ตั๊ก-บงกช ของเขาแรงจริงๆ

จัดว่าเป็นสาวแรงอันดับต้น ๆ ของวงการคนหนึ่งเลยทีเดียว

สำหรับนางเอกอึ๋มผ่าซาก ตั๊ก-บงกช คงมาลัย เพราะไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไร ก็มักจะเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมอยู่เสมอโดยเฉพาะเรื่องของความรัก วันนี้ “ดาวต่างมุม” จึงชวนน้องตั๊กมาพูดคุยถึงเรื่องการงาน ความสัมพันธ์กับคุณแม่ ชนาภา ชีพนุรัตน์ และเรื่องหัวใจ เอ้า! ลองไปดูกันดีกว่า



ช่วงนี้เรื่องงานเป็นยังไงบ้าง
 
-เรื่องงานก็อยู่ในช่วงพัฒนา หาอะไรใหม่ ๆ ทำอยู่ เป็นเพราะว่าเราโตขึ้น ก็อยากทำอะไรที่ดูมั่นคงขึ้น ก็พยายามศึกษาเรียนรู้อยู่ ตั้กอยากทำภาพยนตร์เอง แต่ตอนนี้ตั๊กอาจจะพูดไม่ได้เยอะ เนื่องจากว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ มีผู้ใหญ่หลายฝ่ายอยู่ คงพูดได้แค่ว่าตั๊กกำลังทำบทให้ตัวเอง เพราะว่าอยากเล่นบทที่แปลกใหม่ อยากทำอะไรที่มันหลุดจากที่คนอื่นเคยสร้าง เราเล่นมาแทบทุกบทแล้ว แต่ว่าบทบางบทเราฝันอยากจะเล่น ก็ไม่มีผู้กำกับคนไหนเขียนให้เรา เราก็เลยอยากทำเอง 

จะกำกับเองด้วยเลยหรือเปล่า
 
-ไม่ค่ะ ประสบการณ์ยังน้อยเกินไป  อย่างมากสุดก็คือหาทุนทำหนังเรื่องนี้ค่ะ แล้วก็ไปทำร่วมกับคนอื่น แต่คงไม่ถึงขนาดไปเปิดบริษัทเอง อย่างที่บอกเรายังไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านนี้ แต่วันข้างหน้าไม่แน่เราอาจจะเปิดทำเองก็ได้



คิดเสนอโปรเจคท์นี้ให้สหมงคลฟิล์มต้นสังกัดมั้ย
 
-สัญญากับสหมงคลฟิล์มหมดแล้ว ตอนนี้ตั๊กอยู่กับสหมงคลฟิล์มด้วยความเคารพ ที่ตั๊กไม่ต่อสัญญาก็เพราะว่าตั๊กมองว่าสัญญามันเป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง เราอยู่ที่นี่ด้วยใจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเซ็นอะไร ถ้าทางค่ายเห็นว่ามีบทไหนที่เหมาะกับตั๊กก็เล่น ถามว่าถ้ามีค่ายอื่นเสนอบทดี ๆ ให้เราจะเล่นมั้ย ตั๊กก็อาจจะพิจารณาดู บทไหนดีเราก็อยากทำเพราะว่าการแสดงมันคือความฝันของตั๊ก เป็นงานที่ทำแล้วเรามีความสุข เรื่องค่าตอบแทนเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย

ทำไมเราถึงอยากออกมาดูแลตัวเอง
 
-ตั๊กอยากโตขึ้น จริง ๆ อยู่กับ  สหมงคลฟิล์มก็โตนะ เพียงแต่ว่าตั๊กก็แค่อยากพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่มั่นใจในตัวเราว่าเราทำอย่างอื่นได้ ทำให้เขาเห็นว่าเรามีความสามารถอย่างอื่นด้วย แล้วตั๊กก็อยากให้คนรู้สึกว่าตั๊กโตแล้ว ถ้า เราทำมันสำเร็จ คนก็จะรู้ สึกว่า ตั๊กมีความรับผิดชอบมากขึ้นนะ แต่ถึงตั๊กจะไม่ได้อยู่ที่นี่ ตั๊กก็ยังคงสามารถปรึกษาผู้ใหญ่หลาย ๆ คน ได้เหมือนเดิม  

ที่ผ่านมาคนมองว่าตั๊กเป็นลูกรัก เสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) ตรงนี้เป็นจุดที่เราอยากออกไปพิสูจน์ด้วยมั้ย
 
-ใช่ด้วยค่ะ คือคำคนพูดเนี่ยจริง ๆ แล้วตั๊กก็ไม่อยากสนใจ ถ้าเราไปนั่งแก้ตัวกับคำพูดของคนทุกคน มันก็คงต้องแก้หลายอย่างในชีวิต จะทำให้เราไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง คำว่า “ลูกรัก” เป็นคำที่คนอื่นตั้งขึ้นเอง ตั๊กกับเสี่ยเจียง เป็นคนที่รักหนังด้วยกันทั้งคู่ ตั๊กรักที่จะแสดง เสี่ยรักที่จะสร้าง เราอยู่ด้วยกันได้ แต่เรื่องลูกรัก มันเป็นเรื่องที่เขาพูดกัน เป็นเรื่องของข่าวซุบซิบไร้สาระ ตั๊กก็แค่อยากให้ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนเห็นกันว่าตั๊กมีประสิทธิภาพมากกว่าหน้าตาและรูปร่าง ตั๊กถูกกล่าวหาว่า สวยแต่โง่มาเยอะ แต่ใครจะว่าตั๊กโง่ ตั๊กไม่สน ตั๊กพึงพอใจที่จะทำ แต่พอโตขึ้น ตั๊กต้องเห็นแก่หน้าทั้งแม่ ทั้งผู้ใหญ่หลาย ๆ คนและหน้าตัวเอง ถามว่าตั๊กโง่มั้ย ตั๊กไม่ได้โง่ แต่ตั๊กแค่ยังไม่ถึงเวลาที่ตั๊กจะพิสูจน์ตัวเองเท่านั้นเอง



กลัวมั้ยว่า พอไม่มีสังกัดแล้ว งานจะไม่แน่นอน
 
-จริง ๆ แล้วก็กลัวค่ะ แต่ความกลัวมันเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มันไม่ใช่ตอนนี้ ช่วงนั้นเป็นอะไรที่คิดหนักมาก ช่วงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนตัวเอง มันเป็นเวลาที่ค่อนข้างยุ่งยากเสมอ เป็นปกติค่ะ แต่ถ้าเราหามันเจอแล้ว แล้วเราก็รู้สึกว่ามันใช่แล้วมันก็สบาย ตอนที่เรามีค่ายมีสังกัด มันก็เหมือนเป็นการรับประกันว่าเราจะต้องมีงานต่อเนื่องแน่นอน แต่ถ้าเราตัดสินใจว่าเราอยากทำอย่างอื่น ไม่อยากแค่เล่นหนังอย่างเดียว เราก็ต้องเสียสละบางอย่าง  ออกไปเหมือนกัน ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างเป็นเรื่องธรรมดา

ที่ไม่คิดจะต่อสัญญา เป็นเพราะเราอยากทำงานอื่นด้วยมั้ย
 
-จริง ๆ เรื่องงานละครก็เป็นการแสดงอีกแบบหนึ่ง ถามว่าตั๊กยังอยากกลับไปเล่นละครมั้ย อยากค่ะ ละครก็เป็นการแสดงอีกแนวนึง การแสดงแบบละครมันก็ช่วยคลายเครียดดี แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเครียดกับมัน เพราะว่าหนังบางเรื่องต้องเครียดมาก แต่ละครคือเล่นแล้วมีทั้งเรื่องของความสนุก สีสันของชีวิต แล้วก็มีเรื่องของปรัชญา มีความเป็นจริงบ้าง และถ้าตั๊กแสดงละคร แฟน ๆ ก็จะได้เห็นตั๊กบ่อยขึ้น อย่างถ้าเป็นหนัง ปีนึงคนก็จะได้เห็นตั๊ก 1 ครั้ง มากสุดก็ 2 ครั้งเท่านั้น

ขอถามถึงเรื่องคุณแม่บ้าง เพราะดูตั๊กสนิทกับคุณแม่มาก
 
-ตั๊กอยู่กับแม่มาตั้งแต่ตอนที่แม่เลิกกับพ่อ ตั้งแต่ 2 ขวบ ตอนนี้ตั๊กอายุ 23 ปี แล้ว แม่ก็เลี้ยงตั๊กมาด้วยตัวของแม่เอง เราอยู่กันแค่ 2 คน เลย กลายเป็นว่ามีอะไรคุยกันหมดทุกเรื่อง แม่เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ เขาเข้มแข็ง ไหนจะเรื่องหาเงินเลี้ยงลูก ไหนจะปัญหาครอบครัวอีก เขาต้องแบกภาระคนเดียวมาสิบกว่าปี แม่เป็นเหมือนเสาหลักในชีวิตตั๊กเลย ดังนั้น พอตั๊กเริ่มหาเงินได้ ตั๊กก็คิดเลยว่าเราต้องเลี้ยงแม่ให้ดีที่สุด ไม่อยากให้เขาต้องลำบากอีก



หลายคนมองว่าแม่มักจะกีดกันเรื่องแฟนของตั๊ก
  
-เขาจะมองอย่างไรตั๊กไม่สน แต่เขามองผิด ตั๊กจะบอกได้แค่กับคนที่ตั๊กรู้จัก เราสามารถบอกเขาได้ว่าแม่เป็นคนยังไง แต่กับคนที่ตั๊กไม่สามารถไปอธิบายอะไรให้เขาฟังได้ ตั๊กก็จะบอกกับเขาว่าเราไม่แคร์ เพราะถ้าเขาจะคิดแบบนั้นก็ถือว่าเขาไม่มีเหตุผลพอ ไม่มีแม่คนไหนหรอกที่อยากจะทำให้ลูกรู้สึกแย่ พ่อแม่ทุกคนรักลูก แม่ไม่ได้ยึดติดที่ตั๊กจะต้องมีแฟน แม่อยากให้ตั๊กอยู่กับเขามากกว่าถามว่าอึดอัดมั้ยที่คนมองแม่แบบนี้ มันอึดอัดตรงที่ต้องมานั่งรับรู้มากกว่า เพราะเสียความรู้สึก  

ถ้าคบใครสักคนต้องให้แม่ช่วยดูมั้ย

-ไม่หรอก ตั๊กโตพอที่จะรู้แล้วว่าตั๊กจะต้องคบคนแบบไหนแม่ถึงจะรู้สึกดี ตั๊กและแม่ให้เกียรติกันอยู่แล้ว ตอนเด็ก ๆ เวลาที่เราคบใครแล้วแม่ไม่ชอบ ตั๊กก็จะถามเหตุผลแม่เลยว่าเพราะอะไร ก็อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องของแม่ลูกที่บางครั้งอาจมองอะไรกันคนละมุม ตั๊กเข้าใจธรรมชาติความสัมพันธ์ของแม่ลูกนะ


ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง 
 
-ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เยอะ เพราะตั๊กโตขึ้นและเข้าใจความรักมากขึ้น อย่างตอนวัยรุ่นเราอาจคบใครก็เพราะเราขี้เหงา แต่ตอนนี้คือไม่ได้ต้องการคนมา  รักเราอย่างเดียว แต่ต้องการคนที่จะมาเติมเต็มทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความดูแลเอาใจใส่ ความเข้าใจแบบระยะยาว ตั๊กว่าความรักเป็นสิ่งสำคัญนะ นักแสดงที่ดีต้องมีประสบการณ์ชีวิต ถ้าเรามีอุดม การณ์แบบเดียวกัน ก็น่าจะไปด้วยกันรอด ถามว่าที่ผ่านมาอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ตั๊กต้องเลิกกับแฟนคนก่อน ๆ ไป ตั๊กมองว่าเป็นเพราะพรหมลิขิต เขาไม่ใช่คู่ของตั๊กแค่นั้นเอง



กับ พี่โต้ง-กมล เอี้ยวศิวิกูล มีคนเมาท์ว่าแม่ไฟเขียวเพราะรวย
 
-ไม่จริง หยุดพูดว่าแม่เห็นดีเห็นงามที่ตั๊กได้คนรวย ๆ หรือแม่พยายามบังคับให้ไปชอบคนนั้นคนนี้ได้แล้ว แม่ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับตรงนี้ ตั๊กอยากจะบอกว่าการที่ตั๊กพยายามออกมาแก้ข่าวก็เพราะว่า ตั๊กไม่อยากให้ใครมองแม่ไม่ดี วัน ๆ แม่ตั๊กไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แม่มีแต่บอกให้ตั๊กหยุดมีข่าวกับคนอื่นเสียที แม่ไม่อยากให้มีแฟน เพราะเราหาเงินได้มากกว่าที่แม่จะมาเรียกค่าสินสอด แม่มีความสุขกับการที่เราประสบความสำเร็จในการทำงานมากกว่าที่จะเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝาหรือลูกสาวได้คบคนรวย ๆ แม่บอกเสมอว่าอยากให้ตั๊กเป็นโสด

เวลามีแฟนปรึกษาแม่ทุกเรื่องหรือเปล่า
 
-เวลามีแฟนมันก็เป็นเรื่องของตั๊ก ต้องแยกแยะระหว่างแม่กับตั๊กให้ออก บางครั้งตั๊กมีเรื่องความรัก เราก็ไม่ได้คุยกับแม่ทุกเรื่องหรอกนะ คนเรามันก็ต้องมีความลับกันบ้าง ความลับระหว่างแฟน ความลับระหว่างแม่และตั๊ก มันแยกแยะได้อยู่แล้ว อย่าเหมารวมว่ามันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ อย่ามาเขียนข่าวอะไรที่ไม่ใช่ความจริง เพื่อที่แค่อยากจะขายข่าว อย่างหนังสือบางเล่มที่เขียนว่ามันต้องแบบนั้นแบบนี้ เฮ้ย!คุณเป็นพระเจ้าเหรอถึงได้รู้ว่าคนนั้นจะต้องเป็นแบบนั้น คนนี้จะต้องเป็นแบบนี้ โดยที่ไม่มาถามเราก่อน ดังนั้นเลิกทำอะไรแบบเดิม ๆ เสียที

เบื่อมั้ยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ
 
-เบื่อมากนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะยิ่งเบื่อก็ยิ่งเข้ามา แต่ที่ตั๊กยังพูดอธิบายก็เพราะว่าตั๊กไม่อยากให้คนเข้าใจแม่ของตั๊กผิด ถามว่าตั๊กจะพูดเรื่องความรักอีกมั้ย ตั๊กไม่อยากพูดแล้ว เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เคยพูดไปแล้ว และไม่ว่าตั๊กจะพูดดีแค่ไหน คนก็เอาไปต่อซะเละเทะหมด ไปขุดให้เป็นข่าวตลอด คุณอาจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องการตลาด ตั๊กว่ามันเป็นข้ออ้างมากกว่า ไม่ต้องโทษคนอื่นหรอก สังคมเราแย่ก็เพราะสื่อพวกนี้แหละ ถามว่าตั๊กกลัวสื่อโจมตีบ้างมั้ยที่ออกมาพูดแรง ๆ แบบนี้ ตั๊กพูดความจริง ก็ลองกลับไปคิดดูแล้วกันว่าตั๊กพูดจริงมั้ย



แฟนคนล่าสุดเริ่มมีข่าวออกมาเขาอึดอัดมั้ย
 
-ตั๊กไม่อยากพูดถึงเขา กลัวจะไปกันใหญ่ ขอดูไปเรื่อย ๆ ก่อนดีกว่า  ความรักของตั๊กตอนนี้ก็โอเคนะ ความรักเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีบุคคลที่ 3 หรือ 4 เข้ามาเกี่ยวข้อง จริง ๆ แล้ว ตั๊กอุตส่าห์ให้เกียรติสื่อนะ ที่ออกมาเปิดเผยว่าตั๊กกำลังคบใครอยู่ เพราะตั๊กไม่อยากให้คนอื่นไปเจอแล้วมาเมาท์ว่าเรามีเสี่ยเลี้ยง แต่สื่อบางเล่มไม่ให้เกียรติตั๊กเลย เขาเอาเรื่องตั๊กไปขาย ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ยินดีกับเราเลยที่เรามีแฟนที่ดี กลายเป็นเรื่องซุบซิบนินทาไป ตั๊กผิดหวังมาก 

เสียใจมั้ยที่คนมองว่าเราคบเสี่ย
 
-ตั๊กไม่แคร์คนอื่นเลยนะ อะไรที่ตั๊กปกป้องได้ตั๊กก็จะปกป้อง ตั๊กไม่ได้ว่านะว่าตั๊กจะมีข่าวกับใคร เรารู้ว่าเราเป็นคนของประชาชน บางอย่างตั๊กบอกเพราะตั๊กให้เกียรติสื่อ พอเรามีแฟนใหม่เราก็บอก แต่ต่อไปนี้จะไม่พูดแล้ว และถ้าไปเขียนอะไรอีกตั๊กก็จะฟ้องเลย เพราะอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ที่ผ่านมาตั๊กพูดแค่ 5 แต่คนเอาไปต่อเป็น 10 โดยไม่ได้ถามเราเลย

กับความรักครั้งนี้คาดหวังมากแค่ไหน เพราะดูเหมือนแค่เริ่มก็เจออะไรเยอะแยะแล้ว
 
-ไม่คาดหวังอะไรเลย เพราะพอเราก้าวขาเข้ามาในวงการ ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเราต้องการอะไรแล้วต้องทำให้ได้ มีแต่คิดว่าจะทำยังไงให้ทุกคนพอใจ ไม่เคยย้อนถามตัวเองหรอกว่าเราต้องการอะไร เพราะไม่มีทางที่จะได้อย่างที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว
 
ระหว่างสัมภาษณ์สาวตั๊กมีอาการของขึ้นเล็กน้อย ก็เลยต้องขอจบแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ แหม! ของเขาแรงจริง ๆ.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์