ต๊อบฉันไม่ใช่ คาสโนว่า จอมทุ่ม

"ต๊อบ"ฉันไม่ใช่...คาสโนวาจอมทุ่ม

""ต๊อบ"" ปฏิญญา ควรตระกูล หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในฉายา ""เพลย์บอยเรียกพี่"" หนึ่งในคนสังคมไฮโซ ที่ตกเป็นข่าวในหน้าบันเทิงแทบทุกวี่ ทุกวัน หลังเลิกรากับดาราสาว บี-วัลวิภา โยคะกุล แต่ ""ทอมบอย"" อย่างเขา ก็มีสาวๆ แวะเวียนมาช่วยดามหัวใจ จนแทบจะเรียกได้ว่า หัวกระไดไม่เคยแห้ง รวมทั้งยังตกเป็นข่าวกับสาวดังอย่างมากมาย อาทิ ""หมู"" พิมพ์ผกา เสียงสมบูรณ์, ซาร่า AF3, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, ""จั๊กจั่น"" อคัมย์สิริ สุวรรณสุข ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวยังเปิดอกว่า แม้จะถูกมองเป็น ""เสือผู้หญิง"" แต่ก็เลือกที่จะคบหาเป็นรายๆ ไป ไม่ได้ชอบสับรางความรักให้ปวดหัวแต่อย่างใด


ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน ใครจะคิดว่า ทายาทนักธุรกิจด้านที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ""ปัญญา พร็อพเพอร์ตี้"" ที่ร่ำรวยขั้นมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของเมืองไทย ว่ากันว่า ต่อให้นั่งอยู่เฉยๆ ก็กินดอกผลจากธุรกิจก็ไม่มีวันหมด จะลุกขึ้นมาจับธุรกิจเปิดร้านขนม ""ทาร์ตไข่"" ซึ่งดูขัดกับบุคลิก ""เพลย์บอย"" ชอบกล ที่เจ้าตัวบอกว่า เป็นคนที่ชอบทำอาหารการกินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้เวลาออกงานสังคมภายนอก จะดูเป็น ""ทอมบอย"" แต่ลึกๆ แล้ว ก็มีความเป็นแม่บ้าน แม่เรือน เหมือนผู้หญิง ทั่วๆ ไป



""หลายคนมองว่า ขายขนมแล้วขัดกับบุคลิก แต่ใจมันชอบนี่หว่า"" หนุ่มต๊อบบอกว่า ช่วงแรกที่คิดจะเปิดร้านขายขนม คุณพ่อ (ปัญญา ควรตระกูล) ทักท้วงก่อนเลยว่า ""จะไหวเหรอลูก"" แถมยังบอกด้วยว่า ""ระวังจะเจ๊งนะ ร้านขนมอะไร...ขายแพนทาร์ตอย่างเดียว ใครจะไปซื้อ""



แม้จะโดนเตือนว่ามีโอกาสเจ๊งสูง แต่เจ้าตัวก็ตัดสินใจทำ ร้าน Ka-nom จึงเป็นธุรกิจแรกที่ ""หนุ่มต๊อบ"" ออกมาลุยเดี่ยวแบบเต็มตัว โดยมีเพื่อนรักสมัยเด็กๆ ลงมาร่วมหุ้นด้วย



""เราทำขนมไทยไม่เป็น ก็เลยทำขนมฝรั่ง เพราะง่ายกว่าขนมไทย ร้านพี่ชื่อ ""ka-nom"" อ่านออกเสียงว่า ""คา-นม"" เพราะพี่ชอบ ""นม"" ตามที่เขาพูดๆ กันนั่นแหละ ใช่เลย อย่างแรกที่มองผู้หญิงก็ตรงนั้นแหละ"" หนุ่มต๊อบเปรยอย่างอารมณ์ดี



จุดเริ่มต้นของการอยากทำขนมขาย จริงๆ เกิดจากช่วงที่มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงกับคุณพ่อ ไปเจอแพนทาร์ต ไข่ ขายอยู่ย่านจินซาจุ่ย กลิ่นหอมๆ ของมันเตะจมูกเข้าอย่างจัง ที่สำคัญลูกค้าต่อคิวรอซื้อยาวเหยียด มีคนเล่าว่า ดาราชื่อดังบางคนลงทุนถึงขนาดนั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว เพื่อมาซื้อแพนทาร์ต ไข่ เจ้านี้ ทำให้รู้สึกแปลกใจ แล้วความอร่อยของมันก็ใช่เลย เลยทำให้ตัดสินใจควักกระเป๋าถึง 6 ล้านบาท เพื่อซื้อสูตรกลับมาเปิดร้านให้คนไทยได้มีโอกาสลองกิน



""กว่าจะได้โลเคชั่นและสูตรที่ลงตัว ต้องทดสอบอยู่ปีกว่า ถึงได้เปิดตัว โดยแบ่งพื้นที่บริเวณสนามกอล์ฟ ปัญญา รามอินทรา ของคุณพ่อ ตั้งโรงงานทำขนม พอเปิดร้านแรกที่สุขุมวิท 49 ปรากฏว่า ขายดีจนน่าตกใจ ตอนหลังคุณพ่อเลยยุให้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พี่ค้นพบว่า สูตรสำเร็จของการทำการค้าสมัยนี้คือ ถ้าทำไม่เป็น ก็ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ดังนั้นถ้าลูกน้องไม่อยู่ เราต้องสามารถทำแทนได้""


 หนุ่มต๊อบให้ความใส่ใจกับธุรกิจขนมของตัวเองแบบสุดๆ ถึงขนาดลงมือทำและทดสอบขนมก่อนขายด้วยตนเอง ในแต่ละวัน เขาจะเข้าไปคลุกอยู่ในโรงงานชนิดที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้รู้จริงเกี่ยวกับขนม ลงทุนสลัดคราบสาวห้าว แล้วเข้าคอร์สเรียนทำขนมตามสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นว่าเล่น ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า นี่แหละ คือตัวตนอีกมิติหนึ่งที่คนอื่นๆ ไม่เคยรู้




""กลายเป็นว่า ตอนนี้มีชาวฮ่องกงหลายคน มาซื้อสูตรของเรากลับไปทำขายที่นั่นแทน เพราะว่า พี่ซื้อมา ไม่ได้เอามาเฉยๆ แต่พยายามปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของแป้ง รสชาติและความนุ่มของเค้าสู้เราไม่ได้เลย""



หลังประสบความสำเร็จ หนุ่มต๊อบไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ เขาขยายโอกาสธุรกิจด้วยการปรับปรุงร้านใหม่ให้เป็นแบบ Fashion Bakery ที่ทันสมัยทุกอย่างในรสชาติดั้งเดิม ทั้งช็อกโกแลต เค้ก, ทาร์ตไข่แดง-ไข่ขาว, พายผักโขม, ขนมปังเนยสด, ครัวซองท์ไส้กรอก และ เค้กหลากหลายชนิด ที่สาขาสุขุมวิท 49 จึงเป็นร้านขนมที่ค่อนข้างหรูหรา พร้อมเสียงเพลงเพราะ บรรยากาศดี มีอาหารให้เลือกชิมมากมาย  รวมถึงอาหารหนัก สำหรับคนที่อยากมาทานมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น ที่เป็นอาหารจานเด็ดประจำวัน ซึ่งทั้งหมดเป็นสูตรพิเศษของทางร้านเท่านั้น รวมถึงสินค้าชิ้นเด็ดอย่าง ""ปาท่องโก๋"" ที่กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มาแรง



""ตอนแรกพี่พยายามดึงตัวปาท่องโก๋ให้ยาวเหมือนสูตรฮ่องกง ก็ไปเรียนมา แต่ดึงไม่ได้ ทำไม่เป็น มันตกท้องช้าง พอเอาลงทอด ตรงกลางกลับไม่สุก แล้วข้างๆ ก็กรอบมากเลย ลองผิดลองถูกอยู่นาน ปาท่องโก๋ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ ไม่เหมือนปาท่องโก๋เมืองไทย เพราะเราใช้น้ำมันใหม่ตลอด ปกติของบ้านเรามักจะมัน แล้วข้างในจะกลวงๆ แต่อันนี้ของเราแน่น จิ้มกับครีมเน้นสีสัน ถูกใจทุกกลุ่มทุกวัยโดยเฉพาะเด็กๆ ชอบมาก ตอนนี้เรามีถึง 6 สาขา ที่สุขุมวิท 49, สยามสแควร์, คลับเฮาส์สนามกอล์ฟ ปัญญา รามอินทรา, ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ประตูน้ำ, ลา วิลล่า (ตรงข้ามซอยอารีย์) และ ที่เชียงใหม่""



เมื่อคุณพ่อเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จึงไม่แปลก ที่ลูกคนสุดท้องคนนี้ จะเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น แนวคิดในการทำมาค้าขาย จึงถูกหล่อหลอม และถอดแบบจากผู้เป็นพ่อหลายอย่าง ""ถ้าจะให้ตั้งราคาได้สูง ก็ต้องขายของดี เพราะคำสำคัญคือคำสัญญา"" พ่อบอกอย่างนี้มาตลอด คนอื่นขายปาท่องโก๋แล้ว กล้าเรียกราคา 40 บาทไหม แต่นี่เรารับรองว่า เป็นของดี ใช่ว่า อะไรก็ได้ขาย เพราะเรามีชื่อเสียง คุณภาพ และราคา ที่เหมาะสมเท่านั้น ถึงจะอยู่รอด นั่นเป็นแนวคิดเรื่องธุรกิจที่พ่อสั่งสอนมาตลอด



หน้าที่หลักๆ ของ ""หนุ่มต๊อบ"" ทุกวันนี้ นอกจากทุ่มให้กับธุรกิจขนมแล้ว ยังช่วยดูแลบริษัทปัญญา พร็อพเพอร์ตี้ ร่วมกับพี่ชายคนโต โดยตัวเองรั้งตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ดูแลฝ่ายจัดซื้อและเรื่องรายรับของบริษัท ส่วนพี่ชายดูแลเรื่องจ่ายเงินออก ซึ่งนอกจากบุคลิกของการเป็นนักธุรกิจแล้ว ประเด็นที่เป็น ""ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์"" ที่มีคนพูดถึงอย่างหนาหูว่า เป็น ""คาสโนวา"" เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ



""ชอบนะ แต่จริงๆ พี่เป็นคนรักเดียวใจเดียว จะรักทีละคนเท่านั้น ไม่เคยมีแฟนมากกว่า 1 คนเลย เพราะมีไม่ได้ โกหกไม่เก่ง แฟนจับได้ตลอด...จริงๆ เคยมีคนทักว่า พี่อาภัพเรื่องความรัก แต่ไม่อาภัพเพื่อน ความรักของคนๆ เดียวที่จะมีคือ แฟน แต่ความรักของพ่อแม่และเพื่อนมันยิ่งใหญ่มาก พี่ถึงมีเพื่อนและคนรู้จักเยอะไง และก็เชื่อว่า ทุกคนรักพี่""


 


คาสโนวา ต๊อบ มองว่า สมัยนี้สังคมเปิดรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น แล้วกลุ่มดังกล่าวก็แสดงออกอย่างเปิดเผยมากขึ้น ชีวิตในแบบของเขาจึงค่อนข้างมีสีสัน และไม่เคยคิดเสียใจเมื่อเกิดมาเป็นอย่างนี้



""พวกเรามีตัวเลือกเยอะกว่านะ ผู้หญิงที่มาคบกับทอม ก็เพราะไม่มีอะไรเสียหาย มีอะไรกับทอม กับมีอะไรกับผู้ชาย อย่างไหนเสียหายมากกว่ากัน ถามว่า อยากแต่งงานไหม เคยแต่งกับ ""บี"" แล้ว คิดว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งกับใครอีกเลย ถ้าจะแต่งอีก ต้องเป็น ""บี"" คนเดิม คนอื่นไม่แต่ง เพราะมีแหวนแต่งงานอยู่วงเดียวเพื่อคนเดียว ที่ผ่านมาถือว่า เป็นความผิดพลาดที่เรายังเด็ก ไม่ยอมหันมาพูดจากัน แต่ทุกวันนี้ความรู้สึกดีๆ ก็ยังมีให้กันอย่างสม่ำเสมอ เรื่องของความรักแต่ละครั้ง แต่ละคน พี่มองว่ามีรูปแบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน""



ทอมบอยนักรัก บอกว่า เขาก็เป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป ที่เพียงแต่กล้าเปิดเผยว่า ""ชอบผู้หญิงสวย"" ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เวลาอยู่ใกล้ใครแล้วมักจะรู้สึกหลงใหลได้ตลอดเวลา


""พี่เพียงแต่เป็นคนที่ชอบผู้หญิงสวยๆ เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดังเสมอไป เผอิญว่า ดาราเหล่านั้น ก็ถือเป็นคนที่เขาคัดความสวยความงามมาให้แล้ว ก็เท่านั้นเอง""



กับฉายา ""เจ้าบุญทุ่ม"" ที่หลายคนยกให้ เพราะเวลาที่ ""หนุ่มต๊อบ"" มีข่าวกับสาวรายใด มักจะมีข่าวตามออกมาอย่างสม่ำเสมอว่า เจ้าตัวมักจะยอมทุ่มให้แบบไม่อั้น ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่า ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ""พี่ไม่ใช่คนโง่ ที่จะยอมทุ่มให้ผู้หญิงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เพียงแต่ว่า เวลาที่ชอบใคร พี่มักจะเลือกมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา เพราะถือเป็นการให้เกียรติกัน บางคนอาจจะอยากไปท่องยุโรปสัก 15 วัน ในขณะที่บางคนอาจจะขอแค่ผ่าตัดเสริมอึ๋ม ซึ่งมูลค่ามันอาจจะพอๆ กัน แต่พี่ก็ไม่เคยไปคำนึงเรื่องเงินๆ ทองๆ เพียงแต่ว่า ทำไปแล้ว เราไม่ลำบาก ไม่เดือดร้อนใครก็พอ อย่างล่าสุดกับ เจนี่ (เทียนโพธิ์สุวรรณ) นั่นเค้าระดับนางเอกของช่อง 3 เผอิญพี่มีเพื่อนฝูงเยอะ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่สืบรู้ว่า เค้าชอบอะไร ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เสียดายที่กลายเป็นข่าวดังไปหน่อย เค้าก็เลยเขินไม่ยอมรับ (หัวเราะ)""



หลังสร้างความคึกโครมกลายเป็นข่าวดังเกรียวกราว จนดาราสาวเกิดอาการ ""ไก่ตื่น"" ก่อนหันไปคบหนุ่มไฮโซอย่าง กพ ณรงค์เดช แทน แต่เจ้าตัวก็ไม่แคร์ แถมยังอวยพรให้ทั้งคู่คบกันอย่างราบรื่น



""พี่เป็นเค้า ก็คงเลือกผู้ชายมากกว่า เพราะทั้งหล่อ ทั้งรวย เพียงแต่น้อยใจนิดหน่อย ความจริงเราก็ยังเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง กันได้ ไม่ใช่โทรศัพท์ไป ก็ไม่ยอมรับ เห็นหยั่งกับพี่เป็นตัวอะไร""



ถึงจะผิดหวังกับเรื่องความรักอยู่บ่อยๆ แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ยังไม่เคยเข็ดกับมัน ""พี่มองว่า ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แล้วก็ไม่เคยอายที่จะบอกว่า เป็นคนที่ชอบผู้หญิงสวย ไม่เห็นต้องไปแอบกัน อย่างตอนที่คบกับ หมู-พิมพ์ผกา จบแล้วก็จบกัน หรือที่ไปมอบดอกไม้ให้ น้องซาร่า AF3 ก็มันชอบนี่หว่า หรือตอนนี้พี่ก็ชอบๆ อยู่หลายคน อย่าง ""น้องอั้ม สปีกอิงลิช"" (พัชราภา ไชยเชื้อ) หรือ ""จั๊กจั่น"" (อคัมย์สิริ สุวรรณสุข) นั่น เค้าก็น่ารักดี เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ความจริงพี่ชอบผู้หญิงสวยทุกคนแหละ แต่ไม่ใช่ว่าตั้งหน้าตั้งตาจะจีบอย่างเดียว เพียงแต่อยากจะรู้จัก อยากจะใกล้ชิดบ้างก็เท่านั้น แต่ต่อไปคงไม่กระโตกกระตากอีกแล้ว เพราะกลัวจะวืดซ้ำอีก"" คาสโนวา ต๊อบ พูดอย่างอารมณ์ดี



ถึงแม้เรื่องของหัวใจจะมีสาวๆ มาจับจองอยู่ไม่ขาด แต่ ""หนุ่มต๊อบ"" บอกว่า ทุกวันนี้ความสุขที่แท้จริง ก็คือการได้อยู่กับคุณพ่อ คุณแม่ มากกว่า ""เมื่อก่อนอยู่บ้านหลังเล็ก พออยู่ๆ ไปก็เหงา ก็เลยย้ายมาอยู่หลังใหญ่กับพ่อแม่ เคยไปใช้ชีวิตอยู่คอนโดแถวสุขุมวิทระยะหนึ่ง พ่อกับแม่บอกว่า เวลาที่อยู่ด้วยกันก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว มาอยู่ด้วยกันดีไหม ตอนนั้นก็เลยขายคอนโดแทบไม่ทัน แต่ตอนนี้พี่กำลังจะย้ายไปอยู่แถวสนามกอล์ฟแล้ว กำลังสร้างอยู่ คงจะเสร็จช่วงเดือน ก.ย. นี้ เพราะบ้านหลังนี้ใหญ่ไป ทนค่าไฟไม่ไหว มันแพงจนหูฉี่""



ถึงแม้จะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างผู้มีอันจะกิน แต่คาสโนวารายนี้ มักจะฉุนกึกทุกครั้ง เมื่อถูกจัดให้อยู่ในทำเนียบไฮโซ เพราะเจ้าตัวรู้สึกว่า คำว่า ""ไฮโซ"" มาจากฐานะและการมีเงินทอง เป็นการแบ่งแยกออกจากคนทั่วไป สำหรับเขามีเงินทองก็จริง แต่เป็นมรดกที่คุณพ่อคุณแม่สั่งสมมา ไม่ได้เกิดจากตัวเอง เพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นไฮโซอย่างแท้จริง ในความคิดของเขา ต้องเป็นคนที่มีทรัพย์สินเงินทอง และมีความรู้ด้วยตัวเองเท่านั้น



แม้จะมีทุกอย่างพร้อมสรรพอย่างนี้แล้ว หลายคนยังแอบสงสัยว่า หนุ่มเจ้าสำราญอย่าง ""ต๊อบ"" เคยคิดมั้ยว่า ตัวเองยังขาดอะไรอีกหรือเปล่า?



""ขาดไอ้นั่น...ไง หมอไม่ทำให้ เพราะเขาบอกว่า พี่มีลักษณะเป็นผู้หญิงเยอะเกินไป แต่ถึงจะมีใจเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง ก็ไม่คิดกลับใจเป็นผู้หญิงเต็มตัวนะ ถ้าถามจริงๆ ว่า อยากได้ไหมไอ้นั่นน่ะ ก็ไม่อยากได้หรอก เพราะใช้ไม่เป็น (หัวเราะ) ไม่ใช่หรอก พี่ศึกษามาแล้ว มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก แถมยังเจ็บมากอีกด้วย เป็นไปได้ พี่แค่ไม่อยากมีหน้าอกเท่านั้นแหละ เพราะชอบแต่งตัว อยากใส่เสื้อฟิตๆ บางทีมันอาย""



แม้จะผ่านการทำงานมาแล้วหลายรูปแบบ ทั้งร้านขนม, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, เขียนพ็อตเกตบุ๊ก แต่ล่าสุด ""หนุ่มต๊อบ"" ก็ยังมีงานที่ท้าทายความสามารถชิ้นใหม่อีกครั้ง



""ต้องขอขอบคุณ คุณนิด (อรพรรณ วัชรพล) และ คุณหยี (สราวุธ วัชรพล) ที่ไม่เคยลืมเราเลย พยายามเขียนเชียร์เรามาตลอด คุณนิดเนี่ยเป็นคนแรกเลยที่ตั้งฉายาให้เราว่า ""ป๋าต๊อบ"" แล้วพอตั้งบริษัท โพลีพลัส ขึ้นมาเพื่อทำละคร ก็มาชักชวนเราเล่นด้วย""



""พยัคฆ์สาวแซ่บอีหลี"" ที่กำลังจะออกฉายทางช่อง 3 เร็วๆ นี้ ถือเป็นละครเรื่องแรกที่เพลย์บอย ไฮโซ ตัดสินใจรับงานการแสดง



""เรื่องนี้พี่แสดงเป็นตัวร้ายแบบสุดๆ กลั่นแกล้งเสียจน หน่อย-บุษกร ต้องกลายมาเป็น ""พยัคฆ์สาว"" แล้วตอนหลังพี่ก็เข้าไปเป็นมาเฟียอยู่ในคุก ไม่มีใครกล้าตอแย มีนางเอกนี่แหละที่กลับมาแก้แค้น จนสุดท้ายเรากลายเป็นคนระแวง สติไม่ดีไปเลย แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ การได้ใกล้ชิดสาวๆ สวยๆ อย่าง เทย่า (โรเจอร์) แหม ก็คนสวยนี่ ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆ มันก็ชอบเป็นธรรมดา บางทีผู้กำกับสั่งคัตแล้ว เรายังไม่ยอมหยุดเลย เสียดาย (หัวเราะ)""



ปรับบุคลิกมาเป็นนักแสดงรอบนี้ เจ้าตัวยอมรับว่า รู้สึกเริ่มติดใจ เหมือนได้ของเล่นชิ้นใหม่ แถมยังได้รับคำชมเชยจากผู้กำกับว่า เป็นนักแสดงตัวประกอบหน้าใหม่ที่เล่นได้ดีเกินคาด จนล่าสุดได้รับการทาบทามให้เล่นละครเรื่องต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



""พี่คิดว่า การจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ต้องให้ความทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ไม่ว่างานสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าหากเราเชื่อมั่นกับมัน ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากแน่นอน""



ไม่ว่าเค้าคนนี้ จะเป็นผู้ชายในร่างผู้หญิง ที่ถูกยกให้เป็น ""คาสโนวา, เพลย์บอยนักรัก หรือ เสือผู้หญิง"" หากมองถึงความสำเร็จแต่ละก้าว ก็ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของเขาทั้งสิ้น

ที่มา : สยามดารา

ต๊อบ ปฏิญญา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์