กรรชัยปัดฮั้วเจ้าของไอซ์มอนฯฟ้องญาติแค่อยากได้เงินคืน-วอนรับความจริง

ทำเอา หนุ่ม กรรชัย คันปากอยากสวนกลับ หลังจากคู่กรณี นาง ชัญญา โชติญาณวงษ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัทไอ ดู ไอซ์ จำกัด และนายอธิป โชติญาณวงษ์ ตั้งโต๊ะแถลงขอความเป็นธรรมกรณีที่มีข้อพิพาทกับหนุ่มกรรชัยเกี่ยวกับไอซ์มอนสเตอร์

ซึ่งหนุ่มก็สามารถชี้แจงเกี่ยวกับข้อโต้แย้งที่คู่กรณีซักทอดมาได้อย่างฉะฉาน

ก่อนที่เขาจะถอนชื่อของหนุ่มออกได้ส่งทนายมาเจรจาและเป็นพี่พอใจของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว?

ไม่เป็นความจริงครับ ผมไม่เคยทราบว่ามีทนายมาคุยกับผมว่าจะถอนชื่อผมออกจากผู้ถือหุ้น และที่สำคัญดูเป็นเรื่องตลกเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น ผมได้เสนอกับศาลไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งศาลท่านก็พิจารณาแล้วว่าเรื่องที่ผมเสนอไปมีมูลก็เลยประทับรับฟ้องไปเรียบร้อย ฉะนั้นต้องย้อนถามถ้าคุณมีหลักฐานหรือพยานทำไมไม่เอายื่นไปตอนที่ไต่สวนมูลฟ้องถูกไหมคุณจะได้ไม่ต้องเป็นจำเลย

เขาบอกว่าทนายคนดังกล่าวที่เป็นพยานหายไปแล้ว?

มันไม่ใช่ประเด็น ใครๆ ก็พูดได้ว่าผมรู้อย่างนั้น ผมรู้อย่างนี้ ประเด็นอยู่ที่ว่าผมเซ็นต์ยินยอมหรือเปล่า แล้วค่อยมาว่ากัน การที่จะมาพูดปากเปล่าอย่างนี้มันไม่มีน้ำหนักพอ

เขาบอกว่าเคยให้เงินจำนวนหนึ่งกับหนุ่มไปแล้วที่เคยอ้างว่าจะเอาไปผ่อนรถฮอนด้าแอคคอท 24 งวด งวดละ 40,000บาท เพราะให้เป็นค่าพรีเซ็นเตอร์?

ผมทำงานที่ไอซ์มอนเตอร์คือนั่งตำแหน่งประธาน ไม่ว่าจะเป็นทางเซ็นทรัล หรือเดอะมอลล์ ผมเป็นคนไปติดต่อขอเช่าพื้นที่ตลอด โดยการที่ให้จำเลยทั้ง2คน เป็นการติดต่อทีหลังซึ่งอันนี้ผมมั่นใจว่าผมมีพยานยืนยันเหมือนกัน รวมไปถึงการโปรโมทที่ให้แบรนด์ไอซ์มอนสเตอร์เป็นที่รู้จักในประเทศไทย

ทุกคนคงรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ผมทำงาน เงินเดือนผมควรมีไหม แน่นอนผมต้องมีงานเดือน ในปี52 ผมได้เงินเดือน 50,000 บาท ผมไปซื้อรถฮอนด้าแอคคอท ผมดาวน์เอง แต่เงินผ่อนเดือนละ40,000กว่าบาท ผมใช้เงินเดือนตรงนี้แหล่ะให้ทางบริษัทไอ ดู ไอซ์ เนี่ยแหล่ะเป็นคนจ่าย แต่ไม่ต้องเอาเงินเดือนมาให้ผม แต่ในมุมกลับกัน เงินปันผลรายปี กำไรล่ะ คุณต้องมีเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น อย่าว่าแต่เงินปันผลเลย จดหมายประชุมผู้ถือหุ้นยังไม่เคยมีเลย ผมก็มีพยานคนที่เคยเป็นผู้ถือหุ้นยืนยันเหมือนกัน สิ่งที่เขามาพูด ณ วันนี้มีประโยชน์ตรงไหน จะมาดิสเครดิตผมเหรอ คุณควรเอาเรื่องพวกนี้ไปฟ้องที่ศาลดีกว่า

เขาถามว่าหนุ่มต้องการอะไร?

ผมต้องการสิทธิ์ในส่วนของผม อย่างคุณเอาเงินไปลงทุนทำอะไรก็ต้องหวังกำไร เหมือนเอาเงินไปฝากธนาคารก็ได้ดอกเบี้ย ผมก็เรียกร้องในส่วนที่ควรได้ ไม่ได้เรียกร้องมากกว่าที่ควรจะได้

เขาบอกทุกสาขาว่าให้ดำเนินกิจการต่อได้ทั้งที่พี่หนุ่มเคยบอกให้หยุด?

ผมไม่ได้บอก แต่คนที่บอกคือเจ้าของสิทธิ์ทางฟิลิปปินส์เป็นคนบอก ผมไม่ได้เป็นคนชวนฟิลิปปินส์ให้มาจัดการเรื่องนี้ แต่เขาอ่านข่าวทั้งหมดแล้วเขาก็รู้สึกว่าหมดสัญญากับเขาเดือนมีนาแล้วติดต่อไปก็ไม่ติดต่อกลับ เขาเลยขออนุญาตมาร่วมแถลงข่าวกับผม

เขาบอกว่าเขาขอซื้อสูตรแบบซื้อขาด?

มันเป็นไปไม่ได้เพราะผมเห็นสัญญาและได้อ่านแล้ว ผมยืนยันว่าฟิลิปปินส์เขามีสิทธิ์เต็มที่การที่จะมาบอกว่าไปจดชื่อมอนสเตอร์ในเมืองไทย ก็ต้องบอกเลยว่าถ้าคิดใช้ช่องว่างทางกฎหมายจริงๆ ป่านนี้บริษัทแอปเปิ้ล หรือแมคโดนัลด์ คงเป็นของคนไทยไปแล้วครับ คือที่เขาพูดก็ถูกหุ้น 7 คนลงเงินคนละ 2แสนบาท ถือหุ้นเท่ากันหมด 15% ตัวผมเองมีเพิ่มเข้าไปคือเรื่องเซ็นต์สัญญากับแคนนอนประเทศไทย

ผมไปถ่ายแบบเพื่อโปรโมทสินค้าให้เขาด้วยค่าตัว 2ล้านกว่าบาท แล้วผมไม่ได้รับเงินแต่ขอเป็นกล้องวงจรปิดมาติดตามสาขาต่างๆ ของไอซ์มอนสเตอร์ เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง มาถึงวันนี้มันถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางร่วมกันผมขอส่วนที่ผมควรจะได้คืนไม่ได้ต้องการแบรนด์เป็นของตัวเอง

เขายืนยันว่าจะไม่มีการปิดแฟรนไชน์ทั้งหมด?

ผมไม่ทราบ แต่ฟิลิปปินส์โทรมาหาผมบอกแล้วว่าฟ้องแน่นอน ผมเป็นห่วงแค่แฟรนไชน์ที่ตอนนี้ใช้อยู่ ที่บางคนไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อจะมาเปิด แล้วถ้ามันถูกปิดจะทำยังไงกัน พยายามศึกษากฎหมายให้ดีๆ ก่อนที่จะเชื่อทางใดทางหนึ่ง เชื่อตัวคุณเอง แล้วจะได้เหตุผลว่าควรทำยังไง อย่าไปเสี่ยงดีกว่าเพราะกฎหมายระหว่างประเทศก็มีในสัญญาก็มีอยู่แล้วห้ามทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ หรือห้ามทำสินค้าแบบเดียวกันหลังจากไอ ดู ไอซ์ หมดสัญญาไปแล้วผมอ่านมาหมดแล้ว

แต่ทั้งนี้ผมไม่ส่วนเกี่ยวข้องในการฟ้องร้องเรื่องแบรนด์คนที่ฟ้องคือฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์เขาไม่ได้โง่ อินเตอร์เน็ตก็เช็คได้ เขาเห็นว่าไอซ์มอนสเตอร์มันโชว์หราว่ามีปัญหากันเขาก็เช็คทั้งหมดว่าคืออะไร ประกอบกับเดือนมีนาที่ผ่านมาสัญญาหมดลง เขาติดต่อคุณไม่ได้เขาก็ติดต่อมาทางผม ผมก็เล่าเรื่องให้ฟัง แต่การฟ้องได้แยกจากกันไม่เกี่ยวกันนะ

ซึ่งที่ผ่านมาผมได้ให้โอกาสคุณแล้วเพราะยังไงเขาก็คือน้อง ไม่รู้ว่าเขาไปฟังใครมาหรือตั้งใจอยากให้มันถึงที่สุดผมก็ต้องไปให้ถึงขั้นนั้นครับ