จับผิด! เอ๋ สามี ตู่ มีอะไรกับ โย จริงหรือ!?!

ตกเป็นกระแสเมาธ์ของแวดวงสังคมมาเนิ่นนานเกือบครึ่งปีแล้ว

กับเรื่องราวของความสัมพันธ์ของนางแบบสาว “โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร” และ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ที่หลายคนสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ โดยเฉพาะภาพถ่ายล่าสุดที่ฉายภาพของ “โย-ยศวดี” และ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์”กำลังโอบกอดกันนั้น 

“โย”ถึงกับออกมาเคลียร์ข่าวว่า

“เรื่องรูปนั้นไม่มีอะไรหรอกค่ะ เราฟังจากพี่นักข่าวนึกว่าเป็นภาพตัดต่อ แต่คงจะนำมาจากเว็บไซต์ที่เพื่อนเล่นกัน แล้วก็มีภาพหลุดออกไป ยอมรับว่าไปทะเลด้วยกันจริงค่ะ แต่มีเพื่อนๆถ่ายร่วมอยู่ด้วยแต่เขาคงจะดึงมาแค่ 2คน ในรูปจะเห็นว่าโยใส่บิกินีแต่ข้างล่างใส่กางเกงขาสั้นนะคะ ไม่ได้สวีทหวานนะคะ ยืนยันว่าโยกับคุณเอ๋นั้นเป็นเพื่อนกัน”

โดยส่วนตัวแล้วต้องยืนยันในความสัมพันธ์ว่าโยกับคุณเอ๋นั้น

ต่อข้อถามที่ว่า “โย”ได้เคลียร์กับ “ตู่-นันทิดา” ภรรยาของ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์” หรือยัง  “โย”กล่าวเสียงเรียบว่า

“ไม่มีใครรู้ความจริงว่าอะไรคืออะไร ครอบครัวเขาอาจจะมีความสุขมาก ซึ่งก็ไม่มีใครทราบ โยถือว่าถ้าเราคุยกันแล้ว ทุกฝ่ายก็เข้าใจกันเอง  แต่มีข่าวว่าโยเป็นมือที่สาม ขอตอบได้ทันทีว่าโยคงจะเป็นมือที่สามในชีวิตใครไม่ได้เด็ดขาดเพราะคุณเอ๋มีภรรยาแล้ว แต่งงานแล้ว การเป็นมือที่สามมันผิดมากนะคะ การไปทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกไม่ถูกต้อง โยยืนยันว่าเราเป็นเพื่อนกันจริงๆค่ะ”

การที่มีภาพข่าวออกมาเช่นนี้เป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะกับละครเรื่อง “กรุงเทพฯราตรี”

ที่ “ตู่-นันทิดา” ภรรยาของ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์” ที่แสดงเป็นนางเอกชื่อ “พิไล” นั้นแพร่ภาพทางช่อง 3พอดี จึงมีคนตั้งประเด็นข้อสังเกตว่าชีวิตในละครเรื่องนี้กับชีวิตจริงของ “ตู่-นันทิดา” นั้นก็คงไม่แตกต่างกัน  โดยเฉพาะเรื่องของความเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจของ  “พิไล” ตัวเอกในละคร แต่นั่นก็เป็นพียงแค่ข้อสังเกต เพราะอย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่การแสดงจะมีส่วนคล้ายกับชีวิตจริง

บางคนคิดไปเลยเถิดถึงขั้นว่าน่าจะป็นกระแสโปรโมทละคร

แต่ประเด็นนี้คงตกไปเพราะคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะนำเรื่องราวเหล่านี้มาโปรโมทละคร และอีกประการหนึ่ง..ละครเรื่องนี้ก็ได้รับความนิยมในวงกว้างของผู้ชมอยู่แล้ว

ตู่-นันทิดา แก้วบัวสายได้ไขข้อความจริงถึงเรื่องนี้กับนักข่าวว่าเธอยังไม่เห็นข่าวและยังไม่เห็นภาพ

“คราวที่พี่เอ๋ไปเที่ยวพัทยาเค้าก็โทรมาบอกว่าอยู่กับเพื่อนๆ แต่ไม่ทราบว่ามีน้องโยไปด้วย ภาพที่เกิดขึ้นตู่ก็ยังไม่ได้ถามคุณเอ๋”

จนมีคนตั้งข้อสังเกตว่า “ตู่-นันทิดา”นั้นเป็นผู้หญิงที่ใจกว้าง เธอบอกว่าถือเป็นเรื่องปกติที่คนจะมองกัน

“ต้องบอกตรงๆนะคะว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่เข้ามาในชีวิตแล้วทำให้ชีวิตเราไม่มีความสุข ชีวิตเราควรเลือกเห็นเฉพาะที่มีความสุขมันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดนะ ตรงนี้ถ้าอยากให้พูดให้ตอบยังไง คิดว่าน่าจะไปให้คุยกับพี่เอ๋ดีกว่านะคะ”

“นันทิดา”ยังพูดถึงสามีของเธอว่า

เธอให้อิสระในการดำเนินชีวิตกับสามี เหมือนเป็นการให้เกียรติกัน เราไม่ปฏิเสธหากจะมีข่าวคราวแบบนี้บ้าง เพราะหลังๆพี่เอ๋ไปกับคุณโยก็เป็นเพื่อนกัน คนเป็นเพื่อนกันไปไหนมาไหนกันเป็นกลุ่มก็ได้ เรื่องภาพที่ “โย” และ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์” โอบกอดกันยังไม่ทันได้ซา กลับมีคนเห็นว่า ทั้ง “โย” และ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์”ไปทานข้าวกันที่ดิเอ็มโพเรียม

เหมือนเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของ “ตู่-นันทิดา”อย่างรุนแรง

“เรื่องนี้ ขอไม่ออกความเห็นดีกว่านะคะ เพราะตรงนี้เป็นเรื่องที่นอกเหนือการดูแลของเราแล้ว แต่ยังไงก็อยากให้คุยกับคุณเอ๋มากกว่า สำหรับตัวเราข่าวก็คือข่าว ก็คงทำอะไรไม่ได้ จริงเท็จยังไงไม่รู้ แต่ที่ดีที่สุดเวลาพี่เอ๋อยู่ในบ้านเราดูแล แต่อยู่นอกบ้านก็คงต้องปล่อยให้เป็นชีวิตของแต่ละคน เราเชื่อว่า โตๆกันแล้ว มีครอบครัวแล้วคงไม่ต้องบอกอะไรมาก คือมองตาก็รู้กันแล้วล่ะ”

สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ “โย-ยศวดี”ที่บอกว่า

“คุณตู่เขารู้ค่ะว่าโยไม่ใช่แฟนคุณเอ๋ เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”

ซึ่งยังคงเป็นปริศนาคาใจของประชาชนกันต่อไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสามคนนี้

ในเมื่อ  “โย-ยศวดี” ขอยืนยันจากใจจริงว่าความสัมพันธ์ของเธอกับ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์” นั้นเป็นพียงแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น แต่ในขณะที่ “นันทิดา”ขอเลือกที่จะปิดหูปิดตา ยึดถือการให้เกียรติคนเป็นสามี  มีน้ำใจดุจประหนึ่ง “แม่พระ” ในขณะที่ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์” กลับปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรใดๆทั้งสิ้น