ต้อง รักต้องทน แต่ไม่ใช่คนที่ใช่

รักสะดุดล้มไม่เป็นท่า จนเสียศูนย์ด้วยประโยคเด็ด “เธอคือคนที่รัก แต่เขาคือคนที่ใช่”

ทำเอา ต้อง-ศุภัชญา รื่นเริง ดีเจสาวจากคลื่น 103.5 เอฟเอ็มวัน ยิ้มไม่ออก เหตุเพราะบ่มรักกับ ธันญ์ ธนากร มาถึง 7 ปี แต่รักต้องมาจบ เพราะฝ่ายชายดันไปปันใจให้นางเอกสาว ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม งานนี้สาวต้องเลยเฮิร์ต หนัก ขอเผยความในใจกับ “ดาวต่างมุม” ถึงเรื่องราวความรักที่ผ่านมากันแบบหมดไส้หมดพุง 



สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
   
-ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ เข้มแข็งขึ้น ก็ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง จะคอยให้ไม่อยู่คนเดียว

ปัญหาความรักเริ่มเกิดขึ้นตอนไหน?
   
-ความจริงมันมีปัญหามา 2 ปีแล้ว ที่เลิกกับเขาไปก็ประมาณ 3 เดือนจนถึงวันนี้ ก็เข้าเดือนที่ 4 จริง ๆ มันก็เรื้อรังมาอย่างที่รู้ ๆ กันตามข่าว ทำไมมันแก้ไขอะไรไม่ได้สักที จนเรารู้สึกว่าเราถอยออกมาเพื่อมาดูว่าอะไรเป็นอะไร พอเราถอยออกมาได้ 2 อาทิตย์ เขาก็ไปเลย

ใครเป็นคนบอกเลิกก่อน?
   
-จริง ๆ ยังไม่ได้บอกเลิกเลย มันมีเหตุการณ์ที่เรารู้สึกว่าเรารับไม่ไหวแล้ว พอคุยกับเพื่อนก็บอกให้ใจแข็งถอยออกมา ดูสิว่าถ้าเขารักเราจริง เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เรากลับไป คือเหมือนกับที่เราอยู่มา 1 ปี 8 เดือน กับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น เราก็รู้สึกว่าใจแข็ง ขอถอย ขอห่าง ก็แค่ 2 อาทิตย์ เขาก็ไป และไปโดยที่ว่ายังไม่ได้มีการบอกเลิกอะไรกันเลย คือต้องมีงานอีเวนต์ที่อยุธยา เขาก็บอกว่าเดี๋ยววันจันทร์จะไปรับไปส่ง เทคแคร์ดูแล ต้องก็บอกว่าวันจันทร์ต้องขอไปกับทีมงาน เพราะต้องกลับมาทำงานดีเจต่อ เขาก็แบบทำไมไม่ให้เขาไป ต้องก็บอกว่าวันอื่นได้ไหม เพราะต้องไปทำงานที่อยุธยาตั้ง 3 อาทิตย์ แต่วันอื่นเขาติดงาน ต้องก็เลยรู้สึกว่า อย่างนี้คือตั้งใจที่จะง้อจริงหรือเปล่า เขาก็บอกว่า ทำอะไร มันไม่ทันแล้วใช่ไหม มันไม่ได้แล้วใช่ไหม แล้วก็วางหูไปเลย หลังจากนั้น 2-3 วันถัดมา ต้องยังเมสเสจหาเขาอยู่เลย แต่ต้องยังไม่เคยได้รับเมสเสจกลับเลย  พอวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวว่าเขาไปทานข้าวด้วยกัน ต้องก็เห็นจากเว็บไซต์


2 ปีที่มีปัญหามันเป็นอย่างไรบ้าง?
   
-เป็นลักษณะของการทำงานของเขาและความสัมพันธ์กับฝ่ายโน้นที่มันไม่ชัดเจน เคลียร์กับเราไม่ได้ เรารู้สึกไม่สบายใจ ไม่แฮปปี้ เราบอกเขาตลอดว่าเราต้องการอะไร เรารู้สึกยังไง ช่วยจัดการให้ด้วย เขาก็เหมือนยังเคลียร์ไม่ได้ แต่ที่อยู่ก็เพราะว่าโอเคเขาเลือกเรา เราก็คิดอย่างนี้ เราก็ทนไป คิดว่าเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น แต่ระหว่างที่อยู่ก็มีอะไรมาจุกจิกตลอด

เวลามีข่าวเราเชื่อใจเขาหรือว่าเชื่อข่าว?
   
-ถามเขาตลอด เพราะต้องรู้สึกว่าคนเราต้องคุยกัน จะมาเก็ทจากข่าวแล้วอะไรเป็นอะไรมันไม่ได้ แต่พอข่าวออกมา ต้องเหวอไปหลายทีมาก ทำไมฉันไม่รู้ และพอข่าวออกแล้วไปถามเขา เขาก็ไม่ได้แฮปปี้ที่จะมานั่งอธิบายให้ต้องฟัง คนเราแคร์กันทำไมไม่อธิบายให้ต้องฟังล่ะว่าอะไรเป็นอะไร ทำไมไม่เห็นว่าเรารู้สึกแย่นะ เราเสียใจนะ ก่อนข่าวออกก็ไม่รู้ พอมีข่าวไปถามก็โดนเหวี่ยงใส่อีกต่างหาก ที่ผ่านมาชีวิตรักไม่มีความสุขเลย เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก ร้องไห้ทั้งปีค่ะ

ตอนมีปัญหาแรก ๆ ทำไมเราถึงไม่ขยับออกห่างมาตั้งแต่ตอนนั้น?

   
-คือจริง ๆ ก็รักอะค่ะ รักมาก ก็เชื่อเขาว่ายังไงเขาก็อยู่กับเรา เวลาเกิดเรื่องคุยกัน ขอโทษ เราก็ดีแล้ว เหมือนกับว่าคนเราถ้าอยากจะคบกัน มันก็อยู่ที่ใจเรา ถามว่า ทน ก็คือ ทน น่ะค่ะ


รักครั้งนี้ถือเป็นรักที่ต้องจริงจังหรือเปล่า?
   
-จริงจังค่ะ คือเราเข้าใจนะว่าคนเราพอถึงจุดที่เรามีการเปลี่ยนแปลง เราเข้าใจเรายอมรับได้ และต้องจะถือว่าต้องแฟร์มากเลย ต้องถามตลอดว่าจะเอายังไง จะห่างก่อนไหม แล้วไปทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนว่าต้องการอะไร เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกอยู่ก็ต้องทำให้ดี แต่ถ้าทำไม่ดีแล้วคุณจะให้เราทำยังไง จะให้เราทนเหรอ เราไม่ได้อยู่ในจุดที่เราต้องทนนะ เราไม่ได้มีอะไรไม่ดี ปัญหาไม่ได้เกิดจากเรา

ตอนคบกันวางแผนอนาคตไปถึงเรื่องแต่งงานไหม?
   
-ก็มีคุยกันบ้าง แหมเราคบกันมาตั้งนาน แต่ไม่ได้จริงจังหรอก เพราะก็รู้ว่าต่างคนต่างยังไม่พร้อม

ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นแบบนี้ไหม?
   
-ไม่มีเลย มันเลยมีเซ้นส์ได้ง่ายมาก ๆ ตอนมันมี ด้วยความที่รู้จักมานาน อะไรนิดหน่อยก็รู้แล้ว แล้วต้องเป็นคนเซ้นส์แรง พอมีอะไรมาต้องก็จะมีวิธีของต้องที่จะถาม


เคยมีแบบจับได้คาหนังคาเขาไหม?
   
-ไม่เคย เพราะไม่เคยตามให้เห็น กับตา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของโทรศัพท์ หรือข่าวที่ออกมา อย่างข่าวที่ออกว่าเขาไปเยี่ยมยาย อันนั้นต้องก็รู้จากข่าว ต้องก็ถามเขาว่าไป เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก พอรู้จากข่าวไปถามก็บอกว่าไม่ได้ไป จนเค้นให้ตาย ก็ยอมรับว่าเขาไป เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน อย่างไปเที่ยวเขาจะโทรฯหาต้องตลอด อยู่นี่แล้วนะ กลับบ้านแล้วนะ พอตั้งแต่รู้จักกับกลุ่มนี้ไม่โทรฯเลย พอเราโทรฯไปไม่รับ สักพักพอเขาโทรฯกลับมา เราก็ถามว่าทำไมไม่รับตอนนั้นล่ะ จะต้องออกมาโทรฯข้างนอกเหรอ ใครจะได้ไม่รู้ว่าคุยกับต้องเหรอ เพื่อนเขาทุกคนต้องรู้จักหมด มีกลุ่มนี้แหละที่ไม่ รู้จักเลย

เราเริ่มมาระแคะระคายว่าเขาคบกันตอนไหน?
   
-มันรู้สึกเองค่ะ ก็เลยถามเขาว่าได้คุยไหม โทรฯหากันไหม เมสเสจ หากันไหม เขาก็ไม่ ๆ ก็เลยขอเขาดูโทรศัพท์ ต้องก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ เขาก็ดึงแย่งไปเลย เราก็โอเค จบ รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร จากนั้นก็สังเกตมา เรื่อย ๆ

ทำไมเราถึงเสียใจกับผู้ชายคนนี้ถึงขั้นร้องไห้ทุกวัน?
   
-เพราะว่าเรารู้สึกว่าเรารักมาก และเราก็ไม่ได้มีใคร บางทีมันอึดอัดกับปัญหาที่มันแก้ไม่ได้ ทำไมมันไม่สบายใจซะที เรื่องหนึ่งผ่านไป เรื่องสองมา มันจุกจิก เขาใส่ใจอะไรน้อยลง นัดดูหนัง แต่งตัวรอสวยงาม สรุปไม่มา บอกว่าติดงาน มาไม่ทัน แล้วทำไมไม่โทรฯบอกก่อน เขาก็บอกว่า ทำงานน่ะ เข้าใจไหมว่าทำงาน


เขามาพูดว่า “ต้องคือคนที่รัก อีกคนคือคนที่ใช่”ตอนไหน?
   
-เราถามเขาเลย ตอนนั้นเป็นจุดที่ว่าต้องเลือกสักอย่างแล้ว เราก็ไม่แฮปปี้นะที่อยู่แบบนี้ เราก็เลยแบบว่า “ชอบเขาไหมเนี่ย” เขาก็บอกว่า “ชอบ” แล้วก็ถามว่า “ชอบประมาณไหน” เขาก็ยอมรับ “ชอบมากกว่าเพื่อน” ต้องก็ว่า “งั้นเลิกกับเราซะ แล้วก็ไปคบกับเขา” เขาก็บอกว่า “ไม่เลิก เพราะต้องคือคนที่รัก เขาคือคนที่ใช่” ต้องก็งงว่าเราควรจะรู้สึกยังไง ถ้าเราไม่ใช่แล้วคบกับเรามาทำไมตั้ง 7 ปี ถ้ามันไม่ใช่ต้องไม่ใช่ไปแล้วสิ ต้องงงมากและเจ็บกับคำนี้มาก

อะไรเป็นสิ่งให้ตัดสินใจพูดในรายการ “ล้วงลับตับแตก”?
   
-เหมือนเข้มแข็งแล้ว ไม่มีอะไรต้องแคร์แล้ว อย่างเมื่อก่อนเราก็เกรงใจเขา และเขาก็ขอไว้อย่าพูด เราก็เลยไม่พูดว่าความจริงคืออะไร เราต้องเจอเหตุการณ์ ต้องทนอะไรมาบ้าง แต่ที่ไม่เลิกเพราะว่ารัก แต่ตอนนี้เขาไปแล้วไง และไปแบบไปเลย ไม่มีการพูดคุย เราก็เลยแบบว่า ต้องมาสร้างภาพอะไรอีก เหนื่อยนะ ก็ทำมาตลอดแล้ว 1 ปี 8 เดือน ในรายการเป็นอะไรที่เขาถามตรงมาก และเขาต้องการเหตุผล พอเราไม่มีเหตุผลมาให้ เขาก็จะถามอยู่นั่น ก็คิดว่าตอบเหตุผลจริง ๆ ไปนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับการคิดแก้ปัญหาทีหลัง ตอนนั้นก็ไม่คิดเลยว่าจะเป็นประเด็นใหญ่แบบนี้ เพราะรายการอัดไปหลายอาทิตย์แล้ว แต่พอรายการออนแอร์ปุ๊บ รุ่งขึ้นต้องก็ไปงาน นักข่าวเลยได้สัมภาษณ์ ถ้าต้องไม่ได้ไปงาน ไม่มีใครเก็บสัมภาษณ์ต้องได้ก็คงจบไป

หลายคนมองว่าต้องอยากดังหรือเปล่าจึงออกมาพูด?
   
-ก็แล้วแต่คนจะคิด ถ้าอยากจะทำคงทำไปนานแล้ว คงไม่รอถึงตอนนี้ แต่ด้วยจังหวะรายการติดต่อมาพร้อมจะคุยไหม ก็ถามตัวเองว่าพร้อมไหม 3 เดือนแล้วนะ พร้อมจะตอบนะ ก็ไปออกรายการ ไปทำงานปกติ และเลือกที่จะตอบตรง ตอบตามความเป็นจริง ขี้เกียจเฟคแล้วเหนื่อย


แสดงว่ายอมรับว่าที่ผ่านมาสร้างภาพ?
   
-ก็ยอมรับ ไม่อยากมีปัญหา เรายังคบกับเขาอยู่ และเขาก็ยังต้องทำงานกับทางโน้น เราก็พยายามเอาเรื่องงานมามอง พยายามไม่ตอบ ไม่พาดพิง ใครถามก็ไม่มีอะไรค่ะ เข้าใจ แต่จริง ๆ ไม่เข้าใจ

ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นคู่เกาเหลาคู่ใหม่ของวงการ?
   
-ค่ะ ก็อย่างที่เคยบอกไปว่า ไม่ชอบ ทำงานก็ส่วนทำงาน คืออาชีพเรา เราคงไม่เอาคนที่เราไม่ชอบมาทำให้เราไม่ต้องทำงาน แต่ว่าเรื่องส่วนตัวเจอหน้าจะให้ต้องไปจิ๊จ๊ะ คงไม่ ต่างคนต่างเดินเลย

ฝ่ายโน้นเป็นนางเอกภาพลักษณ์ดีมีแฟนคลับ คนจะมองว่าเราร้ายหรือเปล่า?
   
-ก็ต้องยอมรับ พูดได้แค่ว่าลองมองในมุมที่ต้องเป็น แล้วก็ลองไปคิดกันเอาเอง ต้องไม่ได้บอกว่าต้องมาเชื่อต้อง ต้องพูดในส่วนที่ต้องรู้สึก ใครจะเชื่อยังไง รู้สึกยังไงแล้วแต่เลย ต้องเลือกที่จะตอบตรง ต้องก็จะยอมรับผลของมัน เพราะว่ามันต้องมีทั้งคนชอบคนไม่ชอบ

ต้อง-ธัญญ์

นี่เป็นครั้งแรกที่โดนแย่งแฟน ครั้งแรกที่อกหัก?
   
-ใช่ค่ะ ถ้าเลิกกันดี ๆ จะไม่เป็นอะไรเลย เหมือนโต ๆ กันแล้ว คุยกันรู้เรื่องว่า มันเปลี่ยนไปแล้วนะ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ มันก็ยังโอเค แต่นี่มันไม่ มันอยู่ในความกดดันและความไม่ชัดเจน เหมือนบีบว่าเป็นเพราะเราถอยออกมา เขาเลยไป ซึ่งมันไม่มีเหตุผลนะ ไปมันไปนานแล้ว ก็ใช้เวลาทำใจนาน 1 ปี 8 เดือนนี่คือทำใจอยู่นะ ว่ายังไงต้องจบแน่เลย เพราะดูจาก  รูปการณ์แล้วไม่ดีขึ้น มีเคยไปดูดวงถึงพม่าเลยนะ ไปดูหมอดูอีที แล้วเขาทักมาคำแรกเลยนะคือ ความรักไม่ดี แฟนเราน่ะ เขามีอีกคนหนึ่งนะ เขาก็เขียนคำเป็นภาษาอังกฤษมาเลยว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นสตาร์ เราก็ร้องไห้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เราก็ถามว่าต้องเลิกใช่ไหม หมอดูก็บอกว่า ยังไงก็ต้องเลิก เพราะเขามีอีกคนหนึ่งแล้ว

การมีรักครั้งต่อไปจะระวังมากขึ้นไหม?
   
-อย่ารักอะไรให้มันมาก อย่าไปทุ่มอะไรให้เต็มร้อย เพราะอะไรมันก็ไม่แน่นอน ถ้าถึงจุดที่เราไม่ไหวแล้วก็ถอยเลยไม่ต้องไปทน เพราะถ้าคนเรามันเปลี่ยนไปแล้ว มีครั้งหนึ่งก็ต้องมีครั้งที่สอง ก็คงเหมือนเป็นประสบการณ์ว่าเราคบมานาน เราคงต้องเชื่อมั่นว่าเขาต้องไม่ไป ตอนนี้ไม่มีใครใหม่ แต่มีคนเข้ามาคุยมากขึ้น คนดูรายการแล้วคงรู้สึกว่า เลิกจริง ๆ แล้ว ถ้ามีแฟนใหม่หลัก ๆ คือต้องคุยรู้เรื่อง ต้องไม่ได้มีสเปก แต่ชอบคนมีเสน่ห์ หน้าตาก็ดูดีประมาณหนี่ง ไม่ต้องหล่อขั้นเทพ ไม่เข็ดกับคนในวงการนะ แต่ก็ทำให้เราระวังมากขึ้น ตอนนี้ไม่ได้มีกำหนดว่าเมื่อไหร่จะมีแฟนใหม่ได้ อยู่ที่จิตใจ ถ้ามาก็คงมา ถ้าไม่มาไขว่คว้าเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ก็คงปล่อยไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็ตั้งใจทำงาน ดูแลตัวเองให้ดี สวยวันสวยคืน อย่าไปเศร้า เราจะมาทำตัวโทรมให้เขาสมน้ำหน้าว่าคิดถูกแล้วที่ไปเหรอ ไม่ได้เราต้องสวย

เราทำงานดีเจต้องมีความสุข แต่ความจริงเศร้า เคยนั่งร้องไห้หลังไมค์ไหม?
   
-มีช่วงแรก ๆ เพลงที่คลื่นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงอีซี่ลิซซึ่นนิ่ง เพลงช้า บางทีมาเป็นเพลงอกหักยกยวงเลย ก็แบบเศร้า จนพี่โปรดิวเซอร์บอกว่าเป็นอะไร เราก็แบบว่า พี่แป๊บหนึ่งนะ มันไม่ไหว เป็นบ่อยมาก แต่เราก็ต้องทำ เพราะงานก็คืองาน แต่พอปิดไมค์แล้วอยู่ในโหมดของเราก็นั่งเศร้า พอเปิดไมค์ก็ต้องทำให้มีความสุข ก็ฝืนความรู้สึกพอสมควร ก็มีบางครั้งแม่ฟัง แม่ยังบอกเลยว่า นี่เพิ่งร้องไห้ใช่ไหม เพราะเสียงมันเครือ

ต้อง-ยุ้ย

ที่ผ่านมาเหมือนหายไปจากวงการ?
   
-ก็คงเหมือนเป็นจังหวะของมัน อย่างตอนที่ต้องอยู่อาร์เอส ต้องก็งานเยอะมาก แยกร่างแทบไม่ทัน แต่พอหมดสัญญา เราก็ไม่ได้มีใครดูแล แต่ว่าต้องก็เป็นคนทำงานตลอดนะ แต่ว่าไม่มีละคร หนัง แต่ก็มีรายการ มีพิธีกร งานวงการบันเทิงคืองานที่ต้องอยากทำ แต่ว่าเรื่องชื่อเสียงเป็นผลพลอยได้ คนชอบเราก็ดีใจ

คนรู้จักเราจากข่าวตรงนี้มากกว่าผลงาน รู้สึกยังไง?
   
-ก็คงดีมั้ง (หัวเราะ) อย่างน้อยก็มีคนรู้จัก คนจะได้ไม่ลืม ไม่เป็นไร อาจจะรู้สึกบ้างนะ เพราะคนทำงานวงการก็อยากจะให้จำที่ผลงาน แต่ถ้าได้มีโอกาสแสดงหนัง แสดงละครอีก เราก็จะเต็มที่ ตอนนี้ก็คิดถึงงานละครยังอยากเล่นเลย กลัวสนิมขึ้น ตอนนี้ก็มีแต่งานดีเจไปก่อน เคยมีช่วงหนึ่งที่เขาไม่อยากให้ทำงานในวงการบันเทิง เราก็เลยไปทำตรงอื่น ไปทำงานประจำ แต่พอทำไปมันไม่ใช่เรา เราก็เลยเลือกทำงานบันเทิง

ถ้าไม่มีแฟน งานอาจจะรุ่งมากกว่า?
   
-นั่นน่ะสิ พอไม่มีแฟน งานก็เริ่มเข้า ก็ดี ได้อย่างเสียอย่างก็ยังดี ดีกว่าเสียหมดเลย
   
เอาน่า...ถึงผู้ชายไปแล้วก็ “อย่าได้แคร์” เพราะอย่างเรา “สวยเลือกได้” ค่ะคุณน้องขา “รักตัวเองดีที่สุด” ยังไงก็เป็นกำลังใจขอให้รักใหม่สมหวังแล้วกันนะจ๊ะ


ธัญญ์ ยุ้ย

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์