นางร้ายขายดี เป้ย ปานวาด เหมมณี

"เซ็กซี่ที่สุดชั่วโมงนี้"


ถ้าถามว่านางร้ายคนไหนเซ็กซี่ที่ซู้ด...ด ชั่วโมงนี้...คงจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็น "เป้ย" ปานวาด เหมมณี ที่ตอนนี้ขายดีมีงานรุมเพียบ ทั้งงานละคร งานหนัง นางเอกมิวสิควิดีโอ เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา

แถมล่าสุดยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ในนางเอกหนังเรื่อง "บิ๊ก ฮิต อิน แบงค็อก" ของนิโคลัส เคจ อีกด้วย

มีงาน มีชื่อเสียง ข่าวก็มีตามมาไม่เลิก ทั้งข่าวว่าดังแล้วเรื่องมาก ทำตัวกร่างกลางกองถ่ายละครค่ายเอ็กแซ็กท์ เรื่อง รอยอดีตแห่งรัก ของ "บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ รวมถึงมีข่าวเป็นผู้สงสัยในปริศนาอักษรย่อ ป.ปลา ดาราสาวขากถุยไม่เลือกที่ แถมมีรักร้างกับไฮโซ บุษย์ ปิยะวุฒิ อีก ร้อนขนาดนี้ บันเทิง "คม ชัด ลึก" เลยต้องคว้าตัวมาคุยดับร้อนกันสักหน่อย นางเอกหนังฮอลลีวู้ด


ร่วมงานหนังฮอลลีวู้ด "บิ๊ก ฮิต อิน แบงค็อก" เป็นอย่างไรบ้าง


ตอนนี้ในส่วนของเป้ย ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องจะมี 2 คู่ คือ นิโคลัส เคจ กับนางเอกชื่อชาเรียมเป็นใบ้ ส่วนเป้ยคู่กับ ชาคริต แย้มนาม ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ร่วมงานอินเตอร์แบบนี้ ได้ทำงานร่วมกับคนที่เคยทำงานระดับบิ๊กๆ ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของเราเลย เพราะคงหาโอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ

การทำงานแตกต่างจากของไทยยังไงบ้าง

ไม่เคยเล่นหนังไทย เลยไม่รู้ว่าการทำงานแตกต่างกันไหม แต่ในเรื่องการเทคแคร์นักแสดงก็ไม่ต่างกันมาก แต่การทุ่มทุนสร้าง คงจะแตกต่าง เพราะเป็นโปรเจคท์ค่อนข้างใหญ่ ก็คงจะต่างตรงจุดนี้นิดหนึ่ง และเรื่องบทก็ต้องตรงเป๊ะๆ ต้องตรงต่อเวลา ยอมรับว่าค่อนข้างเกร็งกับการทำงานครั้งนี้พอสมควร ต้องบอกก่อนเลย ว่าเป้ยไม่เก่งเรื่องภาษา แต่ก็ดีที่เขามีล่ามให้ ส่วนเรื่องแอ็คติ้ง ก็ไปขอเขาเรียน และเรียนเต้นด้วย เพราะว่ามันจะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น


ในเรื่องต้องเซ็กซี่มากไหม


เรื่อง รอยอดีตแห่งรัก เซ็กซี่กว่าอีก เพราะในหนังเรื่องนี้ เขาค่อนข้างจะให้อิสระทางความคิด ว่าถ้าเป็นแบบนี้ มันจะโชว์เกินไปไหม ถึงขนาดพาไปช็อปปิ้งเสื้อผ้าเองเลยนะ เป็นการแชร์ความคิดกัน เพื่อให้เรามีความมั่นใจที่สุด เราจะได้เล่นออกมาได้ดี เวลาที่มีความมั่นใจ เสื้อผ้าที่ออกมา เลยไม่หวือหวาเท่าเรื่องการถ่ายแบบ

ตอนแรกกลัวไหมว่าจะต้องโชว์หวือหวา

ตอนแรกเขาบอกว่ามีฉากเปลือย แต่ว่าทางดัชชี่ที่เขาดูแลเป้ย เป็นคนดูแลให้ เป้ยเป็นคนไทย ก็ยังไม่พร้อมที่จะโชว์แบบนี้ ก็เลยตกลงกับเขา ว่าสามารถทำได้แค่ไหน ซึ่งทางทีมงานเขาก็ตกลง เพราะฉากแบบนี้มันไม่ได้สำคัญกับเรื่อง

คิดว่าทำไมถึงได้รับเลือกให้แสดงเรื่องนี้

ที่จริงตอนแรกปฏิเสธจะไม่ไปแคส เพราะว่างานยุ่ง และเราก็ไม่เก่งภาษา โอกาสพลาดก็มีสูง แต่อีฟ (พุทธิดา ศิระฉายา) ที่เขาเป็นคนช่วยคัดเลือกนักแสดงเรื่องนี้ เขาโทรมาตามตลอด ว่าให้ไปแคสให้ได้ ทางทีมงานก็บอกว่ายังไงก็จะรอ เราก็โห...ยังไงก็จะรอเหรอ เขาบอกว่าอยากให้เข้าใจ ว่าเราอยู่เมืองไทย อาจจะมีคนรู้จัก มีชื่อเสียง แต่นิโคลัส เคจ ที่เขาเป็นคนคัดเลือกเอง เขาไม่รู้หรอกว่าคุณดังขนาดไหน เขาจะดูแค่แอ็คติ้งเท่านั้น ซึ่งมันก็จริง


คนมองว่าชนะ "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ และ ทาทา ยัง


ไม่ถือว่าเป็นการชนะใครนะ เพราะเป้ยไม่ได้ไปแคสเพื่อแข่งกับใคร ใครจะไปแคสบ้างเป้ยไม่รู้ แต่ละคนเขาก็ไปเพื่อต้องการอยากจะพิสูจน์ฝีมือ ส่วนที่เป้ยได้รับบทนี้ คนที่จะตอบได้ก็คือโปรดิวเซอร์ ตัวเป้ยเองไม่ทราบเหตุผล อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาเป้ยตรงกับคาแรคเตอร์ เป้ยไม่ได้คิดจะแก่งแย่งกับใคร

อย่างนี้ก็เรียกว่า "โกอินเตอร์" แล้วสิ

ไม่ได้มองอย่างนั้นเลยนะ เพราะถ้าโกอินเตอร์ ก็ต้องไปทำงานที่เมืองนอกแล้ว มันต้องอินเตอร์กว่านี้ แต่นี่ยังถ่ายละครไทย ยังเป็นนางร้ายในละครไทยอยู่เลย แค่เป็นโอกาสดีที่ได้ก้าวมาทำตรงนี้เท่านั้น จะได้เล่าให้ลูกให้หลานฟังได้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดง

นางร้ายเซ็กซี่


ความเซ็กซี่ของเป้ย เริ่มต้นเมื่อไร


มันมาจากตอนที่เล่น เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว ซึ่งต้องเป็นสาวเซ็กซี่ แต่งตัวเซ็กซี่ จากนั้นก็มีนิตยสารติดต่อให้ถ่ายชุดว่ายน้ำ ซึ่งคอนเซ็ปต์เวลานั้นก็ถูกใจ เลยตกลงถ่าย จากนั้นก็เริ่มมีงานเซ็กซี่ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ

ถือว่าเปลี่ยนชีวิตไปเลย

ต้องยอมรับนะ ว่าทุกคนรู้จักเป้ยจากภาพแบบนี้ มันทำให้เป้ยมีงานในทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นจะไม่ดูถูกในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะไม่ได้ทำงานผิดกฎหมาย แต่ก็จะมีข้อจำกัดในการแต่งตัว คือไม่ถอดหมด แต่ถ่ายชุดว่ายน้ำได้ เพราะเป้ยก็อยากให้เกียรติครอบครัวตัวเองด้วย


มองว่าตัวเองเซ็กซี่ไหม


เป้ยว่ามันเป็นบทบาทการแสดงมากกว่า ถ้าเป้ยอยู่บ้านปกติ เป้ยก็จะไม่แต่งหน้าเลย แล้วคนจะจำไม่ได้ เคยมีนะเวลาไปกองถ่าย แล้วยังไม่ได้แต่งหน้า ช่างแต่งหน้าเขาก็ถามหา ว่าเป้ยมาถึงหรือยัง ทั้งที่เป้ยนั่งอยู่ข้างๆ เขา (หัวเราะ) เรียกว่าองค์ประกอบทุกอย่างมันทำให้ดูเซ็กซี่มากกว่า แต่จริงๆ แล้วเป้ยก็ใช้ชีวิตปกติ

แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่าเซ็กซี่

คนที่เซ็กซี่ ไม่จำเป็นต้องโป๊ก็ได้ แต่ต้องมีความมั่นใจ มีบุคลิกดี อย่างพี่มาช่า วัฒนพานิช และ พี่หมิว (ลลิตา ศศิประภา) อย่างพี่หมิวเขามีบุคลิกที่สวยงามมาก เพอร์เฟคท์ มีเสน่ห์ ไม่ต้องแต่งโป๊เลย ขนาดเป้ยเป็นผู้หญิงยังอดชื่นชมไม่ได้ พี่ช่าก็เหมือนกัน ยิ่งอายุมากยิ่งสวย เขาไม่ได้ผอม แต่กลับเซ็กซี่ มีหน้าอก มีเอว มีสะโพก เซ็กซี่โดยไม่ต้องมาทำท่าเผยอปาก

เป็นนางร้าย แถมภาพยังเซ็กซี่อีก คนจะมองว่าตัวจริงแรงหรือเปล่า

ก็คงมีคนมองว่าแรง แต่เป้ยไม่ว่าอะไร เพราะเคารพความคิดทุกความคิด ไม่ได้โกรธ เพราะเรามีหน้าที่ที่ต้องทำ

ข่าวฉาว


ข่าวทำเรื่องมากในกองละครเอ็กแซ็กท์


จริงๆ พี่บอยได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ว่ารู้สึกยังไงกับเป้ย เป้ยก็ไม่แก้ข่าวหรอก ให้ดูต่อไปแล้วกัน ว่าเป้ยเรื่องมากจริงหรือเปล่า ตอนแรกก็เครียด แต่เชื่อมั่นว่าพี่บอยไม่ได้เป็นคนพูด ไม่ได้มีใครปริปากจากกองเอ็กแซ็กท์เลย สามารถฟ้องได้ ได้ยินแค่นี้ก็สบายใจแล้ว เป้ยไม่ทราบว่าทำไมถึงมีข่าว แต่คนเรามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ก็ทำใจ จริงๆ แคร์มากนะ เพราะไม่ใช่คนแบบนั้น ถึงขั้นเก็บไปฝันด่าคนที่ใส่ร้าย

เป้ยรู้นะว่าเป็นใครที่ปล่อยข่าว เป็นทีมงานแต่ไม่ใช่จากเอ็กแซ็กท์ เขาค่อนข้างสนิทกับเป้ยนะ ก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ ถึงทำแบบนี้ แต่ไม่เป็นไร อโหสิกรรมให้ เพราะไม่อยากมีปัญหา ไม่ทราบจุดประสงค์เขาเหมือนกัน เป้ยถามจากกองเอ็กแซ็กท์ ดัชชี่ และนักข่าว ก็เลยรู้ว่าเป็นเขา แต่ไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากยุ่ง ทำได้ก็ทำไป ต่อไปนี้จะคบใครก็ต้องระวังตัวมากขึ้น

คนตีความข่าวอักษรย่อว่าดารา ป.ปลา ขากถุยไม่เลือกที่คือ เป้ย

(หัวเราะ) ข่าวนี้ไม่ซีเรียสเลย เพราะขนาดเรอ ยังไม่เคย ถ้าใครที่รู้จักเป้ย จะรู้ดีว่าเป้ยเป็นคนรักความสะอาดมาก ไม่ชอบอะไรสกปรก สเปคก็จะชอบผู้ชายที่สะอาด เพราะที่บ้านเป็นคนจีน ถ้าทำอย่างนั้น ก็คงโดนแม่ตบปากมาตั้งแต่เด็กแล้ว ใครที่ร่วมงานกับเป้ยน่าจะรู้ดี

โสดหมาดๆ


หัวใจตอนนี้ว่างแล้วสิ


ก็ถอยหลังกับพี่บุษย์คนละก้าว เป้ยกับพี่บุษย์คุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ต่างคนก็ต่างคิดว่าควรถอยออกมาดูกันใหม่ แต่พี่เขาก็ยังโทรคุยกัน เป้ยก็ยังโทรคุยกับพี่เขา เพียงแต่ลดสถานะลงจากแฟน ก็ค่อยๆ ดูกันไป ยอมรับว่าเป้ยเป็นคนบอกสื่อว่าเลิก แต่ตอนนั้นคิดอย่างนั้นจริงๆ แต่มาทราบปัญหาทีหลัง ว่ามีอีกบุคคลมาทำให้เป้ยปั่นป่วน เข้าใจผิด มันไม่ใช่อย่างที่เป้ยคิด

แปลว่ามีคนยุให้เลิก

มีค่ะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร ยอมรับว่าเข้าใจพี่บุษย์ผิดในตอนนั้น แต่ก็อย่างที่บอกว่าเคลียร์แล้ว อนาคตก็อาจจะมีสิทธิรีเทิร์นก็ได้ แต่ตอนนี้เป้ยทำงานเหนื่อย ก็อยากจะพักผ่อน อยากให้โฟกัสที่งานมากกว่า การก้าวออกมาไม่ใช่เรื่องที่ผิด มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ความรักมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนให้เราได้จำ และมันก็บั่นทอนจิตใจของเรา การถอยคนละก้าวคือสิ่งที่ดีที่สุด พี่บุษย์เขาก็เห็นด้วย

ได้ยินคำว่า "รีเทิร์น" หนุ่มๆ ที่เพิ่งได้เฮ คงรู้สึกใจแป้วเลยสิ งานนี้คงต้องวัดดวงเอาแล้วล่ะจ้ะว่า วันข้างหน้าหนุ่มข้างกายนางร้ายเซ็กซี่คนนี้ จะยังชื่อ "บุษย์" อยู่หรือไม่...



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์