คุณกรณ์ ลุยKPN23 รับกดดันปรับรูปแบบ

สำหรับ กรณ์ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร KPN ที่ล่าสุด ออกมาเปิดใจถึงน้องผู้เข้าประกวด KPN Award ครั้งที่ 23 ว่า

"ปัจจุบันรายการประกวดร้องเพลงมีเยอะมาก KPN สมัยก่อน เน้นเรื่องร้องอย่างเดียว แต่พอมีรายการอื่นโผล่มา ต้องยอมรับว่ากระแสคนดูเสียงอย่างเดียวมันไม่ได้รับความนิยม มันก็ต้องมีการอัดอั้นตันใจ ในฐานะคนทำอยากได้คนเสียงดีไหม ก็อยากได้ แต่พอมาเลือกหน้าก็อัดอั้นตันใจมาก พอมาปีนี้ก็เสียงครึ่งหนึ่งหน้าครึ่งหนึ่ง ถามว่ากดดันไหม ที่คนอาจจะมองว่าเหมือนหลาย ๆ รายการ แต่ผมมองว่าไม่เหมือนเลยนะ ไม่มีรายการไหนเลย ที่เสียงและหน้าดีเท่ากันทั้ง 2 ฝั่ง คือเวทีนี้ ให้โอกาสกับทุกคน แต่ปีนี้เราให้โอกาสกับคนที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่หน้าตาไม่ดี กับหน้าตาดี แต่ร้องเพลงแทบไม่ได้ คือเราให้โอกาสให้ความฝันกับทุกคน ถามว่าพอเปลี่ยนแปลงมันยากไหม ก็ยากครับ เพราะว่า KPN มีมาหลายปีแล้ว ปีแรกที่เปลี่ยนก็โดนด่าเสียศูนย์เลย งงไปเลย ไม่รู้จะไปทางไหน แต่ว่าก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ว่าสปอนเซอร์ที่อยู่มาก็ยังอยู่กับเราหมด ยอดโหวตก็ดีขึ้น อันนี้ก็เป็นยอดวัดที่ดี แน่นอนว่าจะให้ถูกใจทุกคนคงไม่ได้ ก็ต้องมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่ก็ถือว่ามาถูกทางพอสมควรครับ ปีนี้ก็ทำงานง่ายนิดนึง เพราะว่ามีพี่ชมพู ที่ทำงานมากับเรา 4 ปีแล้ว พี่ชมพูจะค่อนข้างมองแตกพอสมควร เด็กแบบไหนที่อยู่บนเวทีแล้วจะเวิร์ค ปีนี้ก็จะได้มีความหลากหลายมากขึ้น แวว 10 คนในปีนี้อันหนึ่งที่มันมีปัญหาทุกปี คือเด็กบางคนเวลาซ้อมดีมาก แต่พอขึ้นเวทีขนาดใหญ่ ตื่นแล้วพัง หาวิธีแก้อยู่ แต่ไม่รู้จะแก้อย่างไร ก็บอกกรรมการเหมือนกันว่าอยากได้คนที่เอาอยู่จริง ๆ เท่าที่มองก็มีหลายคนเหมือนกัน อย่าง น้องพลอย เขาก็มีความมั่นใจ อย่างลูกตาล ก็อาจจะได้มีความได้เปรียบ เพราะว่าเขาเคยเล่นละครเวทีมา 3 เรื่อง ความตื่นบนเวทีอาจจะน้อยลง

สำหรับน้องๆ ที่เป็นลูกคนมีชื่อเสียง ถามว่าเป็นลูกคนมีชื่อเสียงช่วยไหม ก็ช่วย แต่ถามว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ก็อยู่ที่ความสามารถของน้องเหมือนกัน เพราะว่าบางคนเป็นลูกคนมีชื่อเสียง นักร้องดารา แต่ก็ไปไม่ถึงฝัน ต้องยอมรับว่าวงการ น้องๆ ดารา มีการแข่งขันเยอะมาก เด็กที่จะอยู่ได้นาน ต้องเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้น ไม่หยุดเรียนรู้ และเราเตือนเด็กเราว่าอย่าลืมตัว หลงวงการมายา เราจะเตือนตลอด ว่าทุกวันนี้คนเก่งมีเยอะแยะ แต่คนเก่งและที่ดีมียาก อย่าง น้องบี้ เอง ก็ดีใจและพอใจ คือมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อย่าง ไต้ฝุ่น เองเค้าก็มีละครกับช่อง 3 ถึง 4 เรื่องด้วย ปีแรกๆ เราก็มีท้อบ้าง แต่ว่าตอนนี้ก็เริ่มโอเคแล้วครับ"