งงเลย !!! โอม เลิก ดา ทำไรรู้อยู่แก่ใจ

"โอม โปเตโต้" ลั่นถึงแฟนเก่า "ดา เอ็นโดรฟิน" ใคร


ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ ไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้แต่ทิ้งไว้ปริศนาว่าความลับไม่มีในโลก อ้อมแอ้มไม่ตอบว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ ยืนยันตอนนี้สุขภาพจิตแข็งแรงดีทุกประการ เผยที่ผ่านมาทำให้รู้ว่า ช่วงอ่อนแอยังมีคนรอบข้างที่รักเราอยู่เสมอ


กลายเป็นเรื่องจากกันไม่ค่อยดีเสียแล้ว


สำหรับความรักระหว่างคนดนตรีระหว่าง "ดา ธนิดา ธรรมวิมล" นักร้องสาววงเอ็นโดรฟิน กับมือเบสวงโปเตโต้ "โอม ปิยวัฒน์ อนุกูล" หลังจากคบหาดูใจกันมาเกือบหนึ่งปี ทำเอาสภาพจิตใจของมือเบสหนุ่มไม่ค่อยแข็งแรง ในระหว่างการทำงานอัลบั้มใหม่ของโปเตโต้เลยทีเดียว


จนล่าสุดที่งานเปิดตัวอัลบั้มใหม่ Sense


ของสี่หนุ่มโปเตโต้ หนุ่มโอม ก็เผยถึงเรื่องราวความรักที่ผ่านมาว่าตอนนี้สบายดีแล้วทุกอย่าง เรื่องการเปลี่ยนแปลงทรงผมไม่เกี่ยวกรณีเลิกราแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นคนชอบเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ส่วนเรื่องซึมเศร้านั้นมีบ้าง ยอมรับเพื่อนเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างตลอด 24 ชั่วโมง


สบายดีครับ ระหว่างทำงานผมยิ่งสบายใจ


"เพราะว่ามันสบายเกินเลยครับ อย่างเรื่องที่เปลี่ยนทรงผมนี่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องจิตใจเลยครับ ช่วงเพี้ยนๆ ผมก็ตัดผม เปลี่ยนทรง ผมมักจะทำอะไรเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หัวใจก็เปลี่ยนครับ ตอนนี้ก็แข็งแรงดีมากแล้วครับ ทุกอย่าง"


กว่าจะผ่านช่วงภาวะจิตใจไม่แข็งแรงนั้นเหรอครับ


"โอ้ย เพื่อนผมดี ผมมีแต่เพื่อนที่ดี คนที่อยู่กับผมนั้นดีหมดเลยครับ ถามว่าซึมเศร้าไหม เสียใจมันก็ต้องมีบ้างนะ เป็นธรรมดา ส่วนเรื่องที่เพื่อนให้กำลังใจผม มันก็มีบ้าง แต่ผมลืมไปหมดแล้วนะครับ คือเรื่องอะไรที่มันไม่ดี ผมไม่ค่อยจำหรอกครับ"


แต่รู้ว่าเพื่อนให้กำลังใจ


"เพื่อนอยู่กับผมตลอด มีอะไรโทรไปหามันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ก็โทรไปไม่บ่อยเท่าไรนะ อย่างเพื่อนในวงไม่ค่อยเท่าไร แต่กับเพื่อนข้างนอกนี่จะซวยเป็นพิเศษ เพราะมันต้องมานั่งอยู่กับผม 24 ชั่วโมง ผมลืมไปหมดแล้วครับ เพราะช่วงนี้ผมเฉยๆ แล้ว"


โบ้ยเรื่องผลกระทบการทำงานให้ไปถามเพื่อนในวง


แต่ยอมรับมาลงกับดนตรีเหมือนกัน "เรื่องผลกระทบกับการทำงานในอัลบั้มใหม่นี้ ต้องถามเพื่อนครับ เพราะว่า ช่วงนั้นเพื่อนบอกว่า มึงเป็นอย่างนี้ก็เล่นเบสดีเหมือนกัน ผมก็ อ้าว เหรอไม่รู้เหมือนกัน คือเรื่องนี้ต้องไปถามเพื่อนอีกสามคนในวงครับ เพราะผมเป็นคนเล่นออกไป แต่ถ้าสมมุติว่า ถามว่ามีผลกระทบกับการทำงานไหม การทำงานนี่เรามีอยู่สี่คนมาทำงานด้วยกันไงครับ ผลกระทบก็ต้อง แต่ผมเล่นได้ตลอดอยู่แล้วครับ"


เวลาเศร้าๆ ก็มาใส่กับดนตรีครับ


ช่วงนั้นรู้สึกได้เลยว่าเล่นดนตรีแล้วมีความสุข สนุกสุดๆ ไปเลย ถึงตอนนี้ก็ยังสนุกอยู่ครับ เป็นบางวัน"

เฉไฉเกี่ยวกับกรณีเลิกรา ปิดเงียบไม่พูดถึงสาเหตุ บอกใบ้เพียงใครทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจ..."จากกันด้วยดีไหม ผมไม่รู้แล้วกันครับ ถือว่าไม่ทราบแล้วกัน แต่ตอนนี้สบายใจดีมากเลยครับ"


ดีที่เป็นแบบนี้ ดีแล้วครับ


" มีคำอยู่คำหนึ่ง ที่บอกว่า ดีที่มันเป็นแบบนี้ภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว ถ้าสมมุติมันนานกว่านี้แล้วมันเพิ่งมาเป็น มันจะแย่กว่านี้ ดีกว่านานไปแล้วเป็น ถ้าสมมุติเป็นอย่างนี้ เป็นเร็วๆ ยิ่งดี"


มันเกิดจากสาเหตุใด


"ผมไม่ขอพูดดีกว่าครับ ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ บอกได้คำเดียวว่าทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ คนก็รู้เยอะแยะครับ แต่ผมขอไม่พูดดีกว่า เพราะพูดไปก็ไม่รู้จะพูดทำไม ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจครับ ต้องหาข่าวจากคนอื่นครับ ไปสืบเอง ผมไม่พูดดีกว่า ผมพูดก็ดูไม่ดี"


ตอนเจอกัน ผมก็เฉยๆ ครับ


มองหน้าก็มองเฉยๆ คุยก็คุยได้นะครับ แต่ผมเฉยๆ เขาก็ไม่เข้ามาคุยนะ ผมก็ไมได้เข้าไปทักเขา เพราะผมเป็นคนเฉยๆ คือจะให้ผมพูดมันก็ยากไงครับ ผมขอไม่พูดดีกว่า


แต่บอกได้แค่ว่า


ใครทำอะไรไว้มันก็รู้อยู่แก่ใจใช่ไหมครับ ความลับมันไม่มีในโลกหรอก ความจริงก็คือความจริง มันอยู่ที่ว่าจะยอมรับความจริงได้แค่ไหนเท่านั้นเอง ผมไม่โกรธ ไม่แค้นด้วยครับ เพื่อนผมยังบอกเลยครับว่าเร็วๆ ดีแล้ว ดีกว่ามันนานไป"


เรื่องประทับใจต่อกันลืมไปหมดสิ้น


แต่ยืนยันไม่ติดค้างอะไรต่อกันแล้ว ซึ้งใจคนรอบข้าง เวลาล้มยังมีคนคอยให้กำลังใจ ยอมรับรักผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา ถือเสียว่าเป็นแค่ละครสั้น..."คบกันเกือบๆ ปีครับ เรื่องประทับใจในตัวเขา ตอนนี้ผมลืมไปหมดแล้วครับ ผมมองหน้าเขาน่ะมองได้ครับ ถ้าไม่มองหน้าจะให้มองอะไรหล่ะครับ ไม่ติดค้างอะไรกันแล้วครับ"


ไม่รู้จะคุยกันเรื่องอะไร ???


ถึงมีโอกาสเจอกันก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร ผมไม่เคยคุยกันเรื่องดนตรีอยู่แล้ว เพราะปกติแค่คุยกันเรื่องดนตรีในวง เขาคุยกัน ผมยังนั่งฟัง เหรอๆ เล่นไงเหรอ อ๋อ เล่นเป็นครับ แต่อธิบายพูดไม่เป็นครับ"


เหมือนเล่นได้ แต่ผมเขียนไม่ได้


เพราะทฤษฎีผมไม่มี ผมเป็นคนพูดน้อยมั้งครับ ถ้าจะเอาเรื่องที่เป็นสาระแล้วให้ผมพูด ผมไม่สามารถที่จะนั่งอยู่เฉยๆ แล้วบิวท์อารมณ์ให้มันเป็นสาระได้ นอกจากสนุกเฮฮาและสังสรรค์ในเวลานั้น ผมเป็นคนแปลกครับ"


ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาในหัวใจหรอกครับ


"ผมไม่ได้ปิดนะครับ ผมเปิดตั้งนานแล้วครับ คือวันที่ผมล้ม ผมยังดีใจที่มีคนคอยอยู่ข้างๆ ผมนะ มีคนที่อยู่ข้างๆ ผมเยอะ ผมรู้สึกว่า อ๋อ ไอ้คนพวกนี้มันรักกูดีเนอะ นั่นแหล่ะครับ ก็อย่าลืมให้ความรักกับคนที่รักเราแล้วกัน"



มันเป็นเรื่องธรรมดามั้งครับ


" บางทีมันก็ต้องมีผิดหวังบ้าง ถ้าสมมติมันสมบูรณ์แบบ รักมันสมบูรณ์แบบมันก็คงจะดีหน่ะครับ แต่อันนี้มันก็คือถือว่าเป็นละครสั้นแล้วกันครับ"



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์