ข้าวยากหมากแพง ดาราแนะวิธีประหยัด

หลังจากที่ราคาน้ำมันขึ้นเอา ๆ มาเป็นระลอก จนตอนนี้ปาเข้าไปลิตรละเกือบ 40 บาทแล้ว
 
คุณพระช่วย! ทุกวันนี้ “แซสซี่ เกิร์ล” แทบอยากจะขี่ควายแทนขับรถมาทำงานแล้วจ้า แล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาราคาข้าวก็ดันมาขึ้นอีก โอ้ย!คิดแล้วก็กลุ้ม ๆ จริง ๆ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเรากำหนดราคาอย่างอื่นไม่ได้ เราก็ต้องกำหนดชีวิตตัวเอง ลองไปถามบรรดาคนดังในวงการบันเทิงกันดีกว่าว่า พวกเขามีวิธีประหยัดกันอย่างไรบ้าง
 
เริ่มกันที่  นักร้องหนุ่ม ฟิล์ม – รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กล่าวว่า

“ตอนนี้ หลาย ๆ คนก็คงพอจะทราบกันแล้วล่ะครับว่า ข้าวของบ้านเราค่อนข้างแพง เศรษฐกิจไม่ค่อยดี  ฟิล์มอยากให้ทุกคนหันมาสนใจเรื่องนี้นะ อยากให้ประหยัดกัน อย่าง  ฟิล์ม ก็เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา เพราะนอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังประหยัดเงินค่าไฟด้วย และที่สำคัญ ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วยนะครับ หรืออย่างถ้าไปซื้อของใกล้ ๆ บ้าน แทนที่จะขับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ฟิล์ม ก็จะหันมาใช้จักรยานแทน ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปอีกทางด้วยครับ”
 



ด้าน เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร เผยว่า

“แต่ก่อนเวลาทำงาน เมย์จะชอบขับรถไปเอง เพราะสะดวกดี แต่ก็ยอมรับว่าค่าน้ำมันแต่ละเดือนมันแพงขึ้นทุกวัน ๆ พอประมาณช่วง 2-3 ปีที่แล้ว เริ่มมีการรณรงค์ให้ประหยัดน้ำมันและไฟเพื่อลดภาวะโลกร้อน เมย์ก็เลยลองทำดู เวลาไปทำงานเดินแบบหรือโชว์ตัวต่าง ๆ เมย์ก็จะไปติดรถเพื่อนไป เพราะนอกจากจะประหยัดเงินแล้ว ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกต่างหาก ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น เวลาตักข้าวเมย์ก็จะตักแบบพอกิน ไม่กินทิ้งกินขว้าง เพราะยังมีคนในโลกที่เขาไม่มีจะกิน มันเลยทำให้เราเห็นคุณค่ามากขึ้นเยอะเลยค่ะ”


ฟาก มด-คุณัชญา ชัยรัตน์ แสดงความเห็นว่า
 
“สำหรับตัวมดเอง เริ่มหันมาประหยัดแล้ว ไม่ค่อยซื้อของฟุ่มเฟือยสักเท่าไหร่ จะซื้อแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น เพราะตอนนี้เราจะได้ยินข่าวอยู่ตลอดเวลาว่า เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ข้าวของแพง น้ำมันก็ขึ้นราคา มดเลยคิดว่า เราน่าจะเก็บเงินไว้ใช้ยามที่ฉุกเฉินจริง ๆ ซึ่งมันก็ดีนะ ทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มดอยากจะฝากเรื่องนี้ไปถึงเพื่อน ๆ ทุกคนด้วย โดยเฉพาะคนที่ยังขอเงินคุณพ่อ คุณแม่ใช้อยู่ ก็อยากให้ช่วยท่านประหยัดด้วยค่ะ”


ต่อกันที่ เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน กล่าวว่า

“อย่างน้ำมันถ้าไปใกล้ ๆ จะไม่เอารถไป นั่งมอเตอร์ไซค์หรือรถไฟฟ้าก็ได้ ถ้าเราจะไปไหนก็ต้องแพลนก่อน เพราะจะได้ประหยัดและไม่เสียเวลาด้วย ถ้าบ้านเพื่อนใกล้ ๆ มีงานไปด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน อย่างเรื่องการใช้เงินนั้น ถ้าอะไรจำเป็นก็ซื้อ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ เสื้อผ้าจะก็จะไม่เลือกที่ตามเทรนด์ เพราะแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ตกยุคอีก แต่จะเลือกแบบเรียบ ๆ ใส่ได้นาน อย่างเรื่องกินข้าว ที่บ้านจะสอนเสมอว่าเวลากินต้องกินให้หมดทุกเม็ด เพราะที่บ้านสอนมาตั้งแต่เด็กว่า ถ้ากินข้าวหมดเราก็จะได้บุญนะ ถ้าข้าวเหลือคนจนจะทำยังไง เราโชคดีกว่าคนอื่นที่ยังมีข้าวกิน บางคนต้องอดมื้อกินมือ เราก็ไม่ควรกินทิ้งกินขว้าง  ก็อยากฝากน้อง ๆ ให้คิดก่อนใช้ ถ้าเราคิดแล้วคิดอีกมันก็ดีสำหรับทุกคนนะ”
  



ปิดท้ายที่ แอน ทองประสม เผยว่า

“แอนเชื่อว่าขยันไม่มีวันอดตาย ต่อให้ข้าวยากหมากแพงถ้าเราขยันหาชีวิตจะมีสมดุล อย่าใช้อะไรเกินตัว เราต้องวิเคราะห์เราเองว่าเราเกิดมาไม่เหมือนใคร เพราะแต่ละคนโครงสร้างชีวิตไม่เหมือนกัน อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนข้างบ้านว่าเขามีอะไรเราต้องมีบ้าง อย่าไปผลักดันตัวเองอย่างนั้น ถ้าเรารู้ตัวว่าเราใช้เงินเก่ง เราก็ต้องขยันหาซิ แค่นี้ชีวิตมันก็จะสมดุลเอง อย่างเรื่องน้ำมันแพง 

สมมติว่าแอนต้องไปทำงานต่างจังหวัด แอนก็จะนั่งรถไปกับทีมงาน

อย่างถ้าเราขับรถไปเองเราก็ทำได้ แต่แอนรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องขับไปเองก็ได้ เราก็นั่งไปกับทีมงาน หรือใช้รถเล็กลงมาหน่อย บ้านแอนมีรถ 2 คน เราก็เลือกใช้รถคันเล็กประหยัดน้ำมันลงมาหน่อย เวลาทานข้าวก็สั่งแต่พอดี เห็นชาวนาทำนาแล้วสงสาร เพราะการที่ข้าวแพงไม่ได้หมายความว่าเขาจะรวยขึ้น มันตลกมากเป็นวงจรที่ขัดแย้งสุด ๆ บ้านเราเป็นเมืองแห่งข้าว แต่ข้าวดันมาแพง มันตลกนะ ไม่รู้ยังไง แอนว่าโลกมันแย่แล้วนะ ก็จะตักข้าวแต่พอกิน ยังบ่นเลยเวลาที่แม่บ้านตักข้าวให้เราเยอะไป ไม่ได้งกนะ แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องเขี่ยทิ้ง เพียงแต่มันยังมีคนหาเช้ากินค่ำที่อยากกินข้าวอีกตั้งเยอะ”


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์