ชีวิตแหยมฯ ชีวิต หม่ำ จ๊กมก

ชีวิตแหยมฯ ชีวิต "หม่ำ จ๊กมก"

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2548 09:55 น.

ทำอะไรก็ดูจะได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจไปทั้งหมดสำหรับตลกดังดนนี้ "หม่ำ จ๊กมก"

โดยเฉพาะกับงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เขากำกับและเล่นด้วยตนเองอย่าง "แหยมยโสธร" หนังรักสไตล์แปลกที่ว่ากันว่าฉายภาพของความเป็นตัวตนของตลกคนนี้ได้เป็นอย่างดี

"คือถ้าผมคิดอยากจะทำหนังรักซักเรื่องนึง ผมก็คิดว่ามันจะเป็นรักแบบไหนดี ก็เลยมานั่งย้อนนึกถึงตัวเองว่า เออ..มันน่าจะเป็นความรักเมื่อ 40 ปีที่แล้วดีไหม มันน่าจะสดใสกว่า ก็เลยลงตัวที่หนังเรื่องนี้แหละ..." ผู้กำกับดังบอกถึงที่มาของโปรเจ็กต์หนังเรื่องที่สองของตนเอง

"เรื่องนี้ก็เลยเป็นหนังรัก เป็นหนังพีเรียดที่ย้อนยุค อยากให้ได้เห็นความรักที่เป็นแก่นแท้ของคนบ้านนอกว่าเค้ารักกันยังไง แล้วยังมีให้เห็นอีกมุมนึงด้วย เป็นมุมที่ไม่รักกันด้วยนะ คือในเรื่องตัวไอ้แหยมเนี่ย เป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องความรักเลย แต่อีกคู่นึงคู่พระเอกนางเอกเขาจะหวานแหว๋วกับความรักมาก จะอินเลิฟตลอด จะกินข้าว จะเข้าห้องน้ำ จะทำอะไรก็แล้วแต่ คู่นั้นเค้าจะรักกันมาก ซึ่งสวนทางกับอีกคู่นึง แต่สุดท้ายคู่ของแหยมเขาก็อินเลิฟนะ"

หม่ำบอกว่าแรกๆ เขาตั้งชื่อไว้หลายชื่ออยู่เหมือนกันแต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่แหยมด้วยเหตุผลที่สำคัญว่านายทุนอย่าง "เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" ชอบด้วย
"ตอนแรกจะใช้ชื่อว่า กู๊ดมอร์นิ่ง ยโสธร แต่ตอนหลังก็มาใช้ ฮัลโล ยโสธร แล้วก็มีชื่อไทยว่า สวัสดี ยโสธร จนสุดท้ายมาจบที่ชื่อแหยม เพราะเสี่ยเค้าชอบชื่อแหยม เพราะเรื่องราวทั้งหมดแหยมเป็นคนดำเนินเรื่อง เป็นเหมือนตัวชงให้ไอ้คู่พระนางเค้าได้รักกัน"

คาแรกเตอร์ของแหยมเป็นยังไง?
"ตัวแหยมจะเป็นคนซื่อ ตัวเค้าจะมีความมุ่งมั่นมีความจริงใจกับทุกๆ คน แล้วก็เป็นคนที่โอบอ้อมอารี สิ่งเดียวที่ไม่ถูกหูถูกตาคือเจ้ยคนเดียวเลย ในเรื่องนี้คือไม่เข้าหู ไม่เข้าตาอะไรเค้าซักอย่างเลย แต่ที่ต้องมาด้วยเวลาที่ทองกับสร้อยมันจีบกันก็เพราะอยากให้หลานซึ่งเป็นพระเอกกับสร้อยได้เจอกัน ประจวบเหมาะกับไอ้เจ้ยมันเพราะเจ้ยเป็นพี่เลี้ยงสร้อย มันดันแอบชอบเรา จีบเราอยู่นั่นแหละ"

"ที่จริงตัวไอ้แหยมมีตัวตนนะ ชื่อแหยมจริงๆ มันเล่นตลกคณะไอ้หยอง ตามันเหล่ๆ ตอนแรกที่ casting ผมก็ cast ตัวเองด้วย มานั่งทำตาแบบนี้นะ (ทำตาเหร่) มันต้องฮา ตอนแรกก็คิดไว้ว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้นะ แต่มานั่งคิดไปคิดมา จะมาทำตาเหล่กันทั้งเรื่อง ตาเรามันต้องเหล่จริงแน่ๆ เลย ไม่เอาดีกว่า เอาธรรมดาดีกว่า สุดท้ายก็ได้เป็นแหยมธรรมดา แต่ว่าขอใส่วิกทรงผมแบบเก่า ให้มันดูเป็นคนทึ่มๆ ทึบๆ หน่อยก็ดีนะ"

ส่วนสาเหตุที่เจ้าตัวกระโดดลงมาเล่นนั้นหม่ำบอกว่าถ้าไม่เล่นเองก็อาจจะไม่สนุก เพราะตนเองเป็นคนเข้าใจในเนื้อหาและคาแรกเตอร์โดยรวมทั้งหมด
"ถ้าไม่เล่นเองมันก็อาจจะไม่สนุก มันเหมือนกับว่าตัวผมจะเป็นตัวปูให้เจเน็ท เขียว แล้วตัวพระเอกของเรื่อง มันเหมือนเป็นจุดขาย แล้วอีกอย่างความรู้สึกของเราเนี่ย ถ้าอยากจะทำหนังเองแล้วก็อยากจะเล่นเองมากกว่า สะใจด้วย แล้วเราก็จะรู้จักตัวละครรู้จักเนื้อเรื่องดี เพราะมันเป็นหนังของเรา เราสามารถจะรู้ได้ทันทีว่าเราจะเอาอะไรใส่ลงไปในเรื่องบ้าง เราจะตลกช่วงไหน งานพี่ก็จะหนักกว่าคนอื่น 2 เท่า"

ส่วนคู่รักของแหยมนั้นหม่ำบอกว่าเลือกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงๆ ก็ต้องเป็นนักร้อง "เจเน็ท เขียว"
"ใช่ๆ รู้เลย สำหรับเรื่องนี้ผมคิดได้ทันทีเลยว่า ต้องเป็นเขียว ต้องเป็นเจเน็ท เขียว คนอื่นเป็นไม่ได้ แล้วบอกได้ทันทีเลยว่าหนังเรื่องนี้นะ ลุคของเขียวเค้าเปลี่ยนไปเลย เค้าจะเป็นนางเอกเต็มตัวมาก เพราะว่าเค้าจะสวยมาก ๆ จะเป็นนางเอกแบบนางงาม ซึ่งมันจะขัดกับตัวเจเน็ท เขียว เพราะปรกติเค้าจะกระโดกกระเดกอยู่แล้ว ส่วนพระเอกนางเอกอีกคู่นึงเค้าก็จะโอเคอยู่แล้ว เค้าก็สวยเค้าก็หล่ออยู่แล้ว"

กำกับพระเอกนางเอกใหม่เป็นยังไงบ้าง?
"คือตอนแรก เค้าออกจะกระด้างกระเดื่องไปซักหน่อยนึง แต่จริงๆ แล้วพอแคสฯ อะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอได้ดูตอนถ่ายทำกันจริงๆ ก็รู้สึกว่าเออ...ก็ดีนะ เค้า 2 คนเริ่มคุ้นกันแล้ว เค้าก็เริ่มกอดเริ่มนั่นกัน เค้าก็คุยกันเหมือนเป็นเพื่อน มันก็ทำงานง่ายขึ้น ถ้าถามว่าช่วงแรกๆ เป็นไง มันก็ยังไม่ค่อยดี แต่พอเขาเริ่มได้ไปเรียนแคสติ้งเขาก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เก่งขึ้นทั้งคู่"

"ผมได้พระเอกคนนี้มาจากจังหวัดอุบล ตอนนั้นส่งคนไปแคสติ้งกันที่อุบลเลย เพราะอยากได้คนที่พูดภาษาอีสานได้จริง แล้วก็อยากได้คนหน้าใหม่ๆ บ้าง พระเอกคนนี้หน้าเค้าออกลูกทุ่งๆ ดี ที่จริงมีหล่ออีกหลายคนนะ สูง แมนมากก็หลายคน 4-5 คนมั้ง แต่มาถูกใจหน้าอุ้ม (ชัยพันธ์ นินกง) เนี่ยแหละ ผมรู้สึกว่าหน้าเค้าบ้านนอกแบบลูกทุ่งดี"

"ส่วนของนางเอกก็เหมือนกันก็ส่งคนไป casting (ออแกน เยาวลักษณ์ ตุ้มบุญ) คือใช่เลยว่าต้องเป็นคนหน้าแบบนี้ ไม่เอาสวยมาก เอาพอดีๆ หน้าออกแหลมๆ หน่อย เสียงแบบเหมือนคนบ้านนอก แล้วเค้าก็พูดเหมือนคนบ้านนอกได้จริงๆ ผมดูจากกิริยาเค้า ดูจากที่แคคสฯ แล้วก็หน้าตาเค้าหลังจากที่เค้าถ่ายรูป ถ่ายอะไรไว้ ดูไปดูมาเออนางเอกคนนี้แหละใช่แล้ว เอาคนนี้ เคาะเลย เค้าเป็นคนน่ารักนะ เป็นคนกล้าแสดงออก เป็นคนที่จะให้ทำอะไรเค้าก็ทำให้ได้หมด"

ได้เห็นพัฒนาการตัวเองไหมจากการกำกับหนังเรื่องที่ 2?
"มันจะพัฒนาในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเดิน จะเสื้อผ้า รองเท้า คำพูด มันรู้สึกจะชัดเจนขึ้น กล้อง มุมกล้องเราจะรู้เลย พอดูในจอปั๊บจะรู้เลย ไม่ใช่อย่างนี้ มาเบียดตรงนี้หน่อย แบ็คกราวด์ด้านหลังแบบนี้แหละใช่ เอ้ย แสงไม่ใช่ แต่เราบอกไม่ได้ว่าใช้แสงอะไร เราไม่รู้ แต่เรารู้สึกได้ว่ามันน่าจะเป็นสีนั้นนะ เออ..เฟรมมันน่าจะเป็นแบบนี้นะ เราจะพัฒนาการกำกับมาจากบอดี้การ์ดที่เราดูหลายๆ รอบ แล้วก็เอาหนังแหยม มาเช็คดูหลายๆ รอบ มันรู้ด้วยตัวเองเลยว่าเราพัฒนาขึ้นมาอีกหน่อยนึงแล้ว"

ท้ายสุดตลกดังบอกว่าถึงตอนนี้แม้จะประสบความสำเร็จมากมายแต่อย่างไรตนก็ยังเป็น "หม่ำ จ๊กมก" ที่ยังคงมีทั้งคนที่ชอบและคนที่เกลียดอยู่
"ผมว่าคำว่าซูเปอร์สตาร์ คนคิดไปเองละมั้ง ก็ทำงานของเราไปทำให้ดีที่สุดกับงานชิ้นนั้น ผมว่ามันแล้วแต่ใครจะบอกว่าคนนั้น เบอร์ 1 คนนี้เบอร์ 2 คนนั้นเบอร์ 3 ผมว่าไม่ใช่หรอก มันแล้วแต่คนชอบ คนไม่ค่อยชอบผมก็มี หาว่าผมทะลึ่งตึงตัง คนที่ชอบผมก็มี มันแล้วแต่ ไม่มีใครหรอกเบอร์ 1 เบอร์ 2 ซูเปอร์สตาร์ เบอร์ 4 เบอร์ 5 มันไม่ใช่ ใช้กับผมไม่ได้ เป็นคำที่ไม่รู้สิ สุดยอดเหรอ ไม่ใช่หรอก"

"ถ้าสุดยอดก็ต้องหยุดสิ นั่นแหละคืออมตะ เราไม่หยุดก็แสดงว่าเรายังไม่ถึงจุดสุดยอด ผมยังไม่ใช่คนที่ตลกที่สุดนะครับ มันแล้วแต่คนชอบ ความชื่นชอบแต่ละคนมันมีแตกต่างกันไป บางคนบอกว่าไม่ขำเลยมุกมึง เห็นหน้าตาแล้วอาจจะขยะแขยงก็ได้ บางคนเห็นแล้วอาจจะอยากกอดก็ได้"


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์