ตามรวบสาวแสบ โกงค่าตัว อิมอชิตะนับแสน

รวบแล้วสาวแสบโกงเงินดาราสาว "อิม อชิตะ" ติดต่อถ่ายรายการทีวีแล้วเบี้ยวค่าตัว แถมหลอกซื้อแบล็คเบอร์รี่เชิดเงินนับแสน ดาราสาวฉุนแจ้งตำรวจตามรวบตัว ขอเจรจาผัดผ่อนชดใช้ นักแสดงสาวใจแข็ง ให้ตำรวจดำเนินคดี...

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 ม.ค. พ.ต.ท.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม รอง ผกก.จร.สน.โชคชัย ปรท.ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.ธรากร เลิศพรเจริญ สว.สส.สน.โชคชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สินาภรณ์ หรือแพร วุฒิอิ่น อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 8 ต.ท่าวังศาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือเลขที่ 49/2553 ลงวันที่ 9 ม.ค. 53 ข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่บริษัททีวีสะบัดชัย จำกัด เลขที่ 1/4 หมู่บ้านศุภาลัย ออร์คิด ปาร์ค ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 52 น.ส.อิมทพิมพ์ ธนาศาตนันท์ หรือ อิม อชิตะ ดารานักแสดงสาวชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย

ว่าถูก น.ส.สินาภรณ์ ผู้ต้องหา โกงเงินค่าโทรศัพท์มือถือจำนวน 89,400 บาท หลังฝากเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่ 7 เครื่อง แต่ผู้ต้องหากลับเชิดเงินไป และได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วออกหมายจับ กระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ภายในบริษัทของผู้ต้องหาเอง ขณะอุ้มลูกชายวัย 6 เดือน ในเบื้องต้น น.ส.สินาภรณ์ให้การรับสารภาพ อ้างว่ารับเงินจากอิม อชิตะจริง แต่ได้โอนไปให้เพื่อนคนหนึ่งชื่อโอ๋-ชนิกานต์ หรือแนน ซื้อให้ แต่เพื่อนกลับเชิดเงินหลบหนีไป หลังจากนั้นก็พยายามติดต่อหาเพื่อนคนดังกล่าวมาตลอด แต่ก็ไม่รับสายและหายตัวไปอีก



โดยรู้จักกับเพื่อนคนนี้ เนื่องจากมีคนแนะนำ อ้างว่าเป็นลูกสาวของนายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนหนึ่ง แต่ภายหลังตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง

สำหรับบริษัทดังกล่าว ตนกับสามีร่วมกันเปิดขึ้นมาทำรายการโอ้โหเมืองไทย และป่าไม้สีรุ้ง ต่อมาเมื่อเวลา 20.30 น. อิม อชิตะ เดินทางไปที่ สน.โชคชัย เมื่อผู้ต้องหาพบหน้า ก็ขอเจรจาจะชดใช้เงินให้เดือนละ 5,000 บาท หรือ 10,000 บาท แต่อิม อชิตะ ปฏิเสธไป เนื่องจากไม่มีอะไรเป็นหลักประกันให้ เชื่อถือได้ สาวอิม อชิตะ เปิดเผยเรื่องราวที่ถูกฉ้อโกงว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการว่าจ้างจากผู้ต้องหาให้ไปถ่ายรายการ โอ้โห เมืองไทย จำนวน 10 ตอน ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินทั้งสิ้น 220,000 บาท ปรากฏว่า ผู้ต้องหาจ่ายเช็คมาให้ แต่เมื่อนำไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม

ต่อมาผู้ต้องหานำโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่มาเสนอขายให้ในราคาถูก ตนจึงรับซื้อไว้แล้วสั่งซื้ออีก 7 เครื่อง

เนื่องจากเพื่อนฝากซื้อ โดยโอนเงินค่าโทรศัพท์มือถือเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาจำนวน 89,400 บาท แต่เมื่อทวงถาม ผู้ต้องหากลับอ้างว่านำเงินดังกล่าวไปฝากเพื่อนอีกคนซื้อ และเพื่อนกลับเชิดเงินหลบหนีไปแล้ว มื่อตนทวงถามเรื่องเงินค่าตัวที่ไปถ่ายรายการทีวี ก็ผัดผ่อนบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา กระทั่งไม่ สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้อีกเลย ดังนั้นจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์