ดาราปั่นกระแส เป็นข่าว...งานเข้า!

คงเป็นเพราะเศรษฐกิจที่ถดถอย ก็พลอยทำให้การเงินในกระเป๋าหลายๆคนถดถอยตามไปด้วย ไม่ใช่แค่คนทั่วไปตกงาน

ในวงการบันเทิง ดาราตกงานก็ยังมี เพราะปัจจุบันดาราที่มีกระแสข่าวไม่ว่าจะด้านบวก หรือด้านลบ จะมีงานเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะงานอีเวนต์ ที่อิงกระแสข่าวของดาราเป็นหลัก จะเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ที่เหล่าดาราต้องสร้างกระแสให้ตัวเองเพื่อให้..งานเข้า

"รัน"ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ ที่ช่วงหลังกลับมาเนื้อหอมหลังจากหายเงียบไปพักใหญ่ เผยว่า

"รันว่า งาน กับ กระแส ไม่เหมือนกันนะคะ กระแสมันอยู่ได้แค่ช่วงหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของผลงาน ทำอย่างไรให้คนดูเชื่อในฝีมือของเราดีกว่า การที่คนมองว่านักแสดงบางคนต้องการสร้างกระแสเพื่อให้มีงานติดต่อเข้ามานั้น รันคิดว่าทุกคนไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น ทุกคนย่อมอยากให้เรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ความรักของตนเองเพอร์เฟ็กต์ทุกอย่าง แต่บางครั้งมันก็เกิดความผิดพลาดขึ้นมาบ้าง พอมีกระแสข่าวออกมาก็ทำให้มีคนจ้างงานเขา แต่อย่าลืมว่าถ้าคุณรับผิดชอบงานที่ได้รับไม่ดีต่อไปก็คงไม่มีคนจ้างค่ะ"

 หนุ่มติสต์"ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" ให้ความเห็นว่า

"สำหรับผมไม่ได้รู้สึกว่าวิกฤตบ้านเมืองเป็นแบบนี้แล้วส่งผลมาถึงงานของตัวเอง ปกติเวลามีงานเข้ามาผมยังเป็นฝ่ายปฏิเสธเองซะส่วนใหญ่ ถามผมว่าจะมีดาราที่ชอบสร้างกระแสให้ตัวเองมั้ย แหม...ผมเองไม่ใช่คนใส่ร้ายใครแต่คงไม่น่าจะมีมั้ง ยิ่งตัวผมเองแล้วไม่มีสร้างกระแสให้ตัวเองแน่นอน"

สาวยิ้มสวย "พอลล่า เทเลอร์" ยังแบ่งรับแบ่งสู้โดยบอกว่า

"ถ้าใครอยากสร้างกระแสก็สร้างไปเถอะ แต่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะทำแบบนั้น บางคนอาจจะชอบสร้างกระแสอยู่แล้วเพื่อให้คนหันมาสนใจ บางทีถ้ากระแสนั้นได้ผลจริงๆ ก็อาจจะมีงานมีเงินตามมาด้วย ส่วนพอลล่าไม่เป็นไร ไม่ต้องมีกระแสก็ได้แต่ขอให้มีงานก็พอใจแล้ว"

ดาราสาว"ไหม"วิสา สารสาส ซึ่งมีข่าวออกมาอยู่ตลอดเวลา เผยว่า

"ไหมเองไม่ค่อยจะได้ใส่ใจในเรื่องแบบนี้เพราะว่าตัวเองก็มีข่าวอยู่ตลอดเอาตัวเองก็แทบจะไม่รอด เรื่องการที่จะได้งานหรือไม่ได้งานสำหรับไหมจะคิดว่าอยู่ที่ว่าคนที่เขาเลือกเราไปทำงานเขาเห็นว่าเราทำอะไรได้มากกว่า ไหมจึงจะพยายามทำงานออกมาให้ดีที่สุดอยากจะให้เขาเลือกเราไปทำงานเพราะว่าเราทำงานให้เขาได้มากกว่าที่เขาจะเลือกเราไปทำงานเพราะว่าเราอยู่ในช่วงกำลังเป็นข่าว"

นางเอกสาว"น้ำฝน"กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ มาพร้อมชื่อใหม่"อัญรินรทร์ หิรัญพรฐานนท์" คิดเห็นในเรื่องนี้ว่า

"ถ้าถามว่าเห็นด้วยมั้ย มันก็มีส่วนนะเพราะว่าเดี๋ยวนี้บางคนไม่มีงานแสดงเลยแต่กลับดังกว่านักแสดงเสียอีก ฝนโชคดีที่เข้าวงการก่อนที่จะเกิดยุคแบบนี้ จะได้ไม่ต้องโชว์อะไรเยอะ เราอยู่จนเขารู้แล้วว่าถ้าจ้างเรามาแล้วจะเป็นอย่างไร มันเป็นไปตามยุคสมัย สมัยก่อนดารายังน้อยอยู่ เข้ามาก็ต้องตั้งใจเล่น สัมภาษณ์ก็ต้องสัมภาษณ์ดีๆ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าต้องพูดตรงๆแรงๆว่ากันในไฮไฟว์ ทำให้เกิดกระแสต่างๆขึ้นมาส่งผลให้มีงานค่ะ"

สาวเซ็กซี่"เป้ย"ปานวาด เหมมณี คิดเห็นว่า

"เป้ยไม่เห็นด้วยนะคะที่คนมองว่าถ้าไม่มีกระแสต่างๆเกิดขึ้นก็ทำให้ไม่มีงาน เป้ยว่าถ้าคุณมีฝีมือดีจริงๆต่อให้ไม่มีกระแสคนก็ยังนึกถึงและเรียกใช้บริการจากเราอยู่ การเป็นกระแสข่าวต่างๆเป้ยมองว่ามันเป็นสิ่งที่ฉาบฉวยไม่ยืนยาวเหมือนฝีมือ นักแสดงที่คิดว่ากระแสเยอะทำให้มีงานเข้าเยอะ คงไปว่าใครไม่ได้ว่าคิดผิดหรือถูก มันต้องดูหลายๆปัจจัย ถ้าจะหวังแต่งานอีเวนต์ก็แค่ประเดี๋ยวประด๋าว พอกระแสข่าวฉาวเงียบไปคนก็ไม่จ้างคุณแล้วเพราะฉะนั้นอยู่ที่ฝีมือและการวางตัวของเรามากกว่าค่ะ"

นางเอกสาว "แตงโม"ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ มุ่งเน้นไปที่เรื่องส่วนตัวมากกว่า โดยกล่าวว่า

"โมว่าดาราที่ชอบสร้างกระแส น่าจะเป็นประเด็นส่วนตัวเพื่อตัวเอง ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีงานในวงการไม่มีลดน้อยถอยลง สินค้ายิ่งต้องแข่ง จ้างดารา แต่คนที่ชอบสร้างกระแสตัวเขาเองอาจจะไม่มีคุณภาพและศักยภาพพอที่งานจะจ้างเขา เขาเลยต้องทำให้ตัวเองมีกระแส โมว่าในวงการมีแบบนี้ 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะส่วนใหญ่กระแสที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นกระแสไม่ดี ดาราคงไม่มาแลกกับการถูกมองไม่ดีหรอก"

หนุ่มตาหวาน"อ๊อฟ"ชนะพล สัตยา ออกตัวเสียงหลงว่า

"โอ้..สำหรับผมไม่ใช่ครับ ที่มีงานเพราะว่ามันเป็นช่วงที่ผมมีผลงานอยู่ มันก็เลยทำให้งานอีเวนต์เยอะขึ้น แต่พอผลงานเราน้อยงานอีเวนต์ก็ลดลงเป็นธรรมดา แต่เรื่องนี้ผมว่ามันก็ต้องมีบ้าง เพราะมันเป็นธุรกิจของแต่ละคน แต่ไม่อยากให้ใครออกมาไม่ดีหรอกครับ มันเป็นหนทางการอยู่รอดของแต่ละคนมากกว่าครับ"

"ชื่อเสียง"มาพร้อม"เงินทอง"ก็ดีไป แต่ถ้าเป็น"ชื่อเสีย"คงแย่หน่อย