ชื่อนี้เสียงนี้...ใช่ ‘โดม’ เดอะสตาร์ คนที่ 8

หลังจากที่ผมได้เฝ้าติดตามรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 8 มาตั้งแต่ต้น ได้เห็นหนุ่มสาวทั่วฟ้าเมืองไทยกว่า 2 หมื่นคน

หลั่งไหลเข้ามาเพื่อค้นฟ้าคว้าดาว จนกระทั่งได้เฝ้าดูการแข่งขันที่สุดแสนจะเข้มข้นมานานถึง 6 เดือนเต็ม ในที่สุดผมก็ได้เห็นหนุ่มใต้เสียงทรงพลัง ผู้เป็นความหวังของครอบครัว โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 ที่ได้คะแนนโหวตจากคนไทยทั้งประเทศ จนคว้าตำแหน่งเดอะสตาร์ คนที่ 8 ของเมืองไทยไปครอบครองได้สำเร็จ มีแววตาที่เปี่ยมความสุขแบบจริงๆ จังๆ ได้เสียที หลังจากที่ต้องต่อสู้กับคนมีความฝันที่ไม่ต่างจากเขาเลยแม้แต่น้อย



“ผมไม่คิดไม่ฝันจะว่าจะมาถึงจุดนี้ได้จริงๆ ครับ ตอนที่ยืนอยู่สองคนบนเวทีเพื่อรอฟังผล ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มันตื่นเต้นและอื้ออึงไปหมด พอได้ยินชื่อตัวเอง ก็ช็อกทำอะไรไม่ถูก สิ่งแรกที่ทำคือหันไปมองหาพ่อ และอยากบอกพ่อว่า ‘ผมทำได้แล้ว ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนคอยดูแลที่บ้านเอง’”

จากที่เคยต้องทำงานหาเงิน แบ่งเบาภาระของพ่อที่ป่วยเป็นเส้นโลหิตในสมองแตกมาก่อนหน้านี้ ด้วยการร้องเพลงกลางคืน ก่อนตัดสินใจเข้าประกวดรายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว จนได้เป็นแชมป์สมความตั้งใจ อาจเป็นแสงสว่างตรงปลายอุโมงค์ที่ทำให้ครอบครัวเชี่ยวอร่าม มองเห็นทางสดใสได้มากขึ้น

คุณพ่อของโดมได้บอกกับผมด้วยสีหน้าแววตาที่ตื้นตันใจ “น้องโดมเป็นเด็กดี คิดว่าความดีนี้คงจะไม่ลดลง มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น”

ด้วยความที่เป็นเด็กดีของครอบครัว เป็นเด็กดีของคุณครูจากบ้านเดอะสตาร์ ทำให้ทุกโชว์ของเขาทำให้ โจ้ สุธีศักดิ์ ม้า อรนภา และเพชร มาร์ โลโก้ประจำรายการเดอะสตาร์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ แม้จะมีข้อติบ้างตรงรูปร่างหน้าตา แต่นั่นใช่เป็นปัญหาหรือประเด็นใหญ่


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม


“ผมคิดอยู่เสมอว่าทุกคำติชมจากคุณครู และพี่โจ้ พี่ม้า พี่เพชร คือแรงผลักดันที่ดี ที่ทำให้ผมต้องคอยพัฒนาตัวเองตลอดเวลา อะไรที่ปรับได้ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ เหนื่อยบ้าง แต่ไม่เคยท้อครับ เพราะผมคิดว่านี่เป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้ง่ายๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้เจอหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่ไม่เคยเจอ ดังนั้นผมต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่น่าจดจำนี้ให้ได้มากที่สุด

ตั้งแต่ตอนมาประกวด ผมไม่ได้คิดฝันว่าจะมาถึงขั้นนี้ ขอแค่ได้ผ่านเข้าไปแต่ละรอบๆ ก็ดีใจแล้ว พอมันผ่านมาเรื่อยๆ จนได้เป็น 8 คนสุดท้าย ก็ดีใจมาก หากถามผมว่าในการแข่งขันครั้งนี้ ใครคือคู่แข่งขันที่น่ากลัวที่สุด ผมไม่ได้มองว่าใครเป็นคู่แข่งขันเลย ในแต่ละวีกผมจะมองดูว่าใครทำโชว์ได้ดีที่สุด แล้วผมก็จะเอาใจช่วยให้เขาเข้ารอบมากกว่า”

ผมถามโดมว่า วีกไหนที่โดมร้องเพลงแล้วมีความสุขที่สุด และวีกไหนที่เครียดและกดดันที่สุด โดนยิ้มตามสไตล์ของเขา...

“วีกแดนซ์เป็นวีกที่สนุกมากๆ ครับ เพราะว่าวีกก่อนหน้านี้ ผมกดดันกับอะไรหลายๆ อย่างมาก พอมาวีกแดนซ์มันเหมือนได้ปลดปล่อย ก็เลยมีความรู้สึกสนุกมากๆ ส่วนวีกที่กดดันที่สุดคือ วีกแรก ไม่ใช่วีกเปิดตัวนะครับ แต่เป็นวีกที่เป็นการแข่งขันจริงๆ คือผมกดดันตัวเองที่อยากทำผลงานให้ดีจริงๆ พยายามหาอะไรแปลกใหม่มาใส่ พอมันไม่ลงตัว หรือไม่ได้อย่างที่เราต้องการ มันก็เลยกลายเป็นความกดดัน”

ใครหลายคนอาจจะคิดว่า การที่โดมได้ผ่านความกดดันมามากมาย จนมาถึงวันนี้ ความสำเร็จที่โดมได้รับ คือ “ฝันดีของโดม” แต่สำหรับเจ้าตัว เขารีบบอกกับผมว่า มันเกินกว่าฝันมากกว่าต่างหาก “วันนี้ เวลานี้ ผมก็ยังถามตัวเองว่า นี่ผมฝันไปหรือเปล่า ผมไม่คิดจริงๆ ว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ จากนี้ไปผมคงมีคนที่รู้จักผมมากขึ้น ผมสัญญาว่าจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี และทำทุกๆ วันให้มีความสุขครับ”


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม


ถ้าทุกๆ วันของโดมหลังจากนี้ คือการได้ทำงานในวงการบันเทิงแบบจริงๆ จังๆ ได้ออกรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ หรืองานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อโปรโมตเพลงเอกของเขา ในอัลบั้มเดอะสตาร์ 8 เพลงเอกของเขาที่ชื่อว่า “คำอธิษฐานด้วยน้ำตา” น่าจะเป็นอีกหนึ่งความสุข ที่เขาพร้อมจะถ่ายทอดมันออกไปสู่คนไทยทั้งประเทศ ให้มีความสุขร่วมไปกับเขาด้วย

โดมเล่าให้ผมฟังว่าเพลงคำอธิษฐานด้วยน้ำตา ฟังครั้งแรกก็ชอบเลย เป็นเพลงที่เพราะมากจริงๆ ทั้งเมโลดีและเนื้อร้อง

“ผมฟังครั้งแรกในรถตู้ น้ำตาไหลเลย มันมีหลายความรู้สึกมากในตอนนั้น ความรู้สึกแรก คือ มันเป็นเพลงของตัวเองเพลงแรกในชีวิต อย่างที่สอง คือ มันเพราะมาก แล้วเพลงนี้โปรดิวเซอร์บอกว่าผมสามารถตีความได้สองอย่าง คือ เราจะตีความเกี่ยวกับคนที่บ้านเราก็ได้ หรือจะเอาไปตีความกับคนรักหรือใครก็ได้ ซึ่งพอได้ตีความ ได้ร้องในห้องอัด ร้องโชว์ในมินิคอนเสิร์ต 30 นาที และคอนเสิร์ตประกาศผล

ผมว่าเพลงนี้มันเศร้า แต่เศร้าจากความสุขข้างในใจ พอได้รับเกียรติจาก พี่บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ มาช่วยดู ช่วยบอก ช่วยตีความให้ในห้องอัด ทำให้ผมเข้าใจเนื้อหาของเพลงได้มากขึ้น และก็ถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างผ่อนคลาย และมีความสุขที่ได้ร้องเพลงๆ นี้ครับ”

กับวงการบันเทิงก้าวต่อไป โดมมีความมุ่งหวังในใจอย่างไร ใครหลายคนอาจอยากรู้ ซึ่งพอผมได้ลองถามโดมไป ผมเห็นได้ว่าเขามีแววตาแห่งความมุ่งมั่น ก่อนตอบอย่างฉะฉานว่า

“จริงๆ แล้วผมอยากทำทุกอย่างครับ ไม่ว่าใครจะให้ทำอะไร ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ผมไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง แต่ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ต้องการโอกาสจากทุกๆ คน ผมเลยอยากได้รับโอกาส เพื่อให้ผมพัฒนาตัวเองและฝึกฝนฝีมือไปเรื่อยๆ”

แต่โอกาสที่ดีมักจะมาพร้อมกับขีดจำกัดบางประการ โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักที่เขาต้องเอาชนะมันให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องดูลดน้อยลงจากวันแรกที่เขาเดินทางเข้ามาประกวด

ผมกระเซ้าเย้าแหย่ถามโดมเล่นๆ ว่า วันแรกที่เข้ามาหนักเท่าไหร่ และตอนนี้เหลือเท่าไหร่ เขาตอบอย่างไม่เคอะเขิน “วันแรกที่ผมเข้ามาสมัคร ผมน้ำหนัก 103 กิโลกรัม และตอนนี้ก็ลดลงเหลือ 86 กิโลกรัม ลดลงไปได้ 17 กิโลกรัม และจะต้องลดลงต่อไปอีก เพื่อสุขภาพและอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งผมจะฟิตร่างกายต่อไปเรื่อยๆ ครับ เพื่อให้สมกับการเป็นเดอะสตาร์ คนที่ 8 ของเมืองไทย ที่ต้องใช่ทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถ”

แล้วกับคำว่าเดอะสตาร์ คนที่ 8 ของเมืองไทย เขารู้สึกอย่างไร


“ผมภูมิใจมากครับ”

คำตอบที่สั้นง่ายแต่ได้ใจความของโดม ซึ่งน่าจะทำให้คนไทยทั้งประเทศ ช่วยสนับสนุนเขาต่อไปอีกเรื่อยๆ


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม


โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม

ขอบคุณข่าวจาก



ชื่อนี้เสียงนี้...ใช่ ‘โดม’ เดอะสตาร์ คนที่ 8

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์