าความรักมันสามารถที่จะทำให้คนทำอะไรดี ๆ ได้ ทำให้คนหนึ่งเป็นคนดี ทำให้คนคนหนึ่งมีเป้าหมายในชีวิต ผมมองว่าถ้าใครไม่มีความรัก ก็เหมือนคนไม่มีหวัง ถ้าเรามีความรัก เราก็อยากจะทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนคนนั้นนะ”
 
กับเอมี่ ซีคบกันยังไง หวานกันไหม ?
 
“ไม่หวานเลยครับ แต่เราคุยกันทุกเรื่อง เป็นเพื่อนกัน ผมว่ายังเงี้ยโอเค ผมพูดตั้งแต่แรกเลยว่าผมไม่เป็นคนหวานเลย ผมเป็นคนตรง เป็นคนเปิดเผย ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็พูด ผมไม่เคยสร้างเกราะป้องกันตัวเองเลยนะ ผมเป็นยังไงผมก็เดินใส่อย่างนั้น รับได้ไม่ได้ก็บอกมาเลย ไม่ใช่คบกันไปแล้ว แล้วค่อย ๆ ออก ค่อย ๆ ออก ผมอยู่กับตัวเองมา 20 กว่าปี ผมเป็นแบบนี้แล้วจะให้ผมไปเป็นคนอื่นผมเป็นไม่ได้ อยากให้ผมเป็นคนโรแมนติก ผมทำให้ไม่ได้ แต่ผมสามารถที่จะทำให้ได้บ้าง ก็ว่ากันไป แต่อย่ามาคาดหวังกับผมนะผมจะทำได้ดีมาก  (หัวเราะ)”


งั้นมองอนาคต  ไว้ยังไงกับเรื่องงานและเรื่องความรัก ?
 
“ผมคิดไว้แล้วครับ อยากทำธุรกิจสักอย่างที่มันมั่นคง คือการทำงานเป็นนักแสดงมันก็ดี แต่ถ้าถามว่าถ้าวันหนึ่งผมแขนขาดไป เอาแม่มาเล่นแทนก็ไม่ได้ ผมยอมรับว่าวงการบันเทิงให้อะไรผมเยอะมาก ไม่ว่าจะชื่อเสียง เงินทอง ทำให้เราโตขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าวงการนี้มันไม่ยั่งยืนจริง ๆ คนเราแก่ขึ้นทุกวัน ดาราสมัยนี้โผล่เยอะมากซึ่งเราทำอะไรมันไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับ ถ้าวันเวลาของเรามาถึง อย่างน้อยเราก็เก็บเกี่ยวสิ่งที่มีตรงนี้ทำให้ดีที่สุด แล้วเราก็พร้อมที่จะเดินออกไปอย่างภาคภูมิใจว่าผมได้ผ่านตรงนี้มาแล้ว โดยที่ไม่มีใครด่าผมตามหลัง
 
ส่วนเรื่องความรัก ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาของมัน ผมยังอยากที่จะทำอะไรอีกหลายอย่าง เอมี่ เขาเองก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นยังไม่คิดเรื่องแต่งตอนนี้ เอาไว้ให้ทุกอย่างเป็นเรื่องอนาคต ถ้าเรารู้สึกว่าเราพร้อมและถึงเวลาของมันแล้ว ทุกอย่างก็คงเป็นไปตามธรรมชาติของมันที่ควรจะเป็นครับ”
 
ในเรื่องของงาน ดูเตรียมพร้อมกับขาลงมาก?
  
“ผมว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ  มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าอีก 5 ปี เราต้องทำใจไม่ใช่ ทุกวันนี้ต่อให้ผมไม่ต้องเล่นเป็นพระเอก ผมก็เล่นได้ มันขึ้นกับว่าถ้าผมพอใจที่จะทำ ใครก็ห้ามผมไม่ได้ ถ้าผมจะไปเล่นเป็นตัวบ้าอะไรผมก็จะทำ ผมว่านะคนเราเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว เราทำอะไรก็ทำให้ดีที่สุด เราภูมิใจอะไรก็ทำไปเถอะ มันจะเป็นยังไง   ถ้าวันหนึ่งมันจะเป็นขาลงของเรา ก็ช่างมันเถอะ ผมเข้ามาได้คนอื่นก็เข้ามาได้เหมือนกัน”
 
เอ้ามาถึงคำถามสุดท้ายคิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมไหม ?
 
“ไม่ครับ ผมว่าผมธรรมดานะ เพราะไม่เห็นมีใครมาเสนอตัวเลย (หัวเราะ)”

 
 นอกจากบ้านจะรวยแล้ว แต่หนุ่มคนนี้ยังรวยน้ำใจ รวยรอยยิ้ม เพราะฉะนั้นเราเลยไม่แปลกใจเลยว่า ซี-ศิวัฒน์ ถึงกลายเป็นที่รักของเพื่อนพ้อง และพี่น้องในวงการ และแฟนคลับ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์