ยุ้ยมาจากดิน คำสารภาพจาก จีรนันท์ มะโนแจ่ม

เคยเป็นนางเอกที่มีงานละครในช่วงหลังข่าวภาคค่ำอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนางเอกละครเย็นไปแล้ว

 มาระยะหลังกลับห่างหายจากหน้าจอในช่วงเวลาดังกล่าว กระทั่งล่าสุดมีคิวละครเรื่อง "ชุมแพ" ซึ่งจะออกอากาศในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม นี้ให้ได้ชมกัน แฟนๆ ละครที่คิดถึงนางเอกสาวหน้าหวานนิสัยดี "ยุ้ย" จีรนันท์ มะโนแจ่ม เตรียมตั้งหน้าตั้งตารอชมกันได้แล้ว

  
ครั้งนี้ "คม ชัด ลึก" มีนัดสัมภาษณ์พูดคุยกับเธอ ถึงเรื่องราวในชีวิตการงานที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อน

รวมถึงชีวิตครอบครัวที่เธอทำหน้าที่เป็นเสาหลัก และพลาดไม่ได้กับเรื่องหัวใจที่ปลูกต้นรักกับมือเบสวง "บอดี้สแลม" อย่าง "ปิ๊ด" ธนดล ช้างเศวก ว่าแล้วตามมากันเลยดีกว่า



เหมือนจะห่างหายจากหน้าจอไปนานหากเทียบกับก่อนหน้านี้


ก่อนหน้านี้ก็มีละคร "ฝนเหนือ" ที่จบไป และล่าสุดก็เรื่อง ชุมแพ ที่เพิ่งเริ่มออกอากาศ ที่ดูเหมือนยุ้ยหายไปอาจเพราะถ่ายละครของอาหลอง (ฉลอง ภักดีวิจิตร) ก็เกือบสองปีแล้ว และตอนนี้นางเอกเยอะด้วย งานเลยกระจายๆ กันออกไป มีคนถามเหมือนกันว่าหายไปไหน ยุ้ยก็บอกว่ายุ้ยทำงานตลอด แต่โดยมากละครถ่ายต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยได้เจอใคร รวมถึงยุ้ยไม่ค่อยชอบออกงานด้วย นอกจากงานที่จำเป็นต้องไปจริงๆ


ร่วมงานกับผู้กำกับ ฉลอง ภักดีวิจิตร เป็นอย่างไรบ้าง


ดีมาก ตอนนี้ยุ้ยรักกองอาหลอง อาหลองใจดีมาก ดูแลยุ้ยดีจริงๆ

มีข่าวว่าจริงๆ แล้วนางเอกช่อง 7 สี หลายคนไม่ค่อยกล้าจะร่วมงานกับอาหลอง เพราะกองนี้ถ่ายทำละครใช้เวลานานมาก


 ตอนแรกได้ยินมาก็กลัว แต่พอมาสัมผัสได้ทำงานกับอาหลองจริงๆ อยากจะบอกทุกคนด้วย ว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ยิ่งทำงานด้วย ก็ยิ่งรักกองอาหลอง ทุกคนดีกับยุ้ยมาก ถึงจะลำบากก็ไม่ได้ลำบากแค่ยุ้ย ทุกคนลำบากกันหมด อย่างถ่ายละครเรื่องอื่นก็ลำบากเหมือนกัน เพียงแต่เรื่องนี้จะเหนื่อย เพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด และยุ้ยเลือกจะไม่นอนโรงแรม เพราะกลัว นอกจากดึกจริงๆ ก็จะบอกให้ผู้จัดการนอนด้วย รู้สึกว่าไม่เสียแรงที่ร่วมงานกับอาหลอง อาอยากให้ร่วมงานอีกยุ้ยก็ยินดี ถ้าเป็นอาหลองยุ้ยเต็มที่ ปิดกล้องเสร็จยุ้ยก็ไปกราบอา อาก็กอดยุ้ย ไม่เห็นน่ากลัวเหมือนที่หลายคนขู่มาเลย



นางเอกช่อง 7 เยอะขึ้น แต่หากเทียบกับนางเอกรุ่นราวคราวเดียวกัน ดูเหมือนปริมาณงานของยุ้ยจะน้อยกว่าคนอื่น

มีความสุขแล้ว และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ โดยเฉพาะเชื่อใจกับการตัดสินใจของผู้ใหญ่ ท่านมอบอะไรให้ทำ ยุ้ยก็ทำ เราทำแล้วไม่ลำบากใจ ก็โอเคแล้ว เพราะถือว่าชีวิตในวันนี้ได้อะไรมามากกว่าที่ตัวเองฝันแล้ว

บางกระแสบอกว่าเป็นเพราะยุ้ยเปิดตัวเรื่องความรักเลยทำให้งานลดน้อยถอยลงไป


ไม่เกี่ยว เพราะถึงแม้จะเปิดตัวเรื่องความรัก แต่การทำงานหรือนิสัยของตัวเอง มั่นใจว่าไม่เคยเปลี่ยน แต่ถ้ามันจะน้อยลง คงจะเป็นเพราะตัวของมันเอง ไม่เกี่ยวกับเรื่องของความรักหรอก เป็นจังหวะมากกว่า เป็นความบังเอิญ

6 ปีในวงการบันเทิงมีเรื่องราวที่ทำให้ท้อ หรือบั่นทอนจิตใจมากน้อยแค่ไหน


ไม่เคยมีเลย วงการบันเทิงก่อนจะเข้ามาหลายคนบอก ว่าน่ากลัวแบบนั้น แบบนี้ แต่พอเข้ามาจริงๆ กลับไม่ใช่แบบนั้น วงการนี้ให้อะไรกับยุ้ย ทำให้ชีวิตยุ้ยเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทั้งนั้น แทบจะให้ชีวิตใหม่กับยุ้ยและครอบครัวเลยทีเดียว

ในเรื่องของข่าวก็ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจ หากเทียบกับคนอื่นถือว่าเจอน้อยมาก

การอยู่วงการนี้ถ้าไม่มีข่าวสิเป็นเรื่องแปลก กับการที่จะมีข่าวไม่ดี ก็เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่เราต้องเจอบ้าง ขอแค่ผู้ใหญ่ คนที่เรารัก และคนในครอบครัวเข้าใจพอแล้ว



ทั้งๆ ที่คนจะมองว่านางเอกช่อง 7 จะออกแนวความเซ็กซี่เป็นส่วนมาก แต่ยุ้ยกับตรงกันข้าม

ขอเป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบนี้แล้วกัน (หัวเราะ) เวลาจะถ่ายแบบให้ทำหน้าเซ็กซี่ ก็บอกเขาว่าได้แค่นี้แหละ

แล้วถ้ามีคนมาพูดให้ได้ยิน ว่าดาราตอนนี้เขาดังได้เพราะขายเซ็กซี่ ซึ่งไม่ใช่แนวยุ้ยเลย อยากจะพูดอะไรกับเขา


จะบอกว่าไม่จริงและไม่จำเป็นหรอก อย่างตัวยุ้ยที่ยังอยู่ได้ แม้จะไม่มีงานเยอะเหมือนคนอื่น แต่ขอให้เรายังมีงานที่ดีทำ งานที่ถูกต้องทำ และเป็นงานที่มีความสุข โดยที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงตัวเอง แม้มันจะไม่ได้โด่งดังอย่างคนอื่น แต่มันดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว ทุกครั้งที่ไหว้พระ ยุ้ยจะขอให้ชื่อเสียงโด่งดังไปในทางที่ดี โดยที่ตัวเองก็จะทำตัวดีๆ และขอให้เจอสิ่งดีๆ จะไม่เน้นว่าจะต้องไปเซ็กซี่แล้วดัง แต่คนที่ขายเซ็กซี่แล้วเขามีฝีมือจริงๆ ก็มีเยอะ แต่ตัวเองขอขายคุณภาพดีกว่า


"ชีวิต" ที่พอเพียง


เวลานี้สมาชิกในครอบครัวหายไปหนึ่งคน (คุณตา) บรรยากาศในบ้านเป็นอย่างไรบ้าง

(ร้องไห้) ขอโทษทีนะคะ พูดเรื่องนี้ทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเลย (ซับน้ำตา) บรรยากาศในครอบครัวตอนนี้ ก็ยังมีความสุขและอบอุ่นเหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะเหงาขึ้น แต่ยุ้ยก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ยายกับแม่ก็ดีขึ้น เพราะเวลาผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ตัวเองก็ต้องเข้มแข็งขึ้น แต่ยังไงตาก็ยังอยู่ในใจ สิ่งที่เป็นห่วงตอนนี้คือยาย ไม่อยากให้ยายเหงา ซึ่งยายเองก็เข้มแข็ง เพื่อทำให้เรารู้สึกดี ต่างคนต่างพยายามทำให้กันและกันรู้สึกดี ทุกครั้งที่มีเวลา ยุ้ยจะพาแม่ ยายและหลานๆ ไปเที่ยว ไปทำบุญ อยากทำให้ครอบครัวมีความสุขที่สุด

รู้สึกกังวลหรือเป็นห่วงอะไรบ้าง ณ เวลานี้


ห่วงที่สุดคือแม่กับยาย อยากให้เขาแข็งแรง ทุกวันนี้ขออย่างเดียว ขอให้ทั้งสองคนแข็งแรงและมีอายุยืน

ในมุมเดียวกันรับรู้ได้ไหมว่าทั้งยายและแม่ห่วงอะไรยุ้ยที่สุด


ยายน่ะ ถ้ายุ้ยยังไม่กลับบ้าน เขาจะนอนไม่ค่อยหลับ จะรอ ถ้าเรากลับถึงบ้านเขาจะดูมีความสุข เข้านอนอย่างสบาย ถ้าวันไหนตื่นเช้า ยายก็จะถามแล้ว ว่าไปทำงานแต่เช้าเลยหรือลูก ตัวยุ้ยเอง ถ้าทำงานเลิกเร็ว และจะแวะไปไหนก็จะโทรบอกยาย ให้ยายไม่ต้องกังวล แต่ก็จะรีบกลับบ้าน



คิดว่าความเป็นคนกตัญญูมีส่วนผลักดันให้ชีวิตยุ้ยดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน

มีมากร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ที่ผ่านมายุ้ยมาจากศูนย์ มาจากดิน มาจากคนที่ไม่มีอะไรเลย ชีวิตที่เข้าวงการมามีกระเป๋ามาใบหนึ่ง แม่ก็มีอีกใบ สองคนแม่ลูกคนละใบ เข้ามาอยู่ในห้องพักสี่เหลี่ยมที่ไม่มีอะไรเลย แต่ทุกวันนี้มาเกินฝัน เรามีทุกอย่างที่พร้อมหมดแล้ว มาจากความที่เราเป็นคนกตัญญู คิดดี ทำดีแน่นอน ยุ้ยคิดว่า ยุ้ยพร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงิน บ้าน รถ พี่สาวก็มีอาชีพที่ดีแล้ว และตัวเองก็ขอแค่ให้มีงานที่รักทำต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ที่สำคัญสุดอยากให้แม่กับยายแข็งแรงมากๆ


"ความรัก" ที่ลงตัว ตอนนี้ความรักกับปิ๊ดเป็นอย่างไรบ้าง 

ดีมาก เขาเข้ากับครอบครัวยุ้ยได้ทุกคน แม่กับยายก็รักเขา แม่มีอะไรก็โทรหาเขา โทรฝากว่าให้ช่วยดูแลยุ้ยดีๆ นะลูก ตัวปิ๊ดเองเขาก็เป็นผู้ใหญ่มาก และช่วยดูแลยุ้ยและครอบครัวด้วย ตอนนี้ยุ้ยอายุ 26 ส่วนเขา 28 แต่เขาดูโตและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่ายุ้ยเยอะเลย ทั้งๆ ที่ยุ้ยคิดว่าตัวเองโตและเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เขามีมากกว่าเราเสียอีก

คาดหวังกับรักครั้งนี้ไว้แค่ไหน


มีความสุขมากนะตั้งแต่คบกับเขา อนาคตมันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ก็ไม่อยากจะไปหวังอะไรกับมันมากเกินไป แต่จะทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาก็คือบทพิสูจน์แล้วว่าเราทำได้ และก็ทำได้ดี เราสองคนต่างดูแลกันและกัน และคิดว่าคงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ยุ้ยก็เต็มที่ ปิ๊ดก็เต็มที่ ขอแค่การกระทำหรือความรู้สึกของเราสองคนไม่ลดน้อยลงไปกว่านี้ก็พอแล้ว

เคยนั่งคุยกันถึงชีวิตครอบครัวของเราสองคนในอนาคตบ้างหรือยัง 

คงจะอีกสักพักหนึ่ง ปิ๊ดเองเขาก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ปิ๊ดบอกว่าวันหนึ่งเราจะอยู่ด้วยกัน เขาไม่อยากให้ยุ้ยเหนื่อยมาก และเขาจะดูแลยุ้ยและครอบครัวยุ้ยให้ดี เพราะครอบครัวยุ้ยก็ไม่มีใครแล้ว นอกจากยุ้ย แม่และก็ยาย ยุ้ยอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีแฟนที่ดี


ถือว่าตัวเองโชคดีไหมที่เจอผู้ชายคนนี้


โชคดีมาก (น้ำตาไหล) เพราะปิ๊ดเขาดี น่ารัก ชีวิตยุ้ยตั้งแต่เจอเขา มีความสุขมาก เขาก็เป็นกำลังใจให้ทุกเรื่อง

ปิ๊ดเองก็ต้องโชคดีที่เจอยุ้ย


ตัวเขาเองจะพูดเสมอ ว่าเขาก็โชคดี เขาจะบอกว่ายุ้ยเป็นผู้หญิงในอุดมคติเขาแทบจะทุกอย่างแล้ว ส่วนครอบครัวปิ๊ดก็ดีมาก ทุกคนน่ารัก เพราะเขาก็ชอบยุ้ยกันอยู่แล้ว รักยุ้ยทุกคน ยายกับแม่เขาถามตลอด ว่าเมื่อไรจะแต่งงาน พอยายถามปิ๊ด เขาก็จะเรียกยุ้ยให้เข้าไปหายาย บอกว่ายายมีอะไรจะถาม พอยายถามมา ยุ้ยก็จะอึ้งตอบไม่ถูก (ยิ้ม) คือยายเขาแก่แล้ว เขาก็อยากอุ้มหลาน เพราะปิ๊ดเป็นหลานคนโต

ภาวะครอบครัวของเราจะเหมือนกัน ปิ๊ดจะเป็นคนรักครอบครัวมากเหมือนกับยุ้ย

เวลามีอะไรก็ตามแต่ ยุ้ยกับปิ๊ดจะบอกกันเสมอ ว่าเราต้องให้ครอบครัวก่อนเป็นอันดับแรก ยุ้ยจะบอกปิ๊ด ว่าถ้าปิ๊ดไม่รักแม่ ไม่รักครอบครัว ยุ้ยก็จะไม่รักปิ๊ดเหมือนกัน และปิ๊ดก็บอกเสมอ ว่าที่เขารักยุ้ยก็เพราะยุ้ยเป็นแบบนี้ ความเหมือนตรงนี้ ยิ่งทำให้เราผูกพันกันมากขึ้น


แบบนี้เขาเรียกว่าไม่ต้องขายโป๊ หรือเซ็กซี่ แต่ขายความดีบวกกับความน่ารักแล้วกันเนอะ



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์