ทนายฟันธงลินด์เซย์โลฮาน ไม่รอดคุก

ใครที่ติดตามข่าวคราวความเป็นไปของชีวิตลินด์เซย์โลฮาน ดาราเจ้าปัญหาแห่งฮอลลีวู้ดคงรู้สึกเหมือนได้ดูหนังซ้ำ

หลังเห็นดาราสาวถูกตำรวจจับด้วยข้อหาเมาแล้วขับอีกครั้ง แถมคราวนี้ยังมีข้อหาพกโคเคนพ่วงด้วยอีกหนึ่งข้อหาหลังตำรวจพบยาตัวนี้อยู่ในกระเป๋าของเธอ และขับรถทั้งๆ ที่ใบขับขี่ถูกระงับอยู่ (ซึ่งข้อหานี้ทำให้ ปารีสฮิลตัน เข้าไปนอนกินข้าวแดงในคุกมาแล้ว)


เรื่องราวก่อนที่ลินด์เซย์จะถูกจับรอบสองเริ่มต้นด้วยความระทึกขวัญ

หลังแม่ของแทรินเกรแฮม อดีตผู้ช่วยที่เพิ่งถูก ลินด์เซย์ไล่ออกใช้มือถือโทรแจ้งตำรวจว่ากำลังถูกขับรถไล่ล่าอยู่โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าคนบนรถคือดาราสาว ซึ่งการไล่ล่านั้นหวาดเสียวมากจนเพื่อนหนุ่มอีก 3 คนที่อยู่บนรถ ลินด์เซย์ ถึงกับออกอาการกลัวตาย เพราะดาราสาวเหยียบมิดคันเร่งไม่ต่ำกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!




"ผมบอกกับเธอว่า "นี่เธอกำลังจะฆ่าพวกเรานะ!!!"


เธอกลับตะโกนตอบมา "ฉันไม่สนใจ ฉันเป็นคนดัง ฉันจะปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นไม่ได้!!!" และพวกเราก็พากันตะโกนใส่เธอ เพราะเธอเพิ่งขับรถพาเราฝ่าสี่แยกทั้งๆ ที่ทางเราเป็นไฟแดง" ดันเตไนโกร หนุ่มเจ้าของรถคันเกิดเหตุเล่าให้ฟังด้วยความหวาดเสียวส่วนเพื่อนอีกคนก็ยืนยันว่า เธอกำลังเมามากจริงๆ ส่วนสาเหตุที่เธอขับรถไล่ล่านั้น เพราะเธอคิดว่าคนบนรถเป็น แทริน ที่เธอเพิ่งไล่ออก เพราะแตกคอกัน

มาร์คเจราโกส ที่เคยเป็นทนายให้คนดังอย่าง ไมเคิลแจ็คสัน และวิโนนาไรเดอร์ ฟันธงว่า

ลินด์เซย์จะต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกแน่นอนและมีความเป็นไปได้ว่าจะต้องนอนคุกมากกว่าโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้นั่นคือ 96 ชั่วโมงหรือ 4 วัน แบบเดียวกับที่ นิโคลริชชี เพิ่งโดนมา เธอกระทำผิดครั้งแรกก่อนจะรอดมาได้ และก็มากระทำผิดรอบสองอีกในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน"ซึ่งอาจทำให้ข้อกล่าวหารุนแรงพอที่จะทำให้คดีนี้แทนที่จะติดคุกของเขต แต่กลับกลายต้องไปติดคุกของรัฐแทน"



ด้านทนายของดาราสาวยังออกมายอมรับด้วยว่า


สายรัดข้อเท้าซึ่งติดเครื่องตรวจจับการดื่มแอลกอฮอล์ที่ขาของดาราสาวนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย เพราะดาราสาวกำลังกลับไปมีพฤติกรรมเหมือนเดิมอีกครั้ง และกำลังเข้ารับการบำบัดทางการแพทย์เพื่อรักษาอาการติดเหล้าติดยา

แม้หลักฐานทุกอย่างจะมัดตัวแต่ดูเหมือน ลินด์เซย์ จะยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ 

และโคเคนที่ยึดได้ก็ไม่ใช่ของเธอ แถมยังบอกด้วยว่าเหตุการณ์ไล่ล่าบู๊ล้างผลาญนั้น เธอเองก็แทบจะถูกแม่ของอดีตผู้ช่วยขับรถชนเข้าให้ซะด้วยซ้ำ

...งานนี้คงต้องดูกันต่อไปว่าความจริงเป็นอย่างไร



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์