ชื่อไทยใครว่าไม่เก๋!

เป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับเรื่องที่กระทรวง วัฒนธรรมออกมาขอความร่วมมือบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายให้ช่วยตั้งชื่อลูกเป็นภาษาไทย เนื่องจากเด็กสมัยนี้มองไปทางไหนมีแต่ชื่อฝรั่งหรือไม่ก็ชื่อญี่ปุ่นอาโนะเนะ  ทั้งนั้น ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเลยกลัวเด็กจะลืมเลือนรากเหง้าความเป็นไทย
 
“แซสซี่ เกิร์ล” ก็เข้าใจนะเจ้าคะ ก่อนหน้านี้เคยเจอกับตัวเลย ประมาณว่า เด็กหน้าตาไทย ชื่อก็ไทย แต่ดันเขียนภาษาไทยไม่ได้ เพราะเรียนนานาชาติตั้งแต่เด็ก สปีคได้ภาษาอังกฤษ เจออย่างนี้แล้วเลยรู้สึกกลัวเลยค่ะคุณขา ขนาดเด็กไทย โตเมืองไทยแท้ ๆ แล้วอย่างนี้อีกหน่อยวัฒนธรรมอันดีงามของเราจะไม่เลือนหายไปหรือเจ้าคะ เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยที่ควรจะเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ เช่น เรื่องชื่อ เป็นต้น แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยปลูกฝังเรื่องอื่น ๆ ต่อเข้าไปอีก
 
ลองไปฟังความเห็นคนบันเทิงกันหน่อยดีกว่าว่าเขาคิดยังไงบ้างกับเรื่องนี้
 
เริ่มกันที่ จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ กล่าวว่า “ในความเห็นส่วนตัว จอยก็เข้าใจกระทรวงวัฒนธรรมนะ แต่เรื่องนี้มันก็เกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคลด้วย บางครอบครัวอาจวางแผนให้ลูกของเขาไปเรียนต่อเมืองนอก เลยต้องตั้งชื่อภาษาอังกฤษเผื่อไว้ เพราะจะเรียกง่ายกว่าชื่อไทย แต่สิ่งที่จอยอยากให้โฟกัสมากกว่าคือเรื่องการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องของเด็กวัยรุ่น จอยไม่ได้จะบอกว่าตัวเองเก่งหรือเลิศเลออะไร สมัยก่อนจอยก็คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นไทยพอสมควร ไม่ค่อยพูดไทยคำอังกฤษคำ เท่าไหร่ แต่พอเข้ามาทำหน้าที่พิธีกร ทำให้จอยรู้สึกเลยว่ายังมีข้อบกพร่องเรื่องการใช้ภาษาไทยเยอะ ดังนั้นจึงอยากให้หันมาสนใจเรื่องนี้มากกว่าถ้าคิดจะอนุรักษ์ความเป็นไทยกันจริง ๆ ซึ่งจอยคิดว่าถ้าเป็นไปได้ก็ควรเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็กจะเห็นผลมากกว่าค่ะ”
 
ด้าน นักร้องหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน พายุ คลาร์ค เผยว่า “ผมเป็นคนที่ภูมิใจกับชื่อของตัวเองมาก เพราะสมัยก่อนตอนที่เรียนอยู่ที่อเมริกา พออาจารย์เรียกชื่อผมปุ๊บ เพื่อน ๆ จะหันมามองผมทันที ฝรั่งค่อนข้างชื่นชอบอะไรที่เป็นไทยมาก ผมว่าเรื่องที่กระทรวงวัฒนธรรมหันมารณรงค์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ เพราะชื่อเป็นอะไรที่บ่งบอกถึงตัวตนและชาติกำเนิดของคน ๆ นั้น และเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจให้เราไม่ลืมเลือนรากเหง้าของเรา ผมอยากจะฝากบอกน้อง ๆ นิดนึงว่า เราควรภูมิใจในความเป็นไทย เพราะบอกตรง ๆ ว่าฝรั่งชื่นชมวัฒนธรรมและความเป็นไทยมาก เราควรเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีนะครับ”
 
ฟาก เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน แสดงความเห็นว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุยกันมานานแล้ว เอ๋เคยได้ยินมาว่า ถ้าเราไปโรงเรียนอนุบาลจะเห็นว่าเด็กเกินครึ่งมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษหมด เอ๋ว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน แต่ในทางกลับกันเราต้อง  มองว่า ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไปตั้งชื่อลูกไทย ๆ มาก มันอาจจะดูเชยก็ได้ ถ้าเป็นได้พ่อแม่ก็ควรแต่งชื่อลูกให้ดูโมเดิร์น หาคำไทยสละสลวยมาใช้ อย่างคำว่า “นวล” เป็นชื่อที่น่ารักมาก หรืออย่าง “เอื้องคำ” ก็ดูเป็นไทย แต่ดูเก๋ดี เราควรทำให้คนอื่นเห็นว่า ชื่อไทย ๆ ไม่จำเป็นต้องเชยเสมอไปค่ะ”
 
ปิดท้ายที่ ตวง-สาวิกา กาญจนมาศ กล่าวว่า    “เรื่องนี้มันเป็นเรื่องความชอบส่วนตัวนะ มันบอกไม่ได้หรอกว่าดีหรือไม่ดี จริงอยู่มีชื่อไทยก็ดีเด็กจะได้ไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง แต่ถ้าใครอยากให้ลูกมีชื่อฝรั่งก็สามารถเอาชื่อไทยมาประยุกต์ใช้กับภาษาอังกฤษก็ได้ ได้ทั้งในสิ่งที่เราต้องการและยังได้อนุรักษ์ความเป็นไทยไปด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วตวงอยากให้ไปเน้นเรื่องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่นเขาจะมีภาษาของเขา บางคำตวงเองยังไม่เข้าใจความหมายเลย ซึ่งเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังด้วย ถ้าเป็นไปได้ครอบครัวก็ควรสอนลูกหลานตั้งแต่เด็กว่าไม่ควรใช้ภาษาไทยแบบผิด ๆ ค่ะ”.

แซสซี่ เกิร์ล



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์