คิมฉีกตัวเอง-คุ้มเหนือย ชั่วโมงบินยิ่งสูงยิ่งต้องฟิตหนัก

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย คิมฉีกตัวเอง-คุ้มเหนือย ชั่วโมงบินยิ่งสูงยิ่งต้องฟิตหนัก

แค่ละครออกอากาศมาตอนแรกก็ทำเอาชาวบ้านชาวช่องติดกันงอม กับบทบาทการแสดงที่ฉีกไปจากเดิมของนางเอกสาว "คิม"คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส ในละคร "ปัญญาชนก้นครัว" ทางช่อง 3 ในบทนักศึกษาสาว "เอมิกา" ที่ปลอมตัวมาเป็นสาวใช้ "ชะเอม" ผลงานละครเรื่องแรกของนางเอกสาว "แอน ทองประสม" ในฐานะผู้จัด

ถือเป็นการฉีกคาแร็กเตอร์ของหนูคิมจากนางเอกหวานเรียบร้อย มาเป็นสาวไฮเปอร์ เก่ง ฉลาด ทันคน

งานนี้เลยพลาดไม่ได้ที่ต้องพูดคุยกับเธอ

เป็นอย่างไรบ้างกับการพลิกบทบาทในละคร "ปัญญาชนก้นครัว"

คิม - "ตอนนี้มีแต่ คำชมค่ะ (หัวเราะ) ไปไหนมีแต่คนเรียกชะเอม ดีใจที่คนดูอินในตัวละคร ถือว่าเราเองก็ทำได้ดีพอประมาณ ซึ่งเรื่องนี้พลิกบทบาทมาก ทุกคนไม่คิดว่าคิมจะเล่นอะไรแบบนี้ได้"

กดดันไหมพอมาเล่นละครรีเมก

คิม - "ณ ตอนนี้ที่ออนแอร์ไป 3 วัน ยังไม่มีคนมาคอมเมนต์ว่าเราหรือเอามาเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นที่แล้วเลย อย่างที่พี่แอนเคยบอกไว้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับความรัก และพี่แอนก็ทำออกมาให้เป็นการ์ตูนมากขึ้น มันเลยออกมาแล้วไม่เหมือนเวอร์ชั่นเก่า คิมไม่เคยไปดูเวอร์ชั่นก่อนเพราะกลัวติดภาพของเก่าที่พี่แอนเคยเล่นค่ะ"

คิดว่าตัวเองสอบผ่านไหม

คิม - "เรื่องนี้ถ้าให้คะแนนเต็ม 100 คิดว่าจะให้ตัวเอง 60 คะแนน (หัวเราะ) ที่เหลือต้องให้คนดูตัดสินเราดีกว่าว่าเราเล่นได้พัฒนามากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้คิมได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้เยอะมาก เป็นละครเรื่องที่ 4 ของคิมแล้ว ตัวละครเอมิกาที่คิมเล่นต้องเล่นเป็นคนที่พูดเร็ว ไฮเปอร์ จังหวะต่างๆ เร็วหมด แล้วคิมเองเป็นคนที่สมองช้า พี่แอ๊ว (อำไพพร) ผู้กำกับฯ ก็พยายามจะขยี้เราให้ทำออกมาให้ได้ เรียกว่าหนักเหมือนกัน ต้องทำการบ้านเยอะมาก"

"ถามว่าติดใจไหมกับบทบาทนี้ ก็ติดใจนะคะ แต่ก็เหนื่อยกว่าเรื่องอื่นที่เคยเล่น เพราะจะมีมูฟเมนต์เยอะกว่า เรื่องนี้ใช้พลังเยอะมาก ในเรื่องต้อง เป็นคนโวยวาย เวลาพูดต้องตะโกนมากขึ้น ก็ยากเหมือนกัน"

ฟีดแบ็กเป็นอย่างไร

คิม - "กระแสตอบรับดีมากค่ะ ดีใจมากๆ เลย เพราะเรา เต็มที่กันมากๆ เรื่องนี้ตัวนางเอกเป็นตัวดำเนินเรื่อง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีเอมิกาในเรื่อง 99% และทุกวันต้องมี เอมิกาประมาณ 20-30 ฉาก เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่ตรงนั้นทุกวัน เต็มที่กับมันทุกวัน เรียกว่ากระแสตอบรับออกมาเป็นแบบนี้ก็หายเหนื่อยค่ะ ถือว่าคุ้มและอยู่ในระดับที่โอเคมากๆ พอใจมากๆ เลยค่ะ"

ผลงานตอนนี้มีอะไรบ้าง
คิม - "ตอนนี้มีละครเรื่อง "แรงปรารถนา" และ "ต้นรักริมรั้ว" ที่ใกล้จะปิดกล้องแล้วค่ะ คาแร็กเตอร์เรื่องแรงปรารถนา คิมจะเป็นผู้หญิงขี้วีน ขี้เหวี่ยง แต่ทุกอย่างที่ทำคือเขาต้องการให้พระเอก (ณเดชน์) หันมาสนใจ เพราะได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นมาพระเอกมีแฟนเราก็เริ่มหึง แต่เรายังไม่รู้ใจตัวเอง เลยทำทุกอย่างเพื่อแย่งพระเอกกลับมา เรื่องนี้จะออกแนวร้ายๆ หน่อย เพราะต้องเล่นเป็นคุณคิมขี้วีน ขี้เหวี่ยง"

"ส่วนเรื่องต้นรักริมรั้ว จะเล่นเป็นสาวออฟฟิศและโดนบังคับให้แต่งงาน เพราะย่ากำลังจะเสียเลยขอให้แต่งงานกับพระเอกด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้กัน เราเลยต้องแต่งงานกันเพราะความจำเป็น แต่พอคุณย่าเสียไปแล้วก็หย่ากัน จากนั้นพระเอกก็ไปเรียนต่างประเทศ และนางเอกต้องไปขอพระเอกให้กลับมาแต่งงานกันอีกรอบนึง เพราะเหตุจำเป็นเรื่องงาน โดยไม่รู้ว่ารักกันตอนไหน เรื่องนี้คิมเล่นเป็นสาวออฟฟิศที่มีระเบียบ"

ช่วงนี้ทำงานหนัก แบ่งเวลายังไงบ้าง

คิม - "ตอนนี้ก็พยายามหาเวลาให้ตัวเองอยู่คนเดียวบ้าง ก็มีเหนื่อยบ้าง แต่เรารักในอาชีพการแสดง ในแต่ละวันเจออะไรเยอะแยะมันก็สนุกดี"

"ถามว่ามีงอแงบ้างไหมเวลาทำงาน ก็มีบ้างค่ะ เวลาง่วงแล้วอยากนอน (หัวเราะ) เพราะคิมเป็นคนขี้เซา เวลาที่ต้องตื่นตี 4 ตี 5 ก็มีอารมณ์อยากนอน อยากกลับบ้าน จนพี่หมาก (ปริญ) ต้องคอยกระตุ้นบอกว่า เฮ้ยคิมอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวก็จบแล้ว"

วันนี้เข้าใจคำว่านักแสดงมากขึ้นไหม

คิม - "เข้าใจว่ามันยากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ (หัวเราะ) เพราะถ้าเรายิ่งแสดงเรื่องต่อๆ ไปเรายิ่งต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อไม่ให้คาแร็กเตอร์ออกมาเหมือนๆ กัน ถ้าเราอยากให้มันแตกต่างเราต้องทำการบ้าน มันเลยยากตรงนี้ ตอนนี้ก็ถือว่าเราก็เข้าใจในการแสดงมากขึ้นว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดเลย ต้องทำการบ้านเยอะมาก เพราะมันไม่ใช่การแสดงไปวันๆ แต่มันต้องใช้ความรู้สึก ต้องใช้พลังในร่างกายของเราให้มากขึ้น เพราะละครเรื่องแรกคนก็พร้อมจะให้อภัย แต่พอมันเป็นเรื่องที่ 2, 3, 4, 5 เขาก็หวังให้เราพัฒนาขึ้น ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้ว"

คิดว่าเรายังต้องพัฒนาเรื่องไหนบ้างในเรื่องการแสดง

คิม - "คิมยังต้องปรับอีกเยอะ เลยค่ะ เพราะคิมรู้สึกว่าตัวเองยังใหม่มาก และด้วยความที่เราเป็นคนที่สมองช้าเลยทำให้เรียนรู้อะไรช้า เลยทำให้เสียเวลา เราเลยต้องปรับในเรื่องความกระตือรือร้น แต่เรื่อง "ปัญญาชนก้นครัว" จะเห็นว่าเราขยับก้าวเข้ามาดีขึ้นเยอะเลย (หัวเราะ) อีกเรื่องการพูดเร็ว เพราะเราจะเป็นคนที่พูดเร็วและรัวเลยทำให้มันออกมาไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ทำให้คำมันดูเพี้ยน เวลาพูดเร็วทำให้เสียงดูเป็นโทนเพี้ยนๆ นิดหน่อย เรื่องคำควบกล้ำมันเลยยังไม่เนียน"

อยู่วงการมา 3 ปี พอใจในจุดนี้หรือยัง

คิม - "เราไม่เคยคิดตั้งแต่ตอนแรกว่าเราจะได้มาเป็นนางเอกอยู่แล้ว แต่พอได้มาอยู่จุดนี้แล้วเราก็ทำให้มันเต็มที่ที่สุด ทุกวันนี้ก็ดีใจที่ผลลัพธ์มันออกมาดีแบบนี้ และก็เป็นความฝันของเราอยู่แล้วว่าอยากจะเป็นนักแสดงค่ะ"

คาดหวังอนาคตในวงการบันเทิงอย่างไร

คิม - "คาดหวังว่าเราอยากจะแสดงแบบนี้ไปเรื่อยๆ อยากให้ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา เพราะเราก็ยังอยากเป็นนักแสดงอยู่แบบนี้อีกต่อไปค่ะ"

เล่นดีซะขนาดนี้ มีหรือผู้ใหญ่จะไม่ให้โอกาส

ยังไงก็เพื่อน

โด่งดังมาพร้อมๆ กับนางเอกสาว "ญาญ่า"อุรัสยา สเปอร์บันด์ หลายคนเลยจับให้เป็นคู่แข่งกัน ซึ่งนางเอกสาว "คิม"คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เผยถึงเรื่องนี้ว่า

"ข่าวก็มีออกมาแบบนี้เรื่อยๆ จับเราเอาไปคู่กับคนโน้นคนนี้เป็นเรื่องธรรมดา และด้วยความที่เราสนิทกัน มันจะไม่มีอะไรมากระทบเราได้หรอกค่ะ เพราะมันเป็นแค่ข่าว"

ญาญ่าบอกว่าเขาสนิทกับเรามากที่สุด แล้วเราล่ะสนิทกับญาญ่าที่สุดไหม คิมรับ "สนิทที่สุดค่ะ เมื่อก่อนเวลาจะไปไหนมาไหน จะไปช็อปปิ้ง กินข้าว หรือไปพัทยาด้วยกันบ่อย เพราะช่วงนั้นเราถ่ายละครด้วยกันเลยจะมีเวลาว่างตรงกัน แต่ตอนนี้ถ่ายละครกันคนละค่าย เลยทำให้เวลาไม่ตรงกัน แต่ก็มีนานๆ ทีรวมแก๊งไปกินข้าวกันเหมือนเดิม คือมันไม่มีอะไร ก็อยากให้แฟนๆ บางคนที่เอาข่าวมาออก อยากให้เปิดโอกาสและเข้าใจเราว่าเราไม่ได้เป็นคู่แข่งหรือศัตรูอะไรกันนะคะ เราเป็นเพื่อนกันค่ะ"

มีทั้งข่าวที่เป็นคู่แข่งกัน และมีเรื่องที่แฟนคลับคิมไปโพสต์ว่าญาญ่าในอิน สตาแกรม คุยกับ ญาญ่าบ้างไหม "ไม่ได้คุยค่ะ เพราะเราก็โดนเหมือนกัน ก็ไม่อยากพูดถึง ซึ่งคำที่เขามาคอมเมนต์ว่าในอินสตาแกรมมันแรง ก็คงไม่ใช่แฟนคลับของญาญ่าหรอกค่ะ แล้วคนที่ไปว่าญาญ่าก็คงไม่ใช่แฟนคลับของคิมแน่ๆ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาทำลายความเป็นเพื่อนของเราได้ขนาดนั้นหรอก"

ถ้าไม่คุยกันไม่กลัวว่าจะค้างคาใจกันเหรอ "เราไม่ได้ซีเรียสและไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ถ้าเราต้องการให้คนทั้งประเทศมาชอบเรามันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องธรรมดา นักแสดงทุกคนก็โดนหมด"

สุดท้ายนางเอกสาวฝากบอกถึงคนที่พยายามยุให้ตัวเองแตกคอกับ "ญาญ่า" ว่า "อยากบอกว่าคาแร็กเตอร์เรากับญาญ่ามันคนละคาแร็กเตอร์กัน อยากให้ทุกคนเปิดโอกาสให้เรา ซึ่งเราจะทำให้คนทั้งโลกมารักเราก็เป็นไปไม่ได้ แต่เราอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้เราดีกว่าค่ะ"

มิตรภาพความเป็นเพื่อนยังไงก็ยั่งยืน

รักเรื่อยๆไม่รีบ-ประทับใจ"เจ็ท"น่ารักเฟรนด์ลี่

ตอนนี้เรียกว่าทั้งเรื่องงานและความรักของนางเอกสาว "คิม-คิมเบอร์ลี่" ดีวันดีคืน โดยเฉพาะความรักที่คบกับผู้จัดหนุ่ม "เจ็ท"ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช ที่ดูจะคืบหน้า ล่าสุดฝ่ายชายให้แหวนครบรอบ 1 ปีที่คบกัน

ทั้งนี้ สาวคิมเปิดใจว่า "ตอนนี้ความรักยังเรื่อยๆ เพราะทั้งคิมและพี่เขายังทำงาน 7 วันค่ะ แต่ก็ยังมีเวลาเจอกันบ้าง"

ล่าสุด "เจ็ท" ให้แหวน เหมือนเป็นเครื่อง การันตรีความสัมพันธ์ นางเอกสาวออกตัว "แต่คิมมองว่าเขาคงไม่รู้จะซื้ออะไรให้มากกว่า เพราะดอกไม้ก็เคยซื้อให้เแล้ว เขาคงไม่รู้ว่าเราจะชอบอะไร เลยอาจจะเซฟๆ ซื้อแหวนให้ (หัวเราะ)"

รู้สึกยังไงตอนที่เขาให้แหวน คิมเปิดใจว่า "ตกใจค่ะ เพราะไม่คิดว่าเขาจะซื้อแหวนให้ ตอนนั้นอยู่ที่บ้านเขา เขาบอกรอแป๊บนึง แล้วก็เดินไปหยิบแหวนมาให้ คิมก็ตกใจบวกกับดีใจ (หัวเราะ) ตอนนั้นเขาบอกว่า Happy anniversary นะ แต่คิมก็แอบถามเขาว่ารู้ไซซ์นิ้วคิมได้ยังไง เขาบอกว่าวัดจากนิ้วก้อยของเขา ซึ่งมันใส่แล้วก็พอดีค่ะ"

ภาพคู่เราตอนนี้ดูชัดว่าเป็นแฟน ส่วนตัวเรียกแฟนหรือยัง คิมปัด "ยังค่ะ เรียกว่าสนิทกันมากขึ้นดีกว่า คนที่เราจะคบได้คืออยากให้มาเป็นทุกอย่างของเรา ทั้งพี่ชายทั้งเพื่อน ขออยู่แบบนี้เรื่อยๆ ก่อนดีกว่า เพราะตอนนี้เรายังไม่ค่อยมีเวลาเจอและคุยกันเรื่องนี้มากเท่าไหร่ แต่ถึงบอกไม่ใช่แฟนทุกคนก็คิดว่าเป็นแฟนหมดแล้ว"

เจ็ทเป็นผู้จัด เราเป็นนักแสดง กลัวหรือเปล่าว่าคนจะมองเป็นเด็กเส้น นางเอกสาวอธิบาย "เรื่องแรก สี่หัวใจแห่งขุนเขา ที่คิมเล่นเป็นของพี่จ๋า (ยศสินี) ตอนนั้นไม่เคยเจอพี่เจ็ทเลย มาเจอคือเรื่องรักปาฏิหาริย์ ส่วนเรื่องงานเราไม่กดดันเพราะไม่ใช่เขาที่เลือกเรามาเล่นละคร แต่มันขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ทางช่อง ส่วนตัวเราก็ให้เกียรติเขาในฐานะผู้จัดละคร"

เพราะแบบนี้หรือเปล่าเลยไม่อยากเรียกแฟน "หนึ่งคือเรายังไม่พร้อมจะเรียกขนาดนั้น อย่างที่บอกช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน และตอนนี้ คิมยังต้องถ่ายละครต้นรักริมรั้ว ที่ พี่เจ็ทเป็นผู้จัดด้วย ก็ให้มันไปแบบเรื่อยๆ"

เรื่องช่องว่างระหว่างวัยล่ะ มีปัญหาไหม "คิมเป็นคนที่มีสองบุคลิก จะไม่คิดว่าตัวเองเด็กตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่ค่อยแตกต่างกันมาก เพราะอายุเราห่างกัน 10 ปีพอดี แต่เรื่องความคิดจะมีบ้าง เวลาคุยกันเขาจะให้คำปรึกษาที่ดี ในทางที่เป็นผู้ใหญ่ค่ะ"

ประทับใจอะไรในตัวเจ็ท "พี่เขาเป็นคนน่ารัก เฟรนด์ลี่ เทกแคร์ดี ใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักและเป็นคนดีค่ะ"

เรียกว่าเป็นความรักได้หรือยัง "ยังต้องดูกันไปเรื่อยๆ ก่อน ยังไม่ รีบ คิมอายุแค่ 20 เอง ทุกอย่างต้องใช้เวลาเยอะมาก"

ที่บ้านว่าอย่างไร "พี่เจ็ทเจอกับที่บ้านบ่อย ค่อนข้างสนิททุกคนจะหลงรักพี่เจ็ท คุณพ่อเรียกว่าลูกรัก พี่สาวพี่ชายก็ชอบโทร.คุยกับเขา คิมกลายเป็นหมาหัวเน่า (หัวเราะ)"

ถามถึงความคาดหวังในความรัก หนูคิมแง้ม "ไม่ได้ คาดหวังอะไรค่ะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ"

สุดท้ายนางเอกสาวเผยถึงมุมมองความรักว่า "ความรักของคิมตอนนี้ยังเรื่อยๆ ให้คอยอยู่เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่มีความสุขมากก็โอเคแล้วค่ะ"