ต้มยำกุ้ง มาแล้วจ้า!!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 สิงหาคม 2548 14:12 น.

จากอาหารครบเครื่องครบรสที่ใครเห็นเป็นต้องซี้ดปาก วันนี้ "ต้มยำกุ้ง" กำลังจะกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกอีกครั้งในนามของหนังแอ็คชันแบบไทย ๆ ที่บู๊ได้สะใจไม่แพ้ "องค์บาก" ที่ขายดีกระจัดกระจายไปก่อนหน้า โดยคราวนี้ ห้าเสืออย่าง เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร, หม่ำ จ๊กม๊ก และ จา พนม ที่เราคุ้นเคยจาก "องค์บาก" และ "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" มาผนึกกำลังกันอีกครั้งกับทุนสร้างอื้อซ่าถึง 300 ล้านบาท และแน่นอน การรวมตัวกันแบบ บิ๊ก ๆ เยี่ยงนี้มีหรือเราจะพลาด!

วันนี้คอลัมน์หนังจึงขอนำเสนอ "ต้มยำกุ้ง Tom Yum Goong" หนังไทยใจไทยแต่ดังไกลถึงต่างแดนกันเสียหน่อย ก็แหม.. ของเค้าน่าสนก็ต้องโปรโมตกันนิดหนึ่ง แต่จะดีเลิศแจ่มเจิดเหมือนที่เขาคุยไว้หรือเปล่า เหะๆ อันนี้ก็ต้องพิสูจน์กันเอาเองค่ะ ส่วนคราวนี้จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

************


ทำไมต้อง "ต้มยำกุ้ง"!!

แค่ชื่อหนังก็ทำเอาหลายคนอึ้งว่า นี่มันหนังจริงหรือเปล่าหว่า! แล้วเรื่องมันจะเกี่ยวกับอะไรหน๊อ! แล้วเค้าไปแอ็คชั่นกันกับพ่อครัวหรือไง! ก็ว่ากันไป และปัญหานี้ก็ถูกไขโดย "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ผู้กำกับร่างท้วมของเราว่า สาเหตุที่ต้องเป็นต้มยำกุ้งก็เพราะแบบนี้นี่เอง

"ถ้าพูดถึง ต้มยำกุ้ง ก็ต้องนึกถึงคนไทย ประเทศไทย อย่างตอน องค์บาก เราเคยพูดถึงมวยไทยและสิ่งที่คนไทยเคารพนับถือไปแล้ว เรื่องนี้ผมก็จะพูดถึงประเพณีอันดีงาม วัฒนธรรม และความผูกพันของคนไทยกับช้างที่คนต่างชาติส่วนใหญ่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่ามันลึกซึ้งขนาดที่ว่า ช้างเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของครอบครัวเรามาตั้งแต่สมัยอดีต และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่"

***********


ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน และไม่ใช้ของเดิม!!

จากการต่อสู้กับคนร้ายเพื่อชิงองค์บากกลับคืนมา วันนี้พล็อตของหนังก็ยังคงเดิมด้วยการต่อสู้เพื่อให้ได้สิ่งอันเป็นที่รักยิ่งกลับคืน และแน่นอน (แน่ๆ) ว่าต้องมีบางสิ่งที่ ใหม่กว่า ดีกว่า และเจ๋งกว่า มาให้ชมกัน โดยคุณผู้กำกับบอกว่าครั้งนี้ "จา พนม" จะใช้ท่ามวยไทยที่ชัดเจนขึ้นและจะใช้ท่าที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน และเจ้าตัวก็มาช่วยทำให้กระจ่างขึ้นกว่าเก่าแล้วเรียบร้อย

"จากเรื่ององก์บากทำให้คนเริ่มรู้จักมวยโบราณและตัวผม พอมาถึงต้มยำกุ้งผมจึงไปศึกษามวยไทยเพิ่มเติมร่วม 2 ปีและได้เห็นความแปลกใหม่ของศิลปะมวยไทยโบราณที่งดงามและทรงคุณค่า เรียกว่า ´มวยคชสาร´ เป็นมวยโบราณที่เกี่ยวกับการทุ่ม ทับ จับ หัก เลียนแบบอิริยาบถของช้างมาเป็นท่าต่อสู้ ควรจะอนุรักษ์ไว้บนแผ่นฟิล์มเพื่อให้คนไทยและคนทั่วโลกได้รู้จักกับมวยที่เกี่ยวกับช้าง แฟนหนังแอ็คชันทั้งไทยและต่างประเทศจะได้เห็นความแปลกใหม่และไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน"

***************


สู้อย่างไรให้ไร้ "คัท"!!

จากตัวอย่างหนังที่ตัดออกมาให้เห็นกันหลายคนคงได้เห็นกันแล้วลีลาการต่อสู้ครั้งใหม่ดุเด็ดเผ็ดมันน่าสนใจทีเดียว แต่รู้กันหรือไม่ว่ายังมีเด็ดกว่านั้นอีกและก็ได้ "พันนา ฤทธิไกร" ผู้กำกับคิวบู๊คนเก่งที่มาเรียกน้ำย่อยว่า มีฉากหนึ่งที่สู้กันรวดเดียวสี่นาทีแบบไม่มีสั่งคัทหรือตัดต่อ แถมยังสู้ทีเดียวกับศัตรูร่วมครึ่งร้อยตั้งแต่ชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุดของร้าน "ต้มยำกุ้ง" ซึ่งมีถึง 4 ชั้นเต็ม ๆ!

"ที่เราบอกได้ก็คือ เรามีฉากแอ็คชันที่ถ่ายต่อเนื่องด้วยความยาวสี่นาทีแบบไม่มีตัดต่อ จริง ๆ ทั่วโลกเค้าก็นิยมกันอยู่แล้วเรียกว่า ลองเทค (Long Take) แต่ของเราจะต่างตรงที่เราใช้กับหนังแอ็คชันเน้นโชว์ศิลปะการต่อสู้ซึ่งยังไม่มีใครเคยทำออกมาเพราะความยากของการถ่ายลองเทคก็คือคิวต่าง ๆ ต้องเป๊ะ พลาดแค่เสี้ยววินาทีต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่จุดแรกเลยยิ่งนี่เป็นแอ็คชันก็ยิ่งยากเป็นทวีคูณเพราะกล้องต้องตามนักแสดง กล้องต้องสัมพันธ์กับนักแสดง และนักแสดงก็ต้องสัมพันธ์กับนักแสดงซึ่งยากที่สุด แต่จาก็ทำได้ และภาพที่ออกมาก็คุ้มค่าจริง ๆ"

**************


อะไรคือ "ทุ่ม ทับ จับ หัก"

"ทุ่ม ทับ จับ หัก" คือหัวใจสำคัญของ "มวยคชสาร" อันเป็นวิชาการต่อสู้ของ "ทหารจตุรังคบาท" ผู้คอยปกปักรักษาคุ้มกันเท้าทั้งสี่ข้างของช้างศึกของพระมหากษัตริย์ไม่ให้ศัตรูเข้ามาทำร้ายได้ การเผด็จศึกจะรุนแรง หนักหน่วงและดุดันตามแบบฉบับแม่ไม้มวยไทยโบราณ

************

อะไรคือ "มวยคชสาร"

มวยคชสารคือแม่ไม้มวยไทยที่ประยุกต์มาจากพฤติกรรมและอิริยาบถของช้างในท่วงท่าต่าง ๆ ความโดดเด่นคือการใช้ท่า ทุ่ม ทับ จับ หัก เข้าทำร้ายคู่ต่อสู้ในลักษณะประชิดตัวโดยใช้ประโยชน์ของ "นวอาวุธ" หรืออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายอาทิ หมัด ท่อนแขน เข่า หน้าแข้ง ขา เท้า ทำอันตรายคู่ต่อสู้ รวมถึงการใช้ไหวพริบและความคล่องตัวในการหลบหลีก หลอกล่อ และหาจังหวะเข้าช่วงชิง ทำลายจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ในขณะเดียวกันด้วย ท่าที่สำคัญ ได้แก่ ช้างทำลายโลง, คชสารแทงโลง, เอราวัณเสยงา, หักงวยไอยรา เป็นต้น

**********

รวมมิตร "มันส์" ใหม่ ไฉไลกว่าเดิม!!

- นอกจากจะได้เห็นช้างไทยไปเดินเล่นอยู่บนสะพาน ฮาร์เบอร์บริดจ์ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองซิดนีย์เป็นครั้งแรกแล้ว ยังจะได้เห็นเรือหางยาวพุ่งชนเฮลิคอปเตอร์เป็นครั้งแรกอีกด้วย!

- ที่วัดไทยในซิดนีย์ เรายังจะได้เห็น โทนี จา ต่อกรกับคู่ปรับหลัก ๆ อย่าง ลาทีฟ, จอน ฟู, นาธาน โจนส์ และลูกสมุนอีกเพียบพร้อม ๆ กับเปลวเพลิงที่กำลังโหมไหม้และสายน้ำที่กำลังฉีดพุ่ง เป็นการสอดประสานระหว่างน้ำ ไฟ และฉากแอ็คชันที่หาดูได้ยากยิ่ง!

- จอห์นนี เหงียน, นาธาน โจนส์, จินซิง, จอน ฟู, ลาทีฟ คือนักแสดงและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้จาก อเมริกัน-เวียดนาม, ออสเตรเลีย, จีน, อังกฤษ, บราซิล ตามลำดับ และทุกคนคือคู่ปรับของ โทนี จา หมด!

- ยังมีเหล่าเอ็กซ์เกมเป็นสิบมาร่วมตะลุมบอนหมู่ โทนี จา อีกต่างหาก!

- ครั้งแรกของคนไทยที่จะได้ฟังเสียงทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยของ "หม่ำ จ๊กม๊ก" ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!

- "ต้มยำกุ้ง" จานนี้ประเดิมก่อนฉายด้วยรายได้จากตลาดโลกไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท!!


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์