คำสัมภาษณ์ นาธาน ตอนสึนามิ


นาธาน โอมาน กับ อ้น สราวุธ นาธาน โอมาน กับ อ้น สราวุธ

---- ข้อมูลจากตอน สึนามิ ปี 2547 ----



หลังจากที่ “อ้น สราวุธ” ได้เปิดเผยถึงนาทีชีวิตเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิไปแล้วเมื่อวานนี้ วันนี้ “นาธาน โอมาน” นักร้องค่ายอาร์เอสที่เดินทางไปพักผ่อนที่หมู่เกาะสุรินทร์กับอ้นก็เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า…


“ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะรอด ความตายนี่มันไม่รอใครจริง ๆ คลื่นยักษ์มันกลืนกินเหมือนในหนังเลย มันดูดทุกสิ่งทุกอย่างลงทะเลหมดเลย”

นาธานรำพึงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะเล่าถึงนาทีวิกฤตให้ฟังว่า..

“ผมกับพี่อ้น ( สราวุธ มาตรทอง ) เดินทางออกจากกระบี่ไปหมู่เกาะสุรินทร์ พอไปถึงเราก็เห็นโบชัวร์ว่ามีหมู่บ้านมอร์แกนอยู่ใกล้ๆ เราก็เลยไปเที่ยวกัน ตอนนั้นไปถึงประมาณ 9 โมงเช้า ทันทีที่เท้าเหยีบทรายก็เห็นชาวมอร์แกนเริ่มเก็บของ เราก็ตกใจว่าเฮ้ย ! เค้ากลัวเราหรือเปล่า คือเราไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะท้องฟ้าตอนนั้นก็ปกติไม่มีเค้าอะไรเลย จากนั้นน้ำก็ลดลงไปวูบ ชาวมอร์แกนที่เก็บของก็วิ่งหนีขึ้นไปภูเขาเกือบจะหมดแล้ว ผมกับพี่อ้นก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น พอน้ำเริ่มขึ้นเราก็ยังยืนถ่ายรูปกันอยู่แต่ชาวบ้านวิ่งหนีกันไปหมดแล้ว ซักพักได้ยินเสียงน้ำวืบมา สูงประมาณตึก 3 ชั้น คนท้องถิ่นเค้าก็ตะโกนว่าให้วิ่งหนีขึ้นภูเขา ผมก็รีบวิ่งขึ้นภูเขาประมาณ 500 เมตร



นาธาน โอมานนาธาน โอมาน


พวกการบินไทยที่เค้าลงเรือมาเที่ยวเค้าก็นึกว่าชาวบ้านเห่อดารา วิ่งมารุมดาราอะไรแบบนี้ เค้าก็เลยไม่สนใจเค้าก็ยังนั่งอยู่บนเรือแคนู

ปรากฎว่าซักพักน้ำก็เริ่มวนมาที่เรือแคนู เราก็ตะโกนให้เค้ารีบหนีออกมา ก็โชคดีครับที่เค้าวิ่งหนีออกมาทัน พวกเราก็อยู่กันภูเขารอจนคลื่นสงบก็ลงมาข้างล่างเพราะคิดว่าปลอดภัยแล้ว ผมกับพี่อ้นก็ช่วยชาวมอร์แกนเก็บข้าวของ ไปเห็นคนมอร์แกนพิการคนหนึ่งที่เค้าวิ่งหนีไม่ได้นั่งกอดเสาอยู่ เราก็เลยช่วยพยุงเค้าขึ้นมา ระหว่างนั้นคลื่นลูกที่สองก็เริ่มตามมา คราวนี้สูงกว่าลูกที่แรกมาก ผมกับพี่ๆ ก็ช่วยกันพยุงชาวมอร์แกนคนนั้น คือยังไงก็ต้องเอาเค้าไปด้วยให้ได้ เราต้องหนีไปด้วยกัน ถามว่ากลัวไหม….กลัว แต่ ณ นาทีนั้นเราต้องช่วยกัน ก็ทั้งพยุงทั้งลากเค้าขึ้นภูเขา น้ำมาก็ลากเข้าขึ้นทีละขั้น ๆ

นาทีนั้นสุดๆ เลยครับคิดถึงหนังเรื่องหนึ่ง คิดว่าพระเจ้ากำลังจะล้างเกาะ มันเหมือนกับว่าคลื่นลูกแรกมันหลอกให้เราลงไปเดินเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว แต่แล้วคลื่นลูกที่สองก็ซัดมากวาดทุกอย่างไปเกลี้ยงเลย ผมกับพี่อ้นวิ่งหนีกันไปคนละทาง ผมวิ่งขึ้นภูเขาแต่พี่อ้นวิ่งไปที่โขดหิน พอคลื่นมันเริ่มกลับลงทะเลแล้ว เราก็ตะโกนคุยกันถามว่าคนโน้นคนนี้อยู่ครบไหม ก็ดีใจครับที่ไม่มีใครเป็นอะไร พี่อ้นก็เอาขนมที่ซื้อมาแจกเด็กๆ ชาวมอร์แกนมาแบ่งให้ทุกคนกินในระหว่างที่รอการช่วยเรือ เห็นเรือผ่านมาเราก็ตะโกนเรียก แต่เค้าก็เข้าฝั่งมาไม่ได้เพราะน้ำมันขึ้นๆ ลง



เราต้องอาศัยจังหวะรอให้น้ำลงแล้วเดินไปอุทยานหมู่เกาะสุรินทร์ที่เราเดินทางมาถึงเมื่อเช้า ก็ทั้งเดินทั้งวิ่งกันเลยเพราะกลัวว่าคลื่นลูกที่สามมันจะตามมา ปะการงปะการังแหลมๆ ก็ทิ่มเท้า บางคนเดินเลือดอาบเป็นทางเลย

ประมาณ 20 นาทีก็ถึงอุทยานฯ ทุกอย่างราบเรียบหมดเลย ห้องคาราโอเกะ ห้องประชาสัมพันธ์ ห้องอาหารที่เราทานข้าวเมื่อเช้านี้ก็หายไปหมดกลายเป็นอุทยานโคลน เสื้อผ้ากระเป๋าของเราที่ฝากไว้ก็กระจัดกระจายหายไปหมด พอเห็นสภาพที่นี่แล้วก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีมากที่ไปหมู่บ้านมอร์แกนเพราะที่นั่นถือว่าเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ถ้ายังอยู่ที่หมู่เกาะสุรินทร์ป่านนี้ก็คงตายแล้ว”

ฝากขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย…

“พอมาถึงที่อุทยานฯ เราก็ได้รับความช่วยเหลือจากหลาย ๆ ฝ่ายและได้ขึ้นเรือโอเชี่ยนปรินเซสกลับมา ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนมากที่ช่วยเราพวกเราและผู้ประสบภัยทุกคน ผมรู้สึกประทับใจมากที่ทุกคนช่วยเหลือกัน มีฝรั่งผู้หญิงคนหนึ่งโดนไม้เสียบไส้ทะลักออกมา พอน้ำลดเค้าก็ตกลงมากระแทกพื้น ทุกคนก็ช่วยเหลือเค้าดีมาก เค้ารู้สึกประทับใจในน้ำใจคนไทยมาก เหตุการณ์ครั้งนี้ผมคงจะจำตลอดไปชีวิต และมันคงจะเป็นภาพหลอนสำหรับคนที่สูญเสียญาติพี่น้อง ส่วนคนที่รอดตายจะไปไหนต่อไปก็ต้องระวังตัวเองมากขึ้น สำหรับผมก็ตอนนี้ก็รู้สึกเข็ดในการที่จะไปเที่ยวทะเล แต่ผมก็ยังอยากให้ปะการังกลับมาสวยงามเหมือนเดิม ผมจะรอวันที่ทะเลกลับมาสวยเหมือนเดิม”




นาธาน และ แม่บุญธรรม นาธาน และ แม่บุญธรรม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์