ทาทา ยัง : ชีวิตไม่เพ้อเจ้อ

'หากวันหนึ่งเราได้เป็นเหมือนมาดอนน่าเราจะรู้สึกสะใจ เพราะไม่ได้คิดว่าจะมาถึง เหมือนที่ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปโปรโมตที่ยุโรป แต่พอมันเกิดขึ้นก็ตายแล้ว ดีจังเลย'



"ทาทาคงไม่บอกว่า ฉันจะดังเหมือนมาดอนน่า" "อมิตา มาเรีย ยัง" หรือ "ทาทา"

นักร้องสาวที่โกอินเตอร์เป็นคนแรกๆ ของไทยบอกกับเราอย่างนี้หลังถูกตั้งคำถามถึงความคาดหวังในอนาคต

"มันเพ้อเจ้อ" เจ้าของอัลบั้ม "ทาทา ยัง วัน เลิฟ" ลงเสียงหนักพร้อมรอยยิ้มเหมือนอย่างที่เคยเห็นประปรายผ่านรายการโทรทัศน์

"เอาเป็นว่าถ้าได้เป็นก็จะรู้สึกดี แต่เราจะไม่คิดว่าคอยดูนะ อีก 3 ปี จะต้องได้คอนเสิร์ตใหญ่แบบมาดอนน่า จะต้องมีอัลบั้มใหญ่โต จะต้องได้ทำงานกับโปรดิวเซอร์คนนี้ๆ"



"มันเพ้อเจ้อ" เธอย้ำอีกครั้ง

"หากวันหนึ่งเราได้เป็นเหมือนมาดอนน่าเราจะรู้สึกสะใจ เพราะไม่ได้คิดว่าจะมาถึง เหมือนที่ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปโปรโมตที่ยุโรป แต่พอมันเกิดขึ้นก็ตายแล้ว ดีจังเลย"

ไปยุโรปต้นพฤษภาคมนี้ ทาทามีแผนจะไปทำอัลบั้มภาษาอังกฤษอีกครั้ง โดยตั้งใจที่จะไม่คาดหวัง แต่สิ่งที่มีก็คือ การเตรียมตัวที่ดี ความมุ่งมั่นในระดับสูง และหัวใจ

"เราไปที่นั่นมันต้องเริ่มจากศูนย์ เพราะยังไม่รู้ว่าแฟนที่นั่นเป็นอย่างไร และทาทาคงจะไม่สามารถพูดได้ว่าฉันเป็นนักร้องดังจากเอเชีย ทุกคนพูดเรื่องเราอย่างนี้ไม่น่าเกลียด แต่เราจะไปหยิ่งยโส แล้วพรีเซนท์ตัวเองขนาดนั้นไม่ได้"

"ฉะนั้นเราก็ต้องทำใจว่าเราไปที่ทวีปใหม่ ต้องไปแนะนำตัวเองให้เขารู้จัก ไปทำให้เขาชอบเรา แต่จะให้คิดว่าเราดังแล้ว มันเหมือนวัวลืมตัว คนเราต้องรู้ว่าเราเริ่มต้นมาจากที่ไหน ก่อนที่จะมีญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นก็ต้องมีเมืองไทยมาแล้ว"



แน่ล่ะ ผลงานในไทยของเธอเป็นที่ยอมรับอย่างมากซึ่งก็เป็นสัดส่วนแปรผันตาม

ข่าวฉาวรายวันที่มากขึ้นเช่นกัน แต่เมื่อเลือกแล้วที่จะเดินบนเส้นทางนี้ เธอว่า แทนที่จะจัดการกับข่าว หันมาจัดการกับระบบความคิดของตัวเอง เพื่อป้องกันตัวเองให้ยืนอยู่ ณ จุดนี้ได้อย่างมั่นคง และปกป้องคนรักที่รายล้อม ทั้งคุณพ่อ "ทิม ยัง" และ "เปรม บุษราคัมวงศ์" คู่หมั้นจะดีกว่า

"ถ้าไปนั่งบ้ากับทุกข่าวที่มี ก็มานั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้หรอก

"การที่จะอยู่ตรงนี่ได้ต้องหนังหนามากเลยนะ เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องยึดถือหลักของตัวเอง จะเป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เราเป็น มันไม่ได้หรอก

"เรื่องที่คนอื่นพูดถึงเราไม่เท่าไร เพราะเราที่อยู่ตรงนี้ แต่เรื่องที่มักจะทำให้ทาทาเสียใจจะเป็นเรื่องของคนในครอบครัว เพราะจะรู้สึกว่าคุณไม่มีสิทธิมาก้าวก่าย เวลาที่ไปว่าเปรมหรือคุณพ่อ จะรู้สึกว่าไม่ได้ ไม่มีสิทธิ ซึ่งบางทีเราป้องกันไม่ได้ มันเกินความสามารถ ก็ต้องจัดวิธีคิดของเรา

"เหมือนอย่างมีบางคนยกย่องชื่นชม ทาทาจะรู้สึกดีมาก มันทำให้เราอยู่ในจุดหนึ่งในสายตาคนอื่น เขาชมเราเราก็ต้องดีใจสิ ไม่ใช่ว่าพอเขาชมแล้วรู้สึกกดดันขึ้นมา ว่าต่อไป ห้ามผิด ห้ามพลาด

"อันนั้นเพ้อเจ้ออีกแล้ว

"เพราะจริงๆ แล้ว ทาทาก็เป็นคนทั่วไปนี่แหละ เพียงแต่ว่าชีวิตทาทามีคนมามอง คนเราหย่ากันทุกวัน เพียงแต่เขาไม่ได้เป็นดารา เวลาที่ดาราถูกจับตามอง สงสารนะ เพราะเขากำลังเจ็บปวด แต่ต้องมารับรู้และตอบคำถามตลอดเวลา ซึ่งมันก็ต้องยอมรับไง เพราะคุณเลือกเองที่จะเป็นอย่างนี้ แต่ทาทายินดีจะตอบนะ แค่อย่าส่วนตัวเกินไป เลิกก็เลิก แต่อย่ามาถามว่าเพราะอะไร บางทีคนเราก็ไม่พร้อมจะอธิบาย"



ทาทาเล่าว่า แผนสำหรับการมีครอบครัวของตนนั้นยังไม่มีอะไรมาก แต่ที่ชัดเจนจริงๆ ก็คือ จะประคับประคองชีวิตครอบครัวควบคู่ไปกับชีวิตการทำงานให้ดีที่สุด เพราะรู้สึกเสมอว่าผู้หญิงที่ทำอย่างนั้นได้ "มันเปรี้ยวมาก"

"ตอนเด็กๆ ที่คุณแม่เป็นแบบนั้นเรารู้สึกอายมากเลย เพราะคุณแม่เปรี้ยว แต่พอแม่ไม่อยู่แล้ว กลับรู้สึกว่าแม่เราเจ๋งมาก ก็เอาเป็นว่าเราจะทำให้ลูกรู้สึกว่ามีแม่เจ๋งในขณะที่แม่เขายังมีชีวิตอยู่

"ทาทาคงเลี้ยงลูกมันๆ แต่ก็คงจะประคับประหงมมากพอสมควร เพราะอย่างหมาเราก็ให้กินอาหารที่ดีที่สุด ต้องฉีดยา ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ของเล่นต้องดีที่สุด แต่นั่นคือหมาน่ะ แล้วลูกล่ะ นึกไม่ออกเลย หมาป่วยยังใจจะขาดจะเป็นจะตาย

"ถ้าเป็นลูกเราจะไหวไหม

"แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมเป็นแม่เลย สงสารลูกเพราะเรายังต้องไปทำงานหลายที่ แต่ 2-3 ปีแรกทาทาอยากจะอยู่กับเขาให้มาก"

ถึงตอนนี้ทาทาบอกว่า นี่แหละ คือจุดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่อย่ากลัวว่าคิดแบบนี้แล้วต่อไปจะมีแต่คำว่าขาลง เพราะสำหรับทาทามันไม่ใช่

"ถ้าเรารู้สึกว่าเราสูงสุดแล้ว แต่วันหนึ่งสูงขึ้นไปได้อีกเราจะรู้สึกดีกับมัน แล้วถ้ามันไม่สูงไปกว่านี้อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่านี่คือจุดที่สูงที่สุดที่เราได้ก้าวมา

"คนเราได้สิบอย่าไปมองร้อย ได้สิบมองสิบ แล้ววันที่ได้ยี่สิบจะรู้สึกว่ามันมีค่า

"ที่มาถึงทุกวันนี้ ทาทาไม่คยลืมสิ่งที่เป็นมา ไม่หลงระเริงไปกับมัน จะไม่ละเลยและรักษาสิ่งที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ ทาทารับผิดชอบ เป็นนักร้องก็ต้องฝึกร้องเพลง ฝึกเต้น ดูแลตัวเอง"

"เหนื่อยนะ แต่โดยมากคนที่สำเร็จไม่มีใครที่ไม่เหนื่อย คนที่ไม่เหนื่อย ไม่เคยประสบความสำเร็จ"

"คนเราอย่าไปเพ้อเจ้อ เพ้อฝันไปไกล แล้วคาดหวัง สิ่งที่ทำยากที่สุดคือการไม่คาดหวังนี่แหละ ต้องรับผิดชอบงานให้ดี ไม่คาดหวังอะไรเลย แล้วพอได้มาจะรู้สึกว่า"

"เจ๋ง"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์