นาตาลีตรง-แรง ไม่ใช่สาวแอ๊บหวาน

ต้นเดือนหน้าก็มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์แล้ว สำหรับสาวหน้าหวาน "นาตาลี เดวิส" ที่หายจากวงการบันเทิงไปนานถึง 5 ปี
กลับมาอีกทีก็ทำเอาแฟนๆ ฮือฮากับการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำในวัยแตกสาว และย้ำความดังกับข่าว 2 หนุ่ม "โจอี้ บอย" และ "ไมค์" ที่รุมสานสัมพันธ์ แต่หนุ่มกลับปัดข่าว ทำเอาน้องหนูปรี๊ดแตก ออกมาฉะซะ จนถูกมองว่า "แรง"

นาตาลีเข้าวงการบัน เทิงมาได้อย่างไร?

นาตาลี - "ไปแคส ติ้งเล่นเอ็มวีแรพเตอร์ค่ะ และผู้ใหญ่อาร์เอสฯให้ลองเทสต์เสียงดู เพราะตอนนั้นเขามีโปรเจ็กต์อัลบั้มดูโอคู่ผู้หญิง พอเทสต์ผ่านก็ได้เซ็นสัญญา ออกอัลบั้มแรก "นาตาลี-แจ๊สกี้" หลังออกอัลบั้มก็เล่นละคร "วัยร้ายไฮสคูล" แล้วก็ออกอัลบั้มชุด 2 ต่อด้วยละคร "วัยร้ายเฟรชชี่" และ "หน้ากากขนนก" ตอนนั้นเซ็นสัญญากับอาร์เอส 10 ปี ตั้งแต่อายุ 10 ขวบถึง 20 ปี เพิ่งไปขอสัญญาคืนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เหลือสัญญา 2 ปีกว่าๆ ซึ่งเขาก็คืนสัญญาให้ เพราะศิลปินเขาเยอะมากและตอนนั้นเราเอ็นทรานซ์ ได้ที่มศว ซึ่งต้องไปเรียนที่องครักษ์และอยู่หอ ทำให้หายไปจากวงการ"

แล้วไปไงมาไงถึงกลับมาทำงานในวงการ?

นาตาลี - "มันเป็นจังหวะ พอดีเมื่อต้นปีพี่ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวมาเจอและถามว่าสนใจถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมั้ย ซึ่งเรามองว่ามันเป็นหนังสือหัวนอกหัวดีและไม่รู้สึกว่าโป๊ มั่นใจว่าถ่ายได้ ถามคุณแม่ พอคุณแม่โอเคก็ถ่าย ซึ่งผลตอบรับออกมาดีมีงานเรื่อยๆ"

การกลับมาหลายคนมองว่าเปลี่ยนไป ด้วยข่าวต่างๆ อย่างข่าวโจอี้ บอย กับไมค์?

นาตาลี - "สำหรับข่าวของพี่โจ้กับข่าวไมค์ คือเรารู้อยู่ว่าเขามาคุยกับเราแนวไหนประมาณไหน ซึ่งเราไม่เคยพูดว่าเขาจีบ ถามว่ารู้จักมั้ยและเขาโทร.มาคุยด้วยจริงหรือเปล่า ก็จริง ชวนไปโน่นไปนี่ แต่ก็ไม่เคยไป อย่างพี่โจ้ เป็นพี่ที่ดี ทำงานเก่ง เราชอบเพลงแนวฮิพฮอพอยู่แล้ว อย่างไมค์ก็รู้จักจริงๆ เขามาขอเมล์และเบอร์เราในเอ็มเอสเอ็นและไฮไฟว์จริง คุยกับเรา ไมค์ชวนไปไหนก็ไม่เคยไป

พอมีนักข่าวถามว่ารู้จักไมค์จริงหรือเปล่า เราก็ตอบตามความจริงว่ารู้จัก แต่ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วย

"ถามว่าโกรธมั้ย ไม่ถึงกับโกรธ แต่รู้สึกแย่ว่าทำไมเขาถึงพูดว่าไม่เคยชวนไปโน่นไปนี่ เหมือนเราโกหก เราเป็นผู้หญิงก็เสียหายอยู่แล้ว มันไม่เห็นผิดเลยที่จะมีเพื่อนร่วมวงการเป็นเพื่อนต่างเพศ เพราะโลกก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย คนในวงการบันเทิงดาราก็ไม่ใช่เทพ เป็นคนปกติที่สามารถปรึกษาปัญหากันได้ สามารถมีเพื่อนได้ทั้งนั้น เหมือนว่าเขาทำอะไรก็ควรแมนๆ หน่อย รู้จักก็บอกว่ารู้จักสิ"

คนมองว่าพอกลับมาภาพนาตาลีดูแรงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข่าวด้วยหรือเปล่า?

นาตาลี - "ค่ะ และบางครั้งการตอบคำถามของเราจะแรง เพราะเป็นคนพูดจาตรงๆ ทำให้ดูเหมือนแรง เราไม่ใช่คนแอ๊บหวาน ตรงไหนผิดก็ยอมรับ ถามว่าตรงเกินไปมั้ย อาจด้วยความที่เคยเป็นลูกคนเดียวมานาน กว่าคุณแม่จะมีน้องอีกคนเราก็ 11 ขวบแล้ว ทำอะไรเองมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนไม่เฟก ใครดีมาดีตอบ ใครไม่ดีมาก็ไม่คุยด้วย เป็นคนที่ไม่ทำใครก่อน แม่จะสอนตลอดว่าอย่าหาเรื่องใครก่อน แต่ถ้าใครมาหาเรื่องเราก่อนก็ให้สู้กลับไปเลย"

วันนี้คนมองว่านาตาลีเซ็กซี่ขึ้น?

นาตาลี - "จริงๆ เราไม่ใช่คนเซ็กซี่หรือแต่งตัวโป๊ เราจะใส่กระโปรงบ้าง เสื้อยืดกางเกงยีนส์บ้าง แต่งตัวง่ายๆ แต่ที่คนมองว่าเซ็กซี่อาจด้วยความที่เราเป็นลูกครึ่ง ด้วยหุ่นและโครงสร้างของเราใส่อะไรก็จะดูโป๊กว่าชาวบ้านค่ะ"

กลับมาครั้งนี้ดูทุ่มให้งานแสดง?

นาตาลี - "ใช่ค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีละคร "ใจร้าว" ทางช่อง 3 ที่ถ่ายทำอยู่ แรกๆ จะเป็นเด็กใสๆ เล่นเป็นเด็กกำพร้าแล้วพี่เคน-ธีรเดชที่ในเรื่องเป็นดาราเขาเก็บเรามาเลี้ยง พอโตขึ้นก็เหมือนหลงรักพี่ตัวเอง ทำทุกวิถีทางให้ดังเท่าพี่ เพื่อให้เขาสนใจ แต่ตอนหลังก็โดนคนหลอกไปถ่ายภาพโป๊ ซึ่งบทค่อนข้างเปลี่ยนจากเดิมมาเล่นร้าย ไม่ได้ยึดว่าต้องเป็นนางเอก เราทำงานแล้วรู้สึกว่าต้องทำให้ดีค่ะ"

แล้วงานเพลงล่ะ?

นาตาลี - "ถ้าออกเดี่ยวก็ไม่อยากออก หรือถ้าเปลี่ยนคู่ก็ไม่อยากเปลี่ยน เพราะทำเทปกับแจ๊สกี้มาตั้งแต่แรก รู้สึกว่าดีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยังคุยกับแจ๊สกี้บ้าง ซึ่งเขาจะกลับมาเยี่ยมเมืองไทยสิ้นปี ก็อยากร่วมงานกันอีกครั้ง อย่างน้อยถ่ายแบบด้วยกันก็คงดี เพราะไม่ได้เจอกันตั้งแต่ ม.4 ค่ะ"

5 ปีที่หายจากวงการไปแล้วกลับมาอีกครั้ง วงการบันเทิงแตกต่างอย่างไรบ้าง?

นาตาลี - "แตกต่างเยอะมาก น่ากลัวมาก พวกปาปาราซซี่ หนังสือบันเทิงพาดหัวน่ากลัวมาก หรือมุมกล้องเวลาถ่ายเรา เขาจะเสย เจาะ เงย หนักหน่วงมาก ต้องระวังตัวทุกฝีก้าว"

ตอนนี้วางอนาคตในวงการบันเทิงอย่างไร?

นาตาลี - "ทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะไม่ให้ทำค่ะ"

และนี่คือตัวตนของสาวตรงที่ชื่อ "นาตาลี เดวิส"

"บ้านแตก"ไร้ปัญหา

ถึงจะเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณครู "ปีเตอร์ เดวิส" ชาวอังกฤษ กับคุณแม่ "พงศ์จันทร์"

แต่สาววัยใส "นาตาลี เดวิส" ก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบเอาใจ โดยเธอเล่าว่า "คุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงแบบฝรั่ง คือให้นั่งเก้าอี้เด็กกินข้าว ไม่มีมาไล่ป้อนข้าว หรือตอนเด็กๆ เวลาพ่อไปทำงานก็จะปล่อยเราไว้ที่สปอร์ตคลับแถวอังรีดูนังต์บ้าง โปโลแถวบ่อนไก่บ้าง ให้เราเล่นเทนนิส ขี่ม้า ว่ายน้ำ ทั้งวัน"  ด้วยความเป็นลูกโทน นาตาลียอมรับว่าตอนเด็กๆ มีเหงาบ้าง แต่พออายุประมาณ 5 ขวบก็เริ่มมีถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ได้ออกนอกบ้าน ทำงานเจอคนนั้นคนนี้ จึงรู้สึกสนุก โดยงานชิ้นแรกที่ทำคือ ถ่ายแบบนิตยสารรักลูก "ที่ได้ถ่ายเพราะตอนนั้นเรียนอนุบาล ไปรำไทยที่เซ็นทรัลลาด พร้าว แล้วมีโมเดลลิ่งมาขอเบอร์คุณแม่ ซึ่งก็ทำแบบสนุกๆ และตัวเราเป็นคนที่รักสวยรักงามชอบแต่งหน้าตั้งแต่เด็กๆ เวลาถ่ายแบบเสร็จก่อนกลับ บ้านก็จะขอทีมงานเติมปาก" นาตาลีหัวเราะ

"ด.ญ.นาตาลี" เป็นเด็กสาวค่อนข้างหยิ่ง ไม่ชอบคุยภาษาอังกฤษกับคนไทย

แต่ถ้าเป็นฝรั่งมาพูดด้วยแล้วล่ะก้อ จ้อไม่หยุดทีเดียว อีกทั้งยังเป็นเด็กที่เป็นตัวของตัวเองอย่างมาก "ตอนเด็กๆ จะไม่ติดแม่ ช่วง 6-7 ขวบเพื่อนคุณแม่ไปออสเตรเลียเกือบ 2 เดือน เราก็ไปกับเขา ไปอยู่ที่โน่น ไม่รู้สึกคิดถึงบ้าน แค่มีเพื่อนเล่นหรือมีสัตว์เลี้ยงให้เราเล่น ได้ไปสวนสัตว์ก็สามารถอยู่ได้ค่ะ"

จากลูกโทนของแม่ นาตาลีก็กลายเป็นลูกสาวคนโต เมื่อแม่คลอด "ใบหม่อน" น้องสาวที่เกิดจากสามีใหม่ของแม่

เธอเล่าว่า พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธออายุ 6-7 ขวบ โดยแม่แต่งงานใหม่กับ "พ่อประสิทธิ์" ซึ่งเป็นเพื่อนแม่ตั้งแต่สมัยเรียน ถึงจะเป็นเด็กบ้านแตก แต่นาตาลีไม่รู้สึกเช่นนั้น "พ่อกับแม่แยกทางกัน แต่เราก็ไม่มีปัญหา เราเป็นเด็กที่อยู่ที่ไหนก็ได้ อยู่กับคุณแม่ก็โอเค บางครั้งก็ไปหาพ่อที่อังกฤษบ้าง หรือบางครั้งคุณพ่อก็มาเมืองไทย พ่อกับแม่จากกันด้วยดี ยังเป็นเพื่อนกัน ส่วนคุณพ่อใหม่เราเจอตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ไม่ได้รู้สึกแปลกหน้า เขาเป็นคนตลก อารมณ์ดี เราเข้ากันได้ดีค่ะ"

เช่นเดียวกับน้องสาวต่างพ่อ ที่นาตาลีกล่าวถึงความสัมพันธ์ว่า "เราเป็นคนแรกที่อุ้มน้อง เพราะตอนนั้นคุณแม่คลอดโดยวิธีผ่าท้อง กระดุกกระดิกไม่ได้ เราก็อุ้มแทนแม่" "เรารักน้องสาวคนนี้มาก ไม่มีทะเลาะกันเลยค่ะ" นาตาลีกล่าวทิ้งท้าย

ปล่อย"รัก"ตามสบาย

"อาจเป็นเพราะอายุเรา 20-21 ปีแล้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่ผู้ชายกำลัง
เข้าหามากกว่า ซึ่งมันก็ไม่ผิดใช่ป่าวที่จะมีคนเข้าหาเรา แต่มันขึ้นกับเราว่าจะวางตำแหน่งให้แต่ละคนแค่ไหน"

สาวโจ๋ "นาตาลี เดวิส" แย้ม เมื่อถูกแซวเรื่องที่เป็นสาวเนื้อหอม มีหนุ่มๆ ติดพันเยอะแต่ถึงมีหนุ่มตอมเยอะอย่างไร ทุกคนก็ดูจะแพ้ทางหนุ่มตัวจริง "บอล"วรพงษ์ เปรมธรรมกร นาตาลีหัวเราะก่อนรับคำ "ใช่ค่ะ บอลอายุแก่กว่านาตาลี 1 ปี เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ตอนที่นาตาลีออกเทป เขาบอกเราเป็นศิล ปินคนแรกที่เขาเก็บเงินทุบกระปุกซื้อเทปฟัง เหมือนเขาเป็นแฟนคลับเราและคิดว่าถ้าได้รู้จักเราก็คงจะดี แล้วมาวันหนึ่งก็ได้รู้จักเราจริงๆ แต่กว่าจะเป็นแฟนกันก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน 1 ปีค่ะ"

ถามว่าประทับใจอะไรในฝ่ายชาย สาวใสอมยิ้มก่อนจาระไน

"เขาเป็นคนใจกว้าง อย่างช่วงที่มีภาพเรากับแฟนเก่าที่ถ่ายในสระว่ายน้ำหลุดออกมา แล้วในเน็ตเขียนว่าเป็นสระว่ายน้ำในโรงแรมต่างจังหวัด แต่จริงๆ เป็นสระว่ายน้ำในหมู่บ้านแฟนเก่า เขาเห็นว่าเราโดนโจมตีเยอะแล้ว ก็จะให้กำลังใจ บอกช่างมันเถอะ จะไม่มานั่งทับถม แล้วก็ชอบที่เขาเป็นคนอารมณ์ดี เข้ากับเพื่อนเราได้ ไม่ก้าวก่ายงานเรา ไม่เคยห้ามถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ หรือห้ามทำงานกับคนนั้นคนนี้ เขาจะเป็นคนหัวสมัยใหม่ค่ะ"

เรื่องการคบกัน ทางบ้านทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้ โดยเฉพาะทางบ้านฝ่ายชายนั้น นาตาลีเข้ากับปะป๊าและหม่าม้าของบอลได้เป็นอย่างดี

"บางครั้งเราก็จะไปนั่งเล่นที่บ้านของบอลซึ่งอยู่แถวโบ๊เบ๊ บ้านเขาทำธุรกิจผ้าใบส่งออก ก็ไปทำกับข้าวทานที่บ้านเขา ป๊ากับม้าดีกับเรามาก ประมาณว่าลูกรักใคร พ่อแม่ก็รักด้วย"

ว่าแต่บอลขี้หึงมั้ย นาตาลีส่ายหน้า

"ไม่ขี้หึงเลย เขาจะให้เกียรติเรา บอกให้ดูแลตัวเอง และไม่ว่าเลยถ้ามีคนเข้ามาจีบ แต่เขาจะขอร้องว่าเราอย่าเป็นคนเข้าหาคนอื่นเอง"นาตาลีพยายามทำความรักทุกวันให้ดี พร้อมยึดหลักอย่าโกหกกัน มีอะไรให้พูดตรงๆ อย่าให้รู้ทีหลัง "อย่างช่วงที่เป็นข่าวกับพี่ "โจอี้ บอย" และ "ไมค์" บอลก็ไม่ว่าอะไร ซึ่งเราจะบอกเขาตลอด อย่างพี่โจ้เมสเสจมาเขาก็รู้" เพราะอายุยังน้อย "นาตาลี" จึงปล่อยให้ความรักเป็นไปแบบธรรมชาติ สบายๆ ยังไม่มองไกลไปถึงอนาคต "คือถ้าเราคบกันแล้วมันดีก็ดีไป แต่วันหนึ่งถ้าต้องเลิกก็คือต้องเลิก ไม่ใช่ต้องซีเรียสอะไรมาก ปล่อยตามสบายอยู่ในพื้นฐานง่ายๆ คือ จริงใจ ไม่โกหก ดูแลเอาใจใส่ ไม่ทิ้งๆ ขว้างๆ อย่าละเลย ให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญอยู่ตลอดเวลาค่ะ"

แค่ยึดคุณสมบัติพื้นฐานเหล่านี้ รับรองคบกันได้อีกยาว