กลไกรัฐพิการ ไม่ทันละครน้ำเน่า วธ.รับมึน


กุหลาบเหนือเมฆจริงๆ...ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมยังอึ้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ละครน้ำเน่าทำลายเยาวชน-สังคม ปัดไม่เคยดูละครตั้งแต่ไหนแต่ไร ด้านผู้กำกับละครดังล้มป่วย เปิดรับเสียงวิพากษ์ โต้กลับ ผมไม่ได้ทำละครให้เด็กดู”...

สืบเนื่องจากกรณีชาวบ้านโวยละคร
กุหลาบเหนือเมฆ ที่มี 2 นางเอกระดับแม่เหล็กของวงการ "อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ" และ "นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์" แสดงนำ ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง 7 สี เนื้อหามีความรุนแรง จนหลายฝ่ายเป็นห่วงพฤติกรรมเลียนแบบของเด็ก เยาวชน ออกมาระบุว่าเป็นละครอันตราย พร้อมกับทวงถามว่าละครตบตี ผ่านการจัดเรตติ้งได้อย่างไรนั้น

ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง นายสำรวย รักชาติ ผู้กำกับละครเรื่อง กุหลาบเหนือเมฆ ซึ่งขณะนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยันฮี ชี้แจงว่า ต้องบอกก่อนว่าละครเรื่องกุหลาบเหนือเมฆนั้น ตอนแรกเป็นละครแนวคอมเมดี้ด้วยซ้ำไป ตอนหลังมีการปรับเปลี่ยน แล้วได้ชื่อใหม่ คนเลยเข้าใจว่าเป็นดราม่า




"ถามว่าฉากต่าง ๆ ในเรื่องนี้แรงไปไหม คือผมทำละครเรื่องนี้ให้เป็นละครหลังข่าวเท่านั้น หมายความว่าจัดอยู่ในเรต ที่เด็กอายุ 13 ปีต้องมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ หลายคนก็ถาม อ้าว  แล้วทำไมเราฉายแต่ภาพการตบตีของนักแสดงคู่อั้มกับนุ่น เรื่องการฉายซ้ำนี่ไม่มี เป็นภาพโปรโมตสำหรับสื่อมากกว่า ละครเรื่องนี้เล่าเรื่องการชิงรัก แต่ก็ไม่ถึงกับเอาเป็นเอาตาย เป็นลักษณะตลก ๆ มากกว่า"

เมื่อย้ำถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ผู้กำกับละครเรื่องฉาวกล่าวว่า ยอมรับที่มีกระแสวิจารณ์ออกมาเยอะ แต่อยากเรียนว่าเราไม่มีเจตนาทำละครรุนแรงเกินกว่าเหตุ เนื้อเรื่องที่เสนอออกไปได้ผ่านการคัดกรองแล้ว แต่คาดว่ามีแฟนคลับของอั้มกับนุ่นดูกันเยอะ เลยมีกระแสวิจารณ์ตรงนี้

"เรตติ้งละครเรื่องนี้ตอนแรกๆ ได้ประมาณ 10 กว่า มาตกลงในช่วงที่
ละครสู้ยิบตากำลังจะจบ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก เรตติ้งก็สูงกว่าที่เราคาดไว้ ขอเรียนตรงนี้ครับว่าละครเราทำมาเพื่อฉายในตอนดึกผู้กำกับละครคนดัง กล่าว

นอกจากนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ยังได้สอบถามไปยัง นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวผ่านเลขาส่วนตัวว่า ไม่เคยดูละครไทยสักเรื่องเดียว ดูแต่รายการข่าวสารประจำวัน ดังนั้นไม่สามารถให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ได้

"ผมไม่ชอบ และไม่เคยดูละครเรื่องไหนๆ ดังนั้นไม่อยากให้ความคิดเห็นเรื่องสื่อ ละครไม่สร้างสรรค์ หรือตอบประเด็นที่ว่าอีกนานแค่ไหนคนไทยจะเห็นละครสีขาวในเมืองไทย


ขณะที่ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการกลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ให้ความเห็นกับ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงประเด็นการจัดเรตติ้งละคร ว่า ปัจจุบันทีวีมีปัญหาเรื่องเซ็กซ์ และเรื่องความรุนแรงเพิ่มขึ้น

"ตอนเราทำเรื่องเรตติ้งใหม่ๆ นั้น มีผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบมาร่วมมือกันหมด ไม่ว่าจะเป็น คุณประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหาร และผู้จัดละครมากมาย มาทำข้อตกลงกับภาครัฐว่าให้หลีกเลี่ยงความรุนแรง เรื่องการนำเสนอในทางที่จะส่อไปในเรื่องเพศ ซึ่งขณะนั้นทีวีไทย ถือว่าส่วนใหญ่เป็นสีขาว อย่างคุณมารุต สาโรวาท คุยกันเสร็จเขาก็ทำละครดีๆ แฝงสาระอยู่ในนั้น ไม่ใช่เน้นแต่ขายเซ็กซ์ หรือมีเรื่องความรุนแรงอย่างเดียว"




อย่างไรก็ดี แม้วันนี้จะมีการจัดเรตติ้งอยู่ แต่ น.ส.ลัดดา กล่าวว่า นอกจากจะขาดเจ้าภาพหลักในการดูแลในการประเมิณผลการนำเสนอของฟรีทีวีทุกช่อง พร้อมกับปรับปรุงแก้ไขแล้ว หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแล้วก็โดนฟรีทีวีช่องหนึ่งฟ้องร้อง ขณะที่หน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรงอย่าง กทช. ก็ยังอยู่ในภวะสุญญากาศ กรมประชาสัมพันธ์ถูกยกเลิกในการดูแลเรื่องกฎหมาย

"กลไกลของภาครัฐยางแตกเดินไม่ได้ อย่างเรื่องที่ภาครัฐเปิดเว็บไซต์เพื่อประเมินผลคุณภาพสื่อ ทางเว็บไซต์มี (
http://www.me.in.th/live) ที่เคยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมิน แต่เอกชนไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งยังฟ้องร้อง ทำให้ภาครัฐไม่สามารถทำงานให้สื่อเป็นสื่อสีขาวลุล่วงไปได้ ภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ก็ร่วมมือหวังที่ให้สังคมผู้ผลิตสื่อต่างๆ มีการรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งวันนี้เราก็เห็นเต็มๆ ตาว่าละครไทยมันมีปัญหามากๆ อยู่ไม่กี่ช่อง แต่เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากการปลุกจิตสำนึก ให้ผู้ประกอบการเป็นสื่อที่สรรค์ให้เด็กๆ มาช่วยกันดีกว่าไหม เพราะในที่สุดเด็กมันจะมีคุณภาพ"

ผอ.กลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า เนื่องจากปัจจุบันผู้ทำละครมีสำนึกน้อยลงมากๆ ละคร บางเรื่องจะเห็นว่ามีฉากตบตีกัน 2-3 ที ก็น่าจะตายแล้ว แต่นี่ตีๆๆๆ ให้มันทรมาน เราก็เห็นอยู่ หรืออย่างมีฉากปล้ำกัน ฉีกเสื้อ จูบก็จูบกันจริงๆ เป็นนาทีด้วย ซึ่งเขาคิดว่าเป็นละครหลังข่าว เด็กนอนแล้วเด็กไม่ดู

"แต่วันนี้พวกเด็กๆ เขาเข้าไปดูละครย้อนหลังได้ในดูในมือถือ ดูย้อนหลังตามอินเตอร์เน็ตได้เป็นร้อยๆ เว็บฯ ซึ่งสื่อมีบทบาทมากๆ ในการสร้างหรือทำลายสังคม ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้ามันอันตรายเราก็แบนและช่วยกันไม่ดู" น.ส.ลัดดากล่าว.
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์