ประเด็นร้อนตลกดังโป๊งเหน่งถูกกล่างหาทิ้งแม่บังเกิดเกล้า?


ประเด็นร้อนตลกดังโป๊งเหน่งถูกกล่างหาทิ้งแม่บังเกิดเกล้า?

"ยายอ้อย" ยันไม่เคยทิ้ง"โป๊งเหน่ง" แต่ครอบครัวยากจน จึงเลี้ยงดูมาได้ไม่ดีอดๆอยากๆ พ้อหากลูกไม่รับก็ให้เซ็นรับรองจะไปอยู่บ้านพักคนชรา 

ส่วนโป๊งเหน่งขอเวลารวบรวมข้อมูลแถลงข่าว
กรณีนางนัฐกนก วันเพ็ญ อายุ70ปี หรือยายอ้อย ที่ออกมาอ้างว่าถูกนายพงษ์ศักดิ์ โสภักดี หรือ”โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” ดาวตลกชื่อดังลูกชายแท้ๆและนางสมญา อยู่พ่วง ลูกสะใภ้ ไล่ออกจากบ้าน จนต้องไปอาศัยวัดพระยาสุเรนทร์ ล่าสุดยายอ้อยก็ได้ท้าพิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมยืนยันว่ามีพยานเห็นตอนที่ตนคลอดนายพงษ์ศักดิ์ นั้น

ความคืบหน้าในวันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวไปติดตามสอบถามยายอ้อยที่วัดพระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ถึงประเด็นที่นายพงษ์ศักด์ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยบอกว่ายายอ้อยไม่ใช่แม่ แต่เป็นเพราะตอนเด็กยายอ้อยทอดทิ้งและไม่เคยเหลียวแลเลย 

คุณยายได้ร่ำไห้เปิดใจ โดยยืนยันทั้งน้ำตาว่าไม่เคยทอดทิ้งลูก แต่ตอนเด็กๆเคยฝากเลี้ยงเอาไว้กับยายคนหนึ่ง เพราะต้องไปหางานทำที่กทม. ก็อาจจะลำบาก อยู่กินอดๆอยากๆบ้าง เพราะเป็นคนยากจน พอนายพงษ์ศักดิ์เข้าโรงเรียนชั้นประถมศึกษาที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ แต่จำชื่อไม่ได้ ตนก็ยังไปเยี่ยมแต่เดือนละครั้งสองครั้ง เพราะต้องทำงาน ก็ส่งเสียทั้งค่าเล่าเรียน และค่าอยู่ค่ากิน ส่วนเรื่องที่ว่าปล่อยให้นายพงษ์ศักดิ์ เรียนตามโรงเรียนชาวเขาชาวดอยนั้น ไม่เคยทำ แต่ตอนเด็กๆก่อนเข้าเรียนลูกชายคงมีเพื่อนเล่นเป็นชาวพม่าหรือชาวเขา เพราะที่จ.กาญจนบุรีอยู่ติดพม่า




“ฉันยอมรับว่าอาจจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดีพอไม่สุขสบาย เพราะพ่อนายพงษ์ศักดิ์ตายจากไปตั้งแต่เล็ก ครอบครัวก็ยากจน แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง ปล่อยให้อยู่ลำพัง ฉันก็อาศัยทำงานเล็กๆน้อยๆในกรุงเทพฯ พอถึงวัยเข้าเรียนก็กลับไปรับพาไปเข้าเรียน ลูกชายอาจน้อยใจที่ตอนเด็กๆฉันเลี้ยงเขามาลำบาก พอโตขึ้นมีอยู่มีกินก็ทอดทิ้งให้ฉันลำบากบ้าง เพราะเคยบอกกับฉันตอนฉันขอเงินไปอยู่กับญาติที่จ.ราชบุรีว่า แม่จะมาขอลูกได้อย่างไร  ต้องเป็นแม่ที่ให้ลูกมากกว่าถึงจะถูก เหมือนเขาจะมีปมด้อยมาตั้งแต่เด็ก” ยายอ้อยกล่าว

ส่วนเรื่องที่ลูกชายเริ่มออกมายอมรับว่าตนเป็นแม่นั้น ก็รู้สึกเสียใจบ้างที่ลูกมาทำแบบนี้ เชื่อเมียมากกว่าแม่ แต่ก็ไม่โกรธเคืองลูกชาย เพียงแค่อยากจะบอกว่าหากไม่เลี้ยงดูก็ขอให้ช่วยเซ็นรับรองให้ตนไปอยู่บ้านพักคนชราก็ได้ เพราะคราวก่อนนักสังคมสงเคราะห์มาหา และทำเรื่องขอทางบ้านบางแคให้ตนไปอยู่ที่นั่นแล้ว แต่นายพงษ์ศักดิ์ไม่ยอมเซ็นรับรองให้ เพราะบอกว่าตนไม่ใช่แม่ เซ็นให้ไม่ได้ ไม่อยากอยู่วัดนานๆ เพราะมีหลายคนเหมือนไม่ค่อยอยากให้อยู่ รวมทั้งดูแลตัวเองลำบาก ขาก็เจ็บ ต้องไปหาหมอที่รพ.สายไหมรับยาแก้โรคเบาหวานเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันนี้ก็ได้เงินจากเจ้าอาวาสวัดพระยาสุเรนทร์ ที่อนุเคราะห์ให้ค่ายา

ด้านโป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดอะไรมาก ขอเวลาในการรวบรวมหลักฐานและข้อมูลก่อน อีก 2-3 วันจะแถลงข่าว และแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ จะพูดวันนั้นทีเดียวเลยครับ ได้มีโอกาสอ่านข่าวของตัวเองแล้ว เพราะพาดหัวใหญ่ขนาดนั้น ก็มีคนรู้จักโทรฯ มาสอบถามตลอด ถามว่าเครียดไหม ก็ไม่เครียดหรอกครับ เฉยๆ เพราะแกทำแบบนี้บ่อยแล้ว ถ้าคนที่รู้เรื่องราวชีวิตตนก็จะเข้าใจ แต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้จักตนก็จะประณามว่าเป็นคนไม่ดี จริงๆ แล้วตนมีพี่ชายน้องชาย แต่คนละมารดากัน แล้วก็มีภรรยาของน้องชายอีกที่รู้เรื่อง

ตอนนี้ก็กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้

"สำหรับการท้าตรวจดีเอ็นเอ ผมว่าแม่ผมไม่รู้จักคำว่าดีเอ็นเอหรอกครับ แต่คงมีคนไปถามแก แล้วผมก็ไม่เคยบอกว่าเขาไม่ใช่แม่ผม เพียงแต่ผมเคยพูดว่า ไม่มีแม่ที่ไหนเขาทำร้ายลูกแบบนี้หรอก คนก็ไปตีความกันเอาเองว่าผมปฏิเสธ ผมมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะพูด ทั้งงานบวชผม เรื่องไปเรียนที่สถานสงเคราะห์รวมกับเด็กพม่า ฯลฯ ถ้าทุกคนรู้ความจริง อาจจะเลิกสงสารเขาและมาสงสารผมแทนด้วยซ้ำ” โป๊งเหน่ง กล่าว.

โป๊งเหน่ง - ภรรยาโป๊งเหน่ง - ภรรยา


โป๊งเหน่ง - ภรรยาโป๊งเหน่ง - ภรรยา


โป๊งเหน่ง - ภรรยาโป๊งเหน่ง - ภรรยา


โป๊งเหน่ง - ภรรยาโป๊งเหน่ง - ภรรยา

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์