คนจะรักกัน ครอบครัวสำคัญไหม!

ไม่ได้เจอกันหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ ไม่ทราบว่าทุกคนสบายดีมั้ย

ส่วน “แซสซี่ เกิร์ล” สบายดีจ้ะ เอ้า ! ว่าแล้วก็ขอเข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้ขอเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่ต้องมีครอบครัวของเราและคนรักเข้ามามีเอี่ยวด้วย ที่ผ่านมามีชาย-หญิงหลายคนที่ต้องแยกทางกันเพราะเข้ากับครอบครัวของอีกฝ่ายไม่ได้ แหม ! เห็นแบบนี้แล้วก็เศร้าจริง ๆ เพราะคนเรามักอยากให้คนที่เรารักเข้ากับครอบครัวของเราได้อยู่แล้ว ดังนั้นเราลองไปถามคนในวงการกันหน่อยดีกว่าว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ขนาดไหน

เริ่มที่ แชมป์-พีรพล เอื้ออารียกุล กล่าวว่า

“โดยส่วนตัวแล้วถ้าเลือกผู้หญิงคนนึงเป็นแฟน ผมคงเลือกคนที่เป็นคนที่มีจิตใจดี เพราะคนเก่งในโลกเรามีเยอะแล้ว ยิ่งถ้าได้ผู้หญิงทั้งเก่งและดียิ่งสมบูรณ์แบบใหญ่เลย แต่ก็หายากนะ เพราะคนเราพอเก่งปุ๊บ ส่วนใหญ่ก็จะมุ่งหาผลประโยชน์ใส่ตัวอย่างเดียว ผู้หญิงที่จะเข้ากับผมได้ก็ต้องเป็นคนที่ทัศนคติเหมือนผม อย่างตัวผมเองได้อะไรจากวงการนี้เยอะมาก ผมกำลังวางแผนว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผมอยากจะเปิดมูลนิธิ เอารายได้ส่วนหนึ่งแบ่งช่วยเหลือคนยากไร้ในสังคม ก็ไม่รู้ว่าคน ๆ นั้นจะรับได้หรือเปล่า

ถามว่าเขาต้องเข้ากับครอบครัวเราได้มั้ย ไม่จำเป็นนะครับ

คือผมโชคดีที่พ่อแม่สอนมาแบบไทยปนฝรั่ง คือ ต้องให้ความเคารพนอบน้อมผู้ใหญ่แบบไทย แต่ขณะเดียวกันก็ให้อิสระกับลูก อย่างแม่ของผมบอกเลยว่า ถ้าผมแต่งงาน ก็ให้ย้ายออกไปเลย ไม่ต้องมาอยู่กับแม่ ไม่ใช่ว่าแม่ไม่รักเรานะ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากมีปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้ครับ แล้วค่อยนัดกินข้าวกับทั้งครอบครัวอาทิตย์ละครั้งดีกว่า เจอกันบ่อยเกินไปอาจมีปัญหาได้”



ฟาก จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม เผยว่า

“ถ้าจะเลือกใครสักคนมาในชีวิตเรา จ๋าจะเลือกคนที่มีจิตใจดีและมีความเกรงใจ ที่ สำคัญคือ เข้ากับครอบครัวเราได้ และตัวจ๋าเองก็ต้องเข้ากับครอบครัวเขาได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าเข้าไม่ได้ก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันได้ไง

อย่างบ้านจ๋าเป็นคนจีนต้องไปเช็งเม้งทุกปี

ซึ่งทุกคนก็คงรู้ว่าเป็นอะไรที่ร้อนมาก แต่ถ้าเขารับประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่แบบคนจีนไม่ได้ก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรอย่างถ้าจ๋าเข้ากับครอบครัวของแฟนไม่ได้ เราก็ต้องมาดูกันว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน ก็ต้องหาทางแก้ไขกัน จ๋าว่าปัญหานี้มันต้องมีกันบ้าง เพราะคนเราถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันดีกว่าค่ะ”


ด้าน แบงค์-อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม กล่าวว่า

“ก็ต้องดูนิสัยใจคอก่อนครับว่าเข้ากันได้หรือเปล่า และมีความคิดเห็นตรงกันหรือเปล่า ที่สำคัญที่สุดต้องมีเหตุผล และเข้าใจตัวเรามากที่สุด ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพในการตัดสินใจ ของแต่ละฝ่าย ถ้าสมมุติว่าทะเลาะกันอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธอารมณ์ร้อน อีกฝ่ายก็ต้องอารมณ์เย็น ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาคงมาทีหลังครับ เพราะการที่เราจะคบใครสักคนหรือว่าใช้ชีวิตคู่นั้น ไม่ใช่แค่ปีสองปี แต่สำหรับบางคนหมายถึงตลอดทั้งชีวิต รูปร่างหน้าตามีวันที่จะโรยราไป

ส่วนเรื่องที่ว่าต้องเข้ากับครอบครัวของเราได้ด้วยมั้ย สำหรับผมแล้ว ก็มองว่าคนละครึ่งทางนะครับ

ถ้าคนสองคนรักกัน แต่ครอบครัวไม่สนับสนุน ก็คงไม่มีทางที่จะไปด้วยกันได้ ในอีกมุมหนึ่งถ้าลูกรักคนคนนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องรักด้วย เพราะมันคือความสุขของลูกครับ”



ปิดท้ายที่ว่าที่เจ้าสาวอย่าง ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพรศรี เผยว่า

 “ถ้าเราจะเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิตเรา นอกจากเราจะรักกันแล้ว เขาและเรายังต้องรักครอบครัวของแต่ละฝ่ายด้วย ถ้าเขาเข้ากับครอบครัวเราไม่ได้ มันจะเกิดความรู้สึกแบ่งแยก อย่างเราในฐานะคนกลางจะลำบากใจ ยิ่งถ้าคนที่ต้องไปอยู่บ้านฝ่ายชาย ยิ่งต้องปรับตัวให้เข้ากับครอบครัวเขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นอยู่ด้วยกันแล้วจะไม่มีความสุข ถ้ามีปัญหาปุ๊บมีอะไรไม่สบายใจก็ควรเคลียร์ไปเลย แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นดีเราก็ต้องคุยกับแฟนเราว่า เราควรจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแค่ 2 คนประมาณ 80% ส่วนอีก 20% เราก็จะใช้อยู่กับครอบครัวของเขาค่ะ”.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์