ครอบครัวมาก่อนความรัก ส่วนลึกจาก ยุ้ย จีรนันท์



จากเวทีประกวดดัชชี่ บอย แอนด์ เกิร์ล ปี 2000 จนถึงวันนี้รวมเวลาเกือบ 9 ปีเต็ม ที่วงการบันเทิงของเรา มีนางเอกคุณภาพ ทั้งเรื่องฝีมือและนิสัย ที่ใครๆ ต่างก็เรียกเธอว่าเป็น “นางเอกกตัญญู”

หยัดยืนในวงการบันเทิงได้อย่างภาคภูมิ และกำลังจะมีผลงานมาให้ชมอย่างแน่นเอี้ยด ทั้งละคร สวยแสบซิ่ง พระจันทร์ลายพยัคฆ์ และ คุ้มผาคำ วันนี้ “ยุ้ย” จีรนันท์ มะโนแจ่ม มาประชาสัมพันธ์งาน ตามฝันประชันไมค์ เวทีสู่ดวงดาว มนต์เสน่ห์แห่งเพลงลูกทุ่ง การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ของค่ายสปีดวัน พร้อมเปิดใจกับเราในทุก ๆ เรื่อง

ผลงานช่วงนี้ดูค่อนข้างหลากหลายนะ

ยุ้ยโชคดีที่ค่อนข้างได้รับบทหลากหลาย เล่นมาหมดทุกบทแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าน้ำตา บู๊ แก่นแก้ว เป็นคนบ้า เป็นผี ร้าย เรียบร้อย

กว่าจะฉีกภาพเจ้าน้ำตา มารับบทหลากหลายขนาดนี้ ยากไหม

ยากนะ อย่างตอนก่อนที่ยุ้ยจะได้มารับเล่นบทสาลี่ แม้กระทั่งอาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) เอง พี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) ไม่มีใครคิด ว่าเราจะเล่นได้ ทุกคนค้านคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) หมด ว่ายุ้ยไม่สามารถเล่นได้ ยุ้ยก็มานึกของยุ้ย ว่าเราต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ เราคือนักแสดง ไม่ใช่ว่าจะเล่นได้แค่บทบาทเดียวตลอดไป อยากให้ทุกคนได้เห็นยุ้ยหลายๆ บทบาท จะได้ไม่เบื่อ และไม่ติดภาพกับการเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาด้วย

เป็นทั้งนางเอกละครเย็น และละครกลางคืน

ยุ้ยไม่ห่วงภาพนางเอก ยุ้ยคิดเสมอ ว่าทุกวันนี้เราคือนักแสดง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำคือการทำงาน ไม่เคยคิดว่าละครที่เล่นต้องเป็นหลังข่าวเท่านั้น หรือเป็นนางเอกเท่านั้น เราต้องเล่นได้ทุกบทบาท และที่สำคัญ ยุ้ยไว้ใจการตัดสินใจของผู้ใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้ใหญ่เลือกให้เราแล้ว ยุ้ยคิดว่ายุ้ยประสบความสำเร็จเพราะผู้ใหญ่ ในทุกๆ เรื่อง ยุ้ยคิดว่าได้รับกระแสตอบรับกลับมาดี แม้ว่าบางเรื่องเรตติ้งอาจจะไม่ดี แต่ว่าหลายคนก็มองว่าการแสดงเราโอเค เราผ่านแล้วก็พอใจแล้ว




8 กว่าปีในวงการบันเทิง เป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับยุ้ย มันดีที่สุดในชีวิตเราช่วงที่ผ่านมา มันเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด เหนื่อยที่สุด และก็มีความสุขที่สุด แต่ยุ้ยรักการทำงาน กับชีวิตแบบนี้ ช่วงล้มลุกคลุกคลานก็มีตลอด ตั้งแต่เข้าวงการ ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ เจออะไรที่ไม่ดีเข้ามา แต่ยุ้ยก็อยู่ได้ด้วยความรัก ความสุข จากกำลังใจที่คนรอบข้างมีให้เรา และกำลังใจของตัวเอง

อาชีพนักแสดงสร้างอะไรให้ยุ้ยบ้าง

โห...สร้างให้ทุกอย่างเลย ชีวิตยุ้ยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทั้งหมด ไม่ใช่แค่ตัวยุ้ยเอง แต่เปลี่ยนไปทั้งครอบครัว จากการที่ยุ้ยได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ ความคิดยุ้ยก็เปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนมองวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่น่ากลัว มายา แต่พอเข้ามาอยู่จริงๆ ก็รู้ว่ามันขึ้นอยู่กับตัวเราเอง จะดีจะร้ายเราเลือกได้ แล้วพอยุ้ยมาอยู่ ยุ้ยมีทุกอย่างที่ยุ้ยต้องการ มีทุกอย่าง ที่ได้เกินที่เราฝัน เกินที่เราคิดด้วยซ้ำ และเราก็อยู่กับมันได้อย่างมีความสุข ถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้าง มีเรื่องที่ไม่ดีผ่านเข้ามาบ้าง ยุ้ยว่ามันเป็นเรื่องปกติ ยุ้ยถือว่ายุ้ยโชคดีที่สุดแล้วที่ยังมีกำลังใจจากคนรอบข้างเยอะแยะ

มีหมอดูเคยทักไหมว่าจะรุ่งทางนี้

มี (หัวเราะ) เคยมีหมอดูคนหนึ่งทักแม่นมาก เขาดูจากลายมือแล้วบอกว่าดวงยุ้ยเป็นดาว ซึ่งมันก็จริง ตั้งแต่ยุ้ยจำความได้ ยุ้ยก็จะเป็นดาวโรงเรียน เป็นดรัมเมเยอร์ตลอด จนโตก็ประกวดอะไรมาตลอด แล้วเขาบอกว่า วันหนึ่งยุ้ยจะได้เข้าวงการบันเทิง ถ้ามีคนมาชักชวนให้ไป เพราะยุ้ยจะมีดวงทางนี้ จะมีคนรู้จักทั่วประเทศ ยุ้ยก็ยังบอกเพื่อนเลยว่า เป็นไปไม่ได้หรอก ดูไม่แม่นเลย จะเป็นไปได้ยังไง เพราะตอนนั้นยุ้ยก็อยู่ต่างจังหวัด แต่พอได้มาเป็น นึกย้อนกลับไป ก็อยากเจอเขาอีก อยากให้เขาดูดวงให้อีก

อะไรที่ทำให้ยุ้ยมาถึงจุดนี้ได้

คงเป็นความอดทน ความพยายาม และยุ้ยมีความรัก มีทัศนคติทางบวกในเรื่องของการแสดง ยุ้ยมีความตั้งใจ เลยทำให้เราอยู่ในทุกวันนี้อย่างมีความสุข และเราก็โชคดีด้วย มันต้องใช้หลายอย่าง ถ้าโชคดีปุ๊บ เราก็ต้องรักษาตรงนี้ให้ดี อย่างยุ้ยกล้าที่จะบอกเลยว่า ยุ้ยเป็นนักแสดงที่ดี ตั้งใจทำงาน และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน และไม่เคยทำให้คนอื่นเสียเวลา เราเคารพในหน้าที่การงาน เคารพในนักแสดงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง และเรามีความเคารพผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณ และยุ้ยรู้สึกว่าผู้ใหญ่มองเห็น และก็ให้โอกาสกับเรา




ยุ้ยมีวิธีการรักษาสิ่งที่ได้มาอย่างไรบ้าง ทั้งชื่อเสียง เงินทอง หน้าที่การงาน

คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมาจากสติ เรื่องของการทำงาน บทบาททุกเรื่อง ยุ้ยทำการบ้านตลอด ไม่เคยอยู่นิ่ง แต่ฝึกฝนตลอด เตรียมพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่าง และยุ้ยบอกได้เลย ว่ายุ้ยเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในครอบครัว ยุ้ยต้องมีสติดู ว่าเราจะรักษาเงินที่ได้มายังไง ต้องใช้จ่ายยังไง เพราะเราไม่ได้ใช้จ่ายแค่วันนี้ อนาคตข้างหน้า ถ้าเราไม่ได้ทำงานตรงนี้แล้ว ไม่ได้มีงานเยอะแบบนี้แล้ว ทุกคนจะอยู่ยังไง แม่จะอยู่ยังไง

หรือถ้าวันหนึ่ง เกิดยุ้ยเป็นอะไรไปกะทันหัน ทุกคนจะอยู่ยังไง เราใช้ชีวิตอย่างมีสติตลอด ถ้าหากยุ้ยเป็นอะไรไป หรือมีอะไรเกิดขึ้นมา คนข้างหลังยุ้ยก็สบาย ไม่มีปัญหาอะไร เพราะยุ้ยเตรียมทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว หรือถ้ายุ้ยยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนก็ไม่ลำบากแน่นอน สิ่งที่ทำมันก็ไม่ถึงกับยาก แต่เรามีความพยายาม มีความตั้งใจ ไม่ปล่อยปละละเลย คิดในทุกๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามา หรือสิ่งที่จะเป็นอนาคต หรือว่าทำปัจจุบันยังไงให้มันดีที่สุด

ถูกเรียกว่า “นางเอกกตัญญู” ตั้งแต่เข้าวงการ

ยุ้ยชอบให้หลายคนมองยุ้ย ในแง่ของการเป็นนางเอกที่กตัญญู และอยากให้น้องๆหลายๆ คน หรือใครก็แล้วแต่ที่ชอบยุ้ย หรือเยาวชน เอายุ้ยเป็นแบบอย่างในเรื่องกตัญญู ยุ้ยอยากจะบอกว่าคนเราทุกคน มีทั้งด้านมืดด้านสว่าง ด้านขาวด้านดำ แต่อะไรที่เป็นสิ่งไม่ดี เป็นด้านมืด อยากจะให้มองข้ามไป เพราะทุกคนต้องมีอยู่แล้ว ยุ้ยเองก็ไม่ได้บอก ว่าตัวเองจะดีไปร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าสิ่งดีๆ ในตัวยุ้ย ใครที่ชื่นชอบยุ้ย ก็อยากให้เอายุ้ยเป็นแบบอย่างเรื่องของการกตัญญู เพราะยุ้ยกล้าพูดเลย ว่าที่ยุ้ยมีวันนี้และประสบความสำเร็จได้ มาจากความกตัญญูร้อยเปอร์เซ็นต์

ยุ้ยเชื่อว่ากตัญญูมีส่วนในความสำเร็จ

เชื่อมาก แต่มันต้องมาจากจิตใต้สำนึก ไม่ต้องให้ใครมาบอกเรื่องแบบนี้ ยุ้ยไม่เคยบอกเลยว่า ยุ้ยจะพยายามกตัญญูเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ แต่มันมาจากความจริงใจ มาจากก้นบึ้งลึกๆ ในจิตใจ ว่า คนที่เราต้องกตัญญูคือผู้มีพระคุณ พ่อแม่ ตายายที่เลี้ยงเรามา แล้วความสำเร็จมันจะตามมาเอง โดยที่เราไม่ต้องไปรอ หรือไม่ต้องไปไขว่คว้า

พอใจแล้วหรือยังกับสิ่งที่สร้างให้ครอบครัว

ถือว่าพอใจแล้ว เพราะยุ้ยมาจากศูนย์ เข้ามากรุงเทพฯ กับแม่ กระเป๋าคนละใบ เสื่อผืนหนึ่ง แม้กระทั่ง ทีวี ตู้เย็น วิทยุสักเครื่องหนึ่งก็ไม่มี ทุกวันนี้มีทุกอย่างได้ มันเกินจากที่ยุ้ยฝันเอาไว้แล้ว

ดูเหมือนเรื่องที่ยุ้ยเป็นมือที่สาม ระหว่าง "ต้อง" ศุภัชญา รื่นเริง กับ ธัญญ์ ธนากร สั่นคลอน จะยังไม่ลงตัว เพราะล่าสุด ต้องได้ออกมาพูดว่าธัญญ์ยังเคลียร์ความสัมพันธ์กับยุ้ยไม่ชัดเจน

พูดลำบาก  เรื่องนี้ตอนที่รู้ก็ตกใจ แล้วก็เสียใจนะ เพราะว่ายุ้ยไม่รู้ ว่าเวลาที่เขาอยู่ด้วยกัน เขาคุยกันอย่างไรบ้าง เขาไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟังเลย ไม่เคยมาบอก ว่าเขามีปัญหาอะไรกันหรือทะเลากันเพราะยุ้ย  ทุกอย่างก็เคลียร์ไปหมดแล้ว แต่ถ้าต้องจะมาพูด ว่าเคลียร์กันไม่ลงตัวเพราะยุ้ย ยุ้ยก็ไม่รู้ว่ายุ้ยต้องทำยังไง  ยุ้ยทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว ถ้าจะให้เลิกรู้จักหรือเลิกคบกับธัญญ์ ยุ้ยบอกได้เลยว่าก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราบริสุทธิ์ใจที่จะเป็นเพื่อนกัน ยินดีเคลียร์แล้วก็ยินดีคุย เรียกมาคุยกันสามคนเลยก็ได้




ทำงานเยอะจนความรักกับ “ปิ๊ด” ธนดล ช้างเสวก ต้องหลุดลอย

มันก็มีหลายๆ เรื่องที่เราต้องพลาดไป แต่เราคิดแล้ว เราพร้อมที่จะแลกกับมันแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น ยุ้ยคงไม่อยู่ตรงนี้ ชีวิตความเป็นวัยรุ่นมันต้องหายไป เพราะยุ้ยทำงานตั้งแต่อายุ 18-19 ปี ชีวิตกับเพื่อนในมหาวิทยาลัยไม่มีเลย 8-9 ปีเต็ม ชีวิตกับเพื่อนไม่มีเลย งานแต่ง งานสำคัญๆ ยุ้ยพลาดตลอด ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียดายมากกว่า แต่เราเลือกแล้วที่จะเป็นแบบนี้ อย่างเรื่องความรักที่ต้องผิดหวังไป เพราะด้วยอะไรต่างๆ ที่เราไม่มีเวลาให้กัน เราดูแลกันไม่ได้ ถ้าจะให้ยุ้ยทิ้งตรงนี้ไป เพื่อให้ไปอยู่กับความรักของยุ้ย ยุ้ยทำไม่ได้ เพราะครอบครัวยุ้ยต้องมาอันดับหนึ่ง

ความสัมพันธ์กับ ปิ๊ด ในวันนี้

เราเป็นเพื่อน พี่น้องที่ดีต่อกัน ยุ้ยดีใจที่วันหนึ่งเราได้เคยรู้จักปิ๊ด ได้เคยรักกัน วันนี้เราได้เพื่อนที่น่ารักมาอีกหนึ่งคน มันทำใจลำบากอยู่แล้ว กับการปรับความรู้สึกจากแฟนมาเป็นเพื่อน แต่ยุ้ยไม่ได้เสียเขาไป ทุกวันนี้คิดถึงก็โทรหา หรือถ้าเขาคิดถึงยุ้ย เขาก็ส่งข้อความมาเป็นกำลังใจให้กัน ยุ้ยก็คิดเสมอว่า เราจะไม่เสียกันไปแน่นอน เราจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต

เหมือนยังรักกันอยู่ แต่มีบางอย่างทำให้คบกันต่อไม่ได้

คือมันยังมีบางสิ่งบางอย่าง มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราไม่สามารถพูดได้จริงๆ คนที่รู้ดีที่สุดคือเราสองคน เราไม่อยากฝืน ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ ไม่อยากให้เสียความรู้สึกไปมากกว่านี้ เราไม่มีเวลาให้กัน ไม่มีเวลาดูแลกัน ไม่เข้าใจกัน ก็เบรกเอาไว้ จบมันไว้ตรงความรู้สึกที่ดีๆ อนาคตข้างหน้ามันจะเป็นยังไง ค่อยว่ากัน

ครอบครัวว่าอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง

ครอบครัวยุ้ยรักปิ๊ดทุกคน แม่ยุ้ยพูดเลยว่า แม่ไม่เคยรักใคร แต่แม่รักปิ๊ด เพราะปิ๊ดเป็นคนน่ารัก ทุกวันนี้แม่ก็ยังรัก แม้กระทั่งครอบครัวของปิ๊ด ทุกคนก็ยังน่ารัก ไม่ได้เป็นลูกสะใภ้ แต่ตอนนี้ก็เป็นลูกสาวพ่อกับแม่ปิ๊ดไปแล้ว มีลูกสาวเพิ่มอีกหนึ่งคน ยุ้ยไม่เสียดายเวลา เพราะทำดีที่สุดแล้ว ถ้าอนาคตมันจะไม่ใช่ก็ปล่อยให้มันเป็นไป

เหมือนเศร้าทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้

เศร้านะ พูดถึงอะไรที่ไม่สมหวัง แต่เราก็ไม่ได้เสียใจอะไรกับมันมากมาย มันคือความรักที่ผิดหวัง แต่มันยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กันอยู่มากมาย

ถ้ามีรักอีกครั้ง

ยุ้ยก็บอกไม่ได้ ว่าถ้ามีรักครั้งต่อไป ยุ้ยจะสมหวังหรือเปล่า อนาคตมันเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ วันนี้เราอาจจะรักกันมาก แต่อนาคตข้างหน้าเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่เวลาที่ยุ้ยรักใคร ยุ้ยรักจริง ยุ้ยจริงใจ และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าวันข้างหน้าจะไม่สมหวังก็ตาม

เชื่อเถอะ หนุ่มๆ เขารอกรอกใบสมัครรักยุ้ยจะแย่แล้ว ...


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์