คุยกับหลินอี้เฉิน กับชีวิตหลังผ่าสมอง

ทราบหรือไม่ว่าเกิดมาจากสาเหตุอะไร

หลินอี้เฉิน : คุณหมอบอกว่า มันเกิดจากภาวะความเครียดค่ะ สมัยนี้ผู้หญิงในวัยฉันเป็นโรคนี้กันเยอะขึ้น  ฉันนับเป็นคนไข้รายที่ 4 ของคุณหมอแล้วที่พบว่ามีอาการเดียวกัน

มีอาการข้างเคียงหลังการผ่าตัดหรือไม่

หลินอี้เฉิน : แน่นอนค่ะ หลังผ่าตัด อารมณ์ฉันจะขึ้นๆ ลงๆ บางทีก็เป็นสุข ยิ้มเหมือนคนบ้า  แต่บางทีก็ซึมเศร้า ซึ่งใช้เวลากว่า 2 เดือนถึงจะกลับมาเป็นปกติ

หลังเข้ารับการรักษา มีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปบ้างไหม

หลินอี้เฉิน : ลักษณะภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายค่ะ  แต่เดี๋ยวนี้ ฉันรู้จักที่จะผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกเครียด ฉันจะพยายามหาพื้นที่ให้ตัวเองได้หายใจสะดวก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเครียดมาก อีกอย่าง ตอนนี้ฉันเริ่มคิดที่จะมองหาคนรู้ใจบ้างแล้วล่ะค่ะ  เพราะตลอดเวลาที่ป่วย ฉันนึกอยู่เสมอว่าคงจะดีไม่น้อย ถ้ามีแฟนมาคอยดูแลและให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ

ปัจจุบันมีศิลปินดาราหลายคนที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ คิดว่ามันเกี่ยวเนื่องกับสายอาชีพหรือไม่ อย่างไร

หลินอี้เฉิน : วงการบันเทิงก็เหมือนกับสังคมย่อยๆ สังคมหนึ่ง  มีการแก่งแย่งแข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งท้ายที่สุดมันก็นำพาความเครียดเข้ามาให้  พยายามอย่าใส่ใจไปกับทุกความรู้สึกมากนัก จะได้ไม่ต้องเครียดมาก แล้วก็อย่าคิดว่าตัวเองสบายดี ภายนอกอาจจะดูปกติ แต่ใครจะรู้ว่าภายในร่างกาย เรามีอะไรผิดปกติไปหรือเปล่า บางสิ่งบางอย่าง มันก็ยังไม่แสดงอาการออกมา ฉะนั้นควรหมั่นไปตรวจเช็กร่างกายทุกปี เสียเวลาแค่วันเดียว อาจจะต่อชีวิตคุณได้อีกยืนยาว

นับว่าเป็นโชคดีของดาราสาว ที่ไม่ได้มีอาการร้ายแรงอะไรมากมาย และใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่นาน  จากนี้ก็หวังว่า สุขภาพของเธอจะแข็งแรงขึ้นทุกคืนวัน พร้อมลุยงานได้อย่างเต็มที่ล่ะกันจ้า