ดีเจต้องปล่อยโฮสุดช้ำ ดร.เอกเบี้ยวเซ็นใบหย่า

หลังจากที่แต่งงานใช้ชีวิตคู่กันเกือบ 3 ปี สำหรับคู่ของ "ดีเจ ต้อง-ศุภัชญา รื่นเริง" และสามี "ดร.เอก ชุณหชัชราชัย" ที่ฝ่ายหญิงได้ออกมาเปิดใจว่า ตนได้แยกทางกับอดีตสามีเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ต้นปี 59 ที่ผ่านมา และได้ตกลงนัดวันกันเซ็นใบหย่าเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุด ที่สำนักงานเขตพระโขนง ดีเจต้อง ดีเจคลื่น 103.5 เอฟเอ็ม วัน พร้อมด้วยบิดา มารดา น้าสาวและทนายความ ได้เดินทางมาเพื่อดำเนินการเซ็นใบหย่ายุติสถานะสามีภรรยากันตามกฏหมายกับ ดร.เอก เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเกือบ 3 ปี แต่พอถึงเวลานัดฝ่ายชายกลับไร้เงาฝ่ายชาย มีเพียงทนายความที่เป็นฝ่ายมาเจรจาแทน ปล่อยให้ฝั่งดีเจสาวและครอบครัวนั่งรออยู่เป็นชั่วโมง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเดินออกมานอกห้องทะเบียน และหยุดพูดคุยกัน โดยผู้ใหญ่ฝั่งดีเจต้องดูจะเสียความรู้สึกกับการกระทำของฝ่ายชายมากๆ ด้านดีเจต้องเองก็รู้สึกตกใจที่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงขั้นปล่อยโฮออกมา จนน้าสาวต้องเขามากอดปลอบ ทั้งนี้หลังจากที่อารมณ์เย็นลงแล้ว ดีเจต้อง เปิดเผยความรู้สึกกับผู้สื่อข่าว

"รู้สึกเฟลมาก  (ร้องไห้) เพราะนัดกันเรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนเขาเล่นทริค ไม่ยอมมา อ้างว่าเขตนี้มีคนรู้จักเยอะ ไปเขตประเวศดีกว่า จากนั้นก็เปลี่ยนให้มาเขตพระโขนงแทน ซึ่งก่อนที่จะมา มีการคอนเฟิร์มนัดกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้าต้องพร้อมด้วยคุณพ่อ คุณแม่ คุณน้า และทนายมารอตั้งแต่ 9.00 น. เจอทนายฝั่งเขาบอกว่าเขามาถึงแล้ว รออยู่ห้องผู้อำนวยการเขต แต่พอต้องเดินขึ้นไปดู กลับไม่เจอใคร พอไปถามก็บอกว่าเขากลับไปแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าตกลงเขามาหรือไม่มา แต่หลอกให้ทางฝั่งเรามาโดยที่เขารู้อยู่แล้วยังไงก็จดทะเบียนหย่าไม่ได้ เพราะตอนแรกที่แต่งงานกัน จดทะเบียนกัน ต้องแจ้งว่าในระบบว่าจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลเขา แต่ต้องยังไม่ได้ใช้ คราวนี้เราจะจดทะเบียนหย่ากันได้ คือต้องไปแจ้งในระบบกลับคืนว่าจะไม่เปลี่ยนแล้ว จะยังคงใช้นามสกุลเดิมของตัวเอง ซึ่งจะต้องไปเปลี่ยนที่เขตประเวศซึ่งเป็นภูมิลำเนาเกิดของเรา ซึ่งข้อมูลตรงนี้ต้องไม่รู้ แต่ตัวเขารู้ว่าถ้าเรายังไม่แก้ไขข้อมูลตรงนี้ก็จะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ก็คิดว่าไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็นัดหย่าแล้วจากตรงนี้ไปเขตประเวศ 30 นาทีถึง ต้องก็แก้ชื่อและเซ็นใบหย่าที่โน่นเลย ทุกอย่างก็จบ แต่เขาไม่ยอมไป อ้างว่าไม่ว่าง ต้องรับไม่ได้กับการกระทำของเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ช่วยกันให้จบ ๆ ไป ในเมื่อหย่าแล้ว ต่างคนก็ต่างไปมีชีวิตของตัวเอง เขาอยากได้อะไรเราให้ทุกอย่างเท่าที่เราจะให้ได้ พอถามกลับไปว่างอีกเมื่อไหร่ก็ตอบกลับว่าไม่รู้ต้องดูตารางงาน คืองานยุ่งขนาดนั้นเลยหรอ เซ็นเอกสารไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ ไม่รู้ว่าเขาจะกวนอารมณ์เราทำไม ทั้งที่การหย่าเป็นข้อตกลงที่เราคุยกันไว้ตั้งแต่แรก นานวันเข้าเขาก็หายไป ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันมา 8 เดือนแล้ว จนได้รับจดหมายจากทนายว่าเขาขอแบ่งสินสมรส จะให้แบ่งอะไรอีก อะไรที่ให้ได้ก็ให้ไปแล้ว มันไม่มีอะไรงอกเงยขึ้นมาเลย"

"ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่เราเซ็นไว้ก่อนแล้วส่งไปให้เขาเซ็นทีหลัง เป็นไปได้ค่ะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเซ็นให้เราเมื่อไหร่ ส่วนตัวต้องอยากให้จดต่อหน้านายทะเบียนให้ทุกอย่างจบตรงนั้นแล้วก็แยกย้ายกันไป น่าจะง่ายกับเราทั้งคู่ ต้องว่าเราคุยกันมาขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่า เพราะก็ไม่มีอะไรให้ต้องแบ่ง ฟ้องไปก็เสียเวลา เสียเงินเปล่าๆ โตๆกันแล้วคุยกันดีๆก็ได้ แต่การที่เขาไม่มาในวันนี้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องท่านเสียความรู้สึกมาก ไม่เป็นไร เชื่อว่าสักวันก็ต้องได้หย่า"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ดีเจต้องได้ให้สัมภาษณ์แล้ว ได้เดินทางไปแจ้งยกเลิกการขอใช้นามสกุลของอดีตสามี ที่สำนักงานเขตประเวศอีกด้วย