ชัดชัด!สเตฟาน-เอม แลกกันหมัดต่อหมัดใครกันแน่สตอร์?


ทําตัวลั้ลลาเป็นโสดได้ไม่เท่าไหร่ พระเอกหนุ่ม "สเตฟาน"ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ก็งานเข้า
 
กลายเป็นข่าวทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อขับรถไปส่งนักแสดงสาว "เอม"เจษยา เวียง เกตุ ที่คอนโดฯ แล้วมีภาพหลุดว่อนเน็ต

ข่าวเลยเถิดถึงทุกวันนี้ ต่างสาดน้ำลายว่าฝ่ายตรงข้ามโกหก และดูท่าศึกน้ำลายครั้งนี้จะไม่จบง่ายๆ เมื่อฝ่ายหญิงปล่อยโฮด้วยความเจ็บช้ำ

ล่าสุดลัดเลาะรั้วละคร "สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา" ซึ่งปักหลักถ่ายทำกันที่โรงถ่ายกันตนา ศาลายา ที่มีหนุ่ม "สเตฟาน" เข้าฉาก พอพระเอกหนุ่มว่างเลยขอสัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อน



- เป็นอย่างไรบ้างกับข่าวที่ออกมา?

สเตฟาน - "ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์มาเดือนนึง ไม่ใช่ว่ากลัว ผมไม่มีเจตนาจะมาพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้สักครั้ง ผมถึงไม่ให้สัมภาษณ์ ผมเป็นคนตรง ไม่เคยโกหกนักข่าว และผมให้สัมภาษณ์ตลอด แต่ครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายให้สัมภาษณ์คนเดียว ผมไม่ออกไปว่าอะไรเพราะผมต้องการปกป้องเขาตั้งแต่แรก แต่เขาไม่ปกป้องตัวเอง ผมไม่เคยทำอะไรให้เขาเสียหาย เขาทำตัวเอง แถมยังเอาฝน(กุลณัฐ กุลปรียาวัฒน์) มาเกี่ยวอีก"

- น้ำฝนมาเกี่ยวยังไง?

สเตฟาน - "เขาให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่าฝนเป็นคนเอารูปผมกับเขามาปล่อย ขอย้ำฝนไม่เกี่ยว อีกอย่างคนภายนอกใครจะเข้าไปในคอนโดฯ แล้วไปเอารูปจากกล้องวงจรปิดออกมาได้ ผิดกฎนะ และก็เชื่อว่ายามไม่ได้เอาไปปล่อย คุณอย่าไปว่าคนอื่นที่เขาไม่เกี่ยวแล้วสร้างเรื่องขึ้นมา"

บทสนทนาในวอทแอปที่เอมเจษยานำมาแฉ


- น้ำฝนโกรธหรือเปล่าที่โดนดึงเข้าไปเอี่ยว?

สเตฟาน - "โกรธ เขางงมากเพราะไม่เกี่ยวอะไรเลย เขาก็ว่าเธอทำอะไรมันก็เรื่องของเธอ ทำไมทำให้ฉันเดือดร้อน เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้"

"ฝนและทุกคนเชื่อผม ผมไม่ได้โกหก ผมน่าจะเป็นพระเอกคนเดียวที่ยอมรับเรื่องคบกับใครเป็นแฟนก็บอก ไปเที่ยวก็ยอมรับ ไปไหนยอมรับหมด ทำไมต้องมาโกหกแค่เรื่องขึ้นคอนโดฯ สังคมเราไม่ชอบคนพูดตรง ทำไมเราต้องมานั่งโกหกเพื่อให้ภาพดูดีอย่างเดียว คุณชื่นชมกับคนเหล่านั้นหรือ ยังไงผู้หญิงก็น่าสงสารกว่าผู้ชายเพราะเป็นเพศอ่อนแอ แต่ผมอยากขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก็ได้ แต่อย่างน้อยเป็นกลางหน่อย"

- มีข่าวว่าฟานโทร.ไปหาเขา เพื่อเตี๊ยมให้พูดในทางเดียวกัน?

สเตฟาน - "จริงๆ แล้วเขาเป็นฝ่ายโทร.หาผม ตอนแรกบีบีมาหา ซึ่งผมอ่านภาษาไทยไม่ออก ก็บอกให้เขาโทร.มา เขาโทร.มาและบอกว่าตอนนี้มีข่าวออกมาแล้ว ถ้านักข่าวโทร.มาสัมภาษณŒ พี่ฟานช่วยให้สัมภาษณ์ว่าเราไม่ได้เจอกันที่คอนโดฯ นะ ไปเจอกันที่ห้าง บอกเป็นกล้องวงจรปิดในห้างก็ได้ ซึ่งผมก็โอเค"

"วันต่อมาผมให้สัมภาษณ์ในงานที่พารากอน ซึ่งผมไม่อยากโกหกเพราะทุเรศ มันดูรู้ว่าไม่ใช่ห้าง นักข่าวถามว่าไปคอนโดฯ น้องเอมจริงมั้ย ผมบอกว่าไป แต่ไม่ได้ขึ้นข้างบน ผมพูดให้ดูดีหน่อย บอกว่าเจอกันที่ล็อบบี้ข้างล่าง พอมาอีกวันเขาให้สัมภาษณ์ว่าผมขึ้นห้องเขา เจตนาเขาบอกให้ผมโกหกนักข่าว แต่เขาไปพูดให้ผมดูไม่ดี"



- นับจากวันที่ให้สัมภาษณ์ที่พารากอน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ "ฟาน" ให้สัมภาษณ์ใช่หรือเปล่า?

สเตฟาน - "ใช่ครับ ที่ผ่านมาผมเงียบตลอด เราเป็นผู้ชายไม่อยากพูด ผมแมนพอ เขาอยากให้ข่าวหรือพูดอะไรเกี่ยวกับผมไม่เป็นไร แต่เขาไม่หยุดเสียที และยังว่าต่อไป หาว่าผมไม่เป็นลูกผู้ชาย เพราะผมไม่ยอมรับ ผมไปหลอกเขา ซึ่งผมไม่ได้ทำสักอย่าง แล้วยังลามถึงฝน"

"ผมโกรธที่ทำไมเราถึงโดนหลอกใช้ ที่ไม่ชอบคือเขาโทร.มาให้ผมโกหกนักข่าว เพื่อทำให้ทุกคนดูว่าผมเป็นคนโกหก และเขาหาว่าผมเหมือนไปหลอกว่าจะเป็นแฟนกับเขา ผมเจอเขาวันแรกที่งานช่อง 9 วันที่สองผมชวนเขาไปกินข้าว เขามีรถแต่เขานั่งแท็กซี่มาเจอผม ผมเลยต้องไปส่งที่คอนโดฯ ผู้ชายที่ไหนจะบอกว่านั่งแท็กซี่กลับไปเองแล้วกัน พอไปส่งเหมือนว่าเราคุยๆ กันไปก็ขึ้นไปที่ห้อง แล้วกลับบ้าน อีกวันก็โทร.คุยกันปกติ"

"ผมพยายามพูดให้น้อยที่สุด มีหลายอย่างที่พูดไม่ได้ แต่มันทำให้ผมคบเขาเป็นแฟนไม่ได้ คนเราต้องคุยและศึกษากันก่อน อาทิตย์เดียวไม่มีทางเป็นแฟนกันได้ ผมถามจริงๆ ว่าผมทำอะไรผิด ผมไม่ได้บังคับอะไรเขาเลย"



- ที่เขาให้สัมภาษณ์ว่า "ฟาน" โทร.มาเตี๊ยมให้เขาพูดให้เหมือนฟานก็ไม่ใช่เรื่องจริง?

สเตฟาน - "ผมสาบานกับทุกอย่างเลยว่าผมไม่เคยโทร.ไปเตี๊ยมเขาเลย เขาเองนั่นแหละที่โทร.มาเตี๊ยมผม"

- รู้สึกอย่างไรที่เจตนาจะปกป้อง แล้วมาเจอแบบนี้?

สเตฟาน - "เสียใจนะ เพราะผมพยายามปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งแต่เขาไม่ยอมปกป้องตัวเอง เรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ผม ผมไม่ได้ทำให้เขาดูไม่ดีนะ เขาเองที่ทำตัวเอง ผมไม่เคยว่าอะไรเขา จนเขาเริ่มโกหกหลายเรื่องเกี่ยวกับผม นักข่าวอยากสัมภาษณ์ผมหลายครั้ง แต่ผมปฏิเสธ มาตอนนี้ผมตัดสินใจให้สัมภาษณ์ก็ได้ อยากบอกว่าผมไม่อยากออกมาพูด แต่คุณทำให้ผมต้องพูด"

"แล้วเรื่องที่ผมพูดทุกอย่างไม่ได้เอาเรื่องส่วนตัวเขาออกมาพูด ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมออกมาเคลียร์ในสิ่งที่เขาพูด อยากให้ไปดูคำสัมภาษณ์เขาดีๆ แต่ละครั้งไม่เหมือนกันสักครั้ง ท้ายที่สุดถูกถามมากๆ ก็ร้องไห้ กลายเป็นว่าผมไม่ดี"

"ถามจริงๆ เถอะ ผมทำอะไรผิดที่ต้องโดนด่าขนาดนี้ ผมชวนเขาไปกินข้าวเพราะผมโสด เขาก็บอกว่าเขาโสด ผมพาเขาไปส่งที่บ้าน ผมไม่ได้ขอเขาขึ้นคอนโดฯ ไม่ได้บังคับ ไม่ได้ขอร้อง ผมผิดเหรอ ช่วงแรกที่คุย เราส่งเมสเสจหวานๆ เราคุยกันจะให้พูดไม่สุภาพหรือ"

"ตั้งแต่วันสุดท้ายที่ผมคุยกับเขาเดือนกว่าแล้วนะ ผมไม่เคยคุยกับเขาอีกเลย แล้วล่าสุดเขาให้สัมภาษณ์ว่าผมพยายามกีดกันไม่ให้เขาเล่นละครกับผม ผมไม่เคยพูด ผมแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้"




- คิดว่าเขาสร้างกระแสให้ตัวเองหรือเปล่า?

สเตฟาน - "ตรงนี้ให้คนดูเป็นคนคิดเองดีกว่า ไม่อยากตัดสิน ให้คนดูพิพากษาเอง แต่ขอให้เป็นกลางหน่อย จริงๆ มันคือการสมัครใจด้วยกันทั้งคู่ ถ้าทุกคนรู้ทุกคนก็จะรับไม่ได้ ผมก็เลยไม่ได้คุยต่อกับเขา เขาคงโกรธที่ผมไม่คุยต่อกับเขา"

- ณ วันนี้ถ้าต้องร่วมงานกันได้ไหม?

สเตฟาน - "ณ วันนี้ถ้าต้องร่วมงานกับเขา ผมจะมองเขาเป็นอากาศธาตุ จะไม่สนใจเขา จะยุ่งกับบทของเรา ยกเว้นตอนเข้าฉาก ผมจะไม่ว่าเขาเลย ผมเสียความรู้สึกกับเขาเยอะมาก ผมไม่ได้โกรธ ไม่เกลียดเขา แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดถึงผม มันไม่จริงหลายอย่าง"

"และสิ่งที่เขามาเรียกร้องจากผมมันไม่ถูก เพราะเพิ่งคุยแค่อาทิตย์นิดๆ แต่คุณมาเรียกร้องเหมือนเราแต่งงานกันแล้ว จะหาว่าผมไม่รับผิดชอบ ผมไม่รับผิดชอบอะไรล่ะ แล้วมีคนมาบอกผมทีหลังว่า เขามีแฟนอยู่แล้วเป็นสาวหล่อ แบบนี้เหมือนผมโดนหลอกมากกว่าครับ"

"ถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันใหญ่หรือเปล่า มันไม่ใหญ่หรอก แต่เขาเป็นฝ่ายทำให้มันใหญ่เอง"



บทเรียน

"คนรักเราจริงๆ มีน้อยครับ" พระเอกหนุ่ม "สเตฟาน" ตัดพ้อ เมื่อถูกถามว่าความรัก ณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

จากนั้นก็กล่าวอีกว่า "สิ่งที่ผ่านมาปีนึงหลังจากเลิกกับฝน คือถึงแม้ผมจะดูเหมือนคนเจ้าชู้ คุยกับผู้หญิงหลายคน แต่ผมไม่ได้คุยกับผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน ผมโสดแล้วถึงคุยกับผู้หญิงอีกคน ทุกคนเป็นแบบนี้ แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่"

"ผมคบใคร ออกไปไหนข้างนอกกับใคร ผมให้สัมภาษณ์ทุกครั้ง ผมไม่เคยหมิ่นเกียรติผู้หญิงสักครั้งในชีวิตผม แล้วคนนี้ผมจะทำไปเพื่ออะไร" สเตฟานกล่าวถึงสาวคู่กรณี "เอม-เจษยา"

ถามว่าต่อไปศึกษาใครต้องสกรีนคนเยอะขึ้นหรือเปล่า สเตฟานยอมรับ "ต้องสกรีนคนเยอะขึ้นครับ ที่ผ่านมากับคนนี้ก็มีคนเตือนผมเยอะมาก ตอนนี้ผมพูดอะไรไปก็เป็นฝ่ายผิดอยู่ดี พูดทีหลังก็เหมือนแก้ตัว พูดไปก็เหมือนผู้ชายรังแกผู้หญิง ไม่แมนเอาเรื่องส่วนตัวมาพูด เจตนาจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมไม่เคยคิดดูหมิ่นเขาเลย แต่ผมพูดเพราะเขาเป็นคนทำให้ผมต้องออกมาพูดความจริง"

ตอนนี้โสดหรือเปล่า "โสดอยู่ครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยมาก เหมือนผมจุดไม้ขีดแค่เผาของเล็กๆ แต่ไฟมันลุกลามมากเหมือนเราแค่เผากองหญ้านิดเดียว แต่มีคนไปเล่าต่อว่าเรานั่งเผาป่า ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย"

"ผมพูดจริงๆ ว่าผมไม่ได้ทำผิด คนว่าผม ผมยังไม่รู้เลยว่าเราทำอะไรผิด ผิดตรงไหน คนส่วนใหญ่คิดว่าผมไปหลอกเขา แต่ผมไม่ได้หลอกเขาเลย แล้วมีเด็ดกว่านั้นอีกคือเขาไปบอกทุกคนตอนที่ผมไม่สบายว่า ผมไปอยู่กับเขา เขาดูแล มันไม่จริง ผมไม่ได้เจอเขาเลย มันมีเรื่องไม่จริงหลายอย่าง อยากให้ทุกคนเปิดหูเปิดตาบ้างครับ ให้ความเป็นธรรมผมบ้างครับ"

กับเรื่องหัวใจคิดจะโสดอีกนานหรือเปล่า "ผมตั้งใจทำงานดีกว่าครับ"

เรื่องรีเทิร์นกับ "น้ำฝน-กุลณัฐ" นี่มีความเป็นไปได้ไหม พระเอกหนุ่มกล่าวว่า "เรื่องรีเทิร์นกับฝนไม่ได้คิดเลยครับ เราคุยกันเรื่องงานและเรื่องทั่วไป ตอนนี้ทำงานอย่างเดียวแล้วก็พักผ่อนอยู่บ้านครับ"

เจออย่างนี้ก็คงเข็ดไปอีกนาน




"เอม"ทะเลาะ"สเตฟาน"ผู้ชายไม่ดีหันคบทอมดีกว่า

ผ่านงานแสดงมาพอเป็นที่รู้จัก สำหรับนักแสดงสาว "เอม"เจษยา เวียงเกตุ แต่มาเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็เมื่อเปิดศึกฉะ "สเตฟาน" พระเอกที่เล่นละครเรื่อง "สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา" ด้วยกันนี่แหละ

ล่าสุดสาวเอมเปิดใจให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาคลอเบ้า ระหว่างร่วมแถลงข่าว "เอ็มคอท อะคาเดมี่ฯ" ที่อาคารทำการ บมจ.อสมท ตัดพ้อถึงการให้สัมภาษณ์ของพระเอกหนุ่มที่ทำให้ภาพตัวเองเสียหาย อีกทั้งยังยอมรับว่ามีรสนิยมชอบผู้หญิง และกำลังศึกษาดูใจสาวหล่อชื่อ "อิ๊ค"

โดยเปิดประเด็นแจงเรื่องสาวหล่อให้ฟังก่อนว่า "เอมมีเพื่อนเป็นทอมเยอะอยู่แล้ว คนนี้ก็คือคุยอยู่พักนึงแล้ว ถามว่าศึกษาดูใจกันมั้ย ก็อะไรอย่างนั้นค่ะ"

ถามว่าจริงๆ ความสัมพันธ์กับสาวหล่อคนนี้ถือเป็นคนสนิทที่สุดไหม
 เอมยอมรับ "ก็สนิทเลยค่ะ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ถึงขั้นเปิดตัว แต่ส่วนใหญ่มองว่าเอมเปิดตัวคบสาวหล่อ เพื่อกลบกระแสข่าวกับพี่ฟาน"

"จริงๆ เอมกับสาวหล่อรู้จักกันก่อนที่จะรู้จักพี่ฟานอีก อีกอย่างเอมก็ไม่ได้มาบอกใครว่าคบทอม แต่พอมีข่าวก็เลยบอกว่าส่วนใหญ่เอมจะคบทอม และไม่ใช่ว่าได้ทั้งสองเพศ ถ้าผู้ชายไม่ดีมีเพื่อนเป็นทอมดีกว่า ไม่เสียหาย เอมยอมรับรสนิยมส่วนตัวเอนไปทางชอบผู้หญิงด้วยกันมากกว่าค่ะ"



ถึงตอนนี้มองหน้าสเตฟานติดไหม
"ตอนนี้ก็ทะเลาะกันค่ะ แต่ไม่ได้เจอกัน เรียกวˆาต่างคนต่างอยู่ เอมมีถ่ายละคร 2-3 คิวที่ผ่านมาสวนกันตลอด ช่วงนี้บอกตรงๆ ผู้ใหญ่คิดว่าเราค่อนข้างแรงทั้งคู่ เขากลัวจะมีปัญหาในการทำงาน"

แปลว่าบาดหมางกันไปเลย "ด้วยการพูดจาของเอมอาจจะแรง เพราะเอมต้องการเรียกร้องความเป็นจริง บางครั้งมันดูเหมือนแรงมาก แต่ถ้าต้องเจอเขาจริงๆ เอมก็พร้อมทำงานได้ แต่เขาคงจัดคิวไม่ให้เจอกันไปก่อน"

ไม่ได้มีฝ่ายไหนรีเควสต์ไปใช่ไหมว่าไม่อยากเจอกัน "ไม่มีค่ะ เอาตรงๆ หลังจากที่มีข่าวยังไม่เคยเห็นหน้าคนชื่อสเตฟานเลยค่ะ แล้วถ้าต้องร่วมฉากกัน เอมก็พร้อม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เลยกล้าที่จะเจอหน้า"

อยากให้ทางสเตฟานเคลียร์อะไรไหม สาว "เอม" กล่าวเสียงสั่นเครือ "ตรงนี้ต้องเคลียร์ยังไงคะ ภาพเอมมันออกมาเป็นแบบนี้แล้ว เคลียร์ไปยังไงเอมก็เสียอยู่แล้ว เอมก็เลยแค่อยากให้คนเชื่อเอมบ้างว่าพูดความจริง"

พอมีสงครามน้ำลายเกิดขึ้นโดนวิจารณ์ทางลบเยอะหรือเปล่า
"เยอะมากค่ะ ไม่มีอะไรที่เป็นบวกอยู่แล้ว จริงๆ เอมไม่ได้เป็นคนชอบอ่านข่าว แต่บางทีก็เข้าไปดูรูปตัวเองเวลาไปงานบ้าง แต่เดี๋ยวนี้แทบจะไม่เข้าเลย เข้าไปดูก็โดนด่าว่าเกาะผู้ชายดัง ซึ่งอยากบอกว่าดังแบบนี้มันควรจะดังมั้ย สร้างกระแสให้ตัวเองเสีย เอมได้อะไร หลังเป็นข่าวเคยส่งเมสเสจไปบอกเขาว่าพูดอะไรก็ได้ อย่าให้เอมเสีย แต่ที่หนูเสียใจคือที่เขาบอกว่าคุยกันไว้ เตี๊ยมกันไว้ แต่ทำไมเอมพูดอย่างนึง"

"เอมพูดความจริงไปหมดแล้ว ทำดีที่สุดแล้ว แต่เขามาให้ข่าวว่าตอนแรกว่าจะจีบหนูจริงจัง คุยกันเตี๊ยมกัน แต่ถ้าเอมพูดแบบนี้ก็ไม่อยากจีบแล้ว ซึ่งหนูไม่ได้พูดว่าเขาจะจีบ หลังจากนั้นหนูก็ไม่ได้เจอสื่อ"

มีผู้ใหญ่เรียกไปคุยไหม "ผู้ใหญ่ไม่ค่อยรู้ด้วยซ้ำ รู้จากข่าวนี่แหละ เขาก็ไม่กล้าถาม ผู้ใหญ่คงเข้าใจว่าเอมก็ต้องออกมาแก้ตัวในสิ่งที่ตัวเองเสียหาย เขาก็พูดส่วนของเขา หนูก็พูดได้เท่าที่เรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ ค่ะ" เอมย้ำ



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์