ทรายชี้แจงกรณีโพสต์ด่าคนในเฟซบุ๊ก

วันที่ 19 มี.ค. ที่บ้านปลายนา ย่านปากเกร็ด ได้มีพิธีบวงสรวงละครเรื่อง “อาญารัก” ซึ่งมีนักแสดงสาวมากฝีมือ ‘ทราย เจริญปุระ’ ร่วมพิธี 

 หลังเสร็จพิธีผู้สื่อข่าวก็สอบถามถึงกรณีที่เจ้าตัวโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่าแฟนคลับว่า 

“อ้าว อีบอต แม่ลูกอ่อนนี่ไม่จบนะ มึงถามว่ากูถ่ายละครเหนื่อยมั้ยค้า กูก็บอกไปว่ากูทำงานหนัก อดนอน เลยดูเหนื่อยๆ นะคะ แล้วมึงมาบอกว่า โอ้ยเลี้ยงลูกเหนื่อยกว่านี้ค่า ไม่มีลูกไม่รู้หรอก เป็นดารานี่สบายได้ตังค์เยอะแยะ พูดเพื่ออะไรครับ มึงถามกูเองนะ กูไม่ได้ว่าไรเลย มึงจะมาข่มทำไมวะ แม่ลูกอ่อนสัมปทานความเหนื่อยหนักไว้คนเดียวเหรอ กูไม่มีลูกนี่ห้ามบ่นใช่มั๊ย ห่า” 

 โดยทรายกล่าวว่า “ถ้าตามเฟซบุ๊กทรายจะรู้ว่า ทรายเป็นคนใช้คำพูดอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ที่มีลงข่าว เขาเอามาลงแค่ครึ่งหลัง เรื่องมีหลายภาคมาก แล้วโดนตัดตอนไปลง อาจจะไม่เข้าใจ เอาไปก็มีการสะกดผิด” 

ทรายเล่าว่า “จุดเริ่มต้นเกิดจากที่ทรายนั่งอยู่ในกองละคร เสือสั่งฟ้า2 อยู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามาชี้เราให้ลูกซึ่งเป็นเด็กเล็กๆ ดูว่า นางนาคๆ กลัวไหม เราก็งง เขาชี้ทรายอยู่อย่างนั้น จนทีมงานมาขอตัวออกไป เราก็รู้สึกว่าคุณแม่เป็นโรบอตหรือเปล่า เพราะเขาพูดอยู่อย่างนั้นว่าผีนางนาค กลัวไหม อยู่ๆ ก็เดินมาชี้หน้า เราก็โอเคไม่เป็นไร ต่อมาก็เดินมาถามเราว่า เหนื่อยไหมคะ เราก็ตอบว่าเหนื่อยค่ะ แล้วเขาก็พูดอีกว่า อุ้ย ไม่เหนื่อยหรอก เลี้ยงลูกเหนื่อยกว่าอีก เราก็คิดในใจว่าเขาต้องการอะไร”

 ทรายกล่าวอีกว่า “ส่วนตัวเป็นคนพิมพ์ข้อความอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าใครเป็นเพื่อนเราจะรู้ว่าเราเป็นคนแนวนี้อยู่แล้ว แต่พอเรื่องมันโดนตัดไปลงบางส่วน คนก็ตีความว่าเขาตาบอดก็ยังไปว่าเขาอีก กลายเป็นเรื่องราวไป เราก็งง ว่าไม่มีลูกแล้วผิดเหรอ ทรายก็บ่นอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรเลย พอมันตัดไปลงก็กลายเป็นอีกเรื่องไป แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสหรอก” 

 “งงมากเลย ดังเลย เราก็จะบอกว่าคนที่กดเข้ามาอ่าน ให้ย้อนไปดูอันเก่าด้วยว่าเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว” 

 “ก็จะระวัง เรามีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า เราเป็นนักแสดงอยู่ แต่ก็ยังมีความเป็นคนอยู่ ทรายก็จะบ่นเรื่องนี้มาตลอด เราเคยเห็นตั้งแต่รุ่นพ่อเรา(รุจน์ รณภพ) แล้วว่าคนเรียกพ่อเราว่า ไอ้ หรือไม่ขายของของให้เพราะพ่อเล่นบทร้ายแล้วคนดูอิน บางทีก็เฮิร์ตนะ คนอื่นอาจจะไม่รู้สึก แต่คุณไม่รู้จักเขาเลย แล้วไปชี้เขา ก็อยากให้ทุกคนให้เกียรติกันบ้างนิดนึง”

 “ถ้าบอกดีๆ ทรายไม่เคยว่าอยู่แล้ว เรารู้ว่าการทำงานของเรามันแค่ไหน มันเป็นสิ่งที่คุณไม่ทำกับคนรู้จักแน่ๆ อย่างน้อยทรายก็ไม่เคยชี้หน้าใคร อย่างพ่อทรายที่เล่นเป็นตัวร้าย คนไม่ขายของให้ โดนยี้ว่าเลวมาก ซึ่งเข้าใจว่าเขาอิน แต่ในฐานะลูกเราก็เฮิร์ตนะ พอโตขึ้นมาเราก็โดนคนทักว่าห้อยหัวให้ดูหน่อย เรารู้ว่าเล่นมุข เล่นหนังเรื่อง นางนาก มาหลาย 10 ปีแล้วโดนทุกปี ก็ไม่ไหวค่ะ รวมถึงเราจะไม่ชอบที่เอาผีไปหลอกเด็กทำไม แบบว่าผีๆ กลัวไหม” 

“ก็มีบอกให้ระวังหน่อย เขาเข้าใจว่าเราเป็นคนอย่างนี้ แต่คนสมัยนี้อ่อนไหวมากขึ้น หรือในโลกโซเชียลมีเดีย ยิ่งเอาไปตัดแบบนี้ยิ่งจะดูไม่ดี เลยคิดว่าเราจะเปลี่ยนนิสัยดีหรือจะวงเล็บว่าความเดิมตอนที่แล้วดี แต่คงเปลี่ยนนิสัยไม่ได้แล้ว” 

 อยากจะบอกคนที่รับรู้ข่าวนี้อย่างไร “ถ้าคนไม่ชอบหรือไม่ได้ตามทรายอยู่แล้วก็เข้าใจว่าถ้าฟังแล้วต้องผงะ ก็ดูร้ายนะ ถ้าคนที่ตามเราก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันอีก เข้าใจกันอยู่แล้ว เวลาทำงานเราก็ไม่เคยพูดอย่างนี้และไม่เคยด่ากันเลย ถือว่าเป็นเรื่องขำๆ ค่ะ”