แร๊งส์! พจน์ อานนท์มั่นใจโดนเกลียดสบถ...กูไปทำอะไรให้มึง อยากรู้จริงๆ

"กูไปทำอะไรให้มึง อยากรู้จริงๆ"

เคยทำ "ปล้นนะยะ" เมื่อ 9 ปีก่อน แล้วตอนนี้ อานนท์ มิ่งขวัญตา หรือที่คุ้นกว่าในชื่อ "พจน์ อานนท์" ก็นำหนังภาค 2 "ปล้นนะยะ อั๊ยย่ะ" มาเสนอ

แล้วก็เหมือนเคย ที่ไม่ทันไรก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวงานตามมา

แต่ที่ต่างไปก็คือ นอกจากพจน์จะบ่นๆ ว่าๆ "ข่าว" ยังลือมาว่าอาจมีฟ้อง

เท็จ-จริงยังไง ผู้กำกับที่ไม่เผยอายุ ยืนยันเพียงว่ายังเป็น "วัยรุ่น" บอกว่า "เดี๋ยวจะบอกอีกที"

.....

พจน์ซึ่งทำหนังมาแล้วกว่า 20 เรื่อง ในลักษณะที่ "ใช้ชื่อตัวเองมั่ง หลบๆ ไม่ใช้มั่ง เพราะต้องการเทสต์ว่าตลาดเขาเอาไหม ถ้าไม่ใช้ชื่อเราคนจะดูไหม" เขาพูดแบบปากยิ้ม

แต่สายตาไม่ยิ้มด้วย

"ความจริงเราทำหนังได้หลายอย่างนะ แต่คนชอบคิดว่าทำได้อย่างนี้อย่างเดียว"

อาจจะเพราะหนังตระกูล หอแต๋วแตก, ปล้นนะยะ ประสบความสำเร็จล้นหลาม งานอย่าง 18 ฝนคนอันตราย, เอ๋อเหรอ, ศพเด็ก 2002 ฯลฯ จึงไม่ถูกนึกถึง

"แล้วก็วิจารณ์กันว่า พจน์ทำเป็นแต่หนังปัญญาอ่อน"

"ซึ่งไม่จริง" เขาบอก

เพราะ "ถ้าไม่มีอคติกับเรา แล้วดูเนื้อหนัง หนังเราก็ไม่ได้น่าเกลียดนะ"

พจน์ซึ่งมีท่าทีซีเรียสและน้ำเสียงจริงจังยังบอกย้ำว่า "แต่นี่คนอคติ"

"จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่พอเราทำดี ก็บอกไม่ดี โดยเราก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เขา"

ถึงตอนนี้เสียงที่เคยเรียบเริ่มสูงๆ ต่ำๆ ตามอารมณ์ที่จี๊ดขึ้น

"หรือเขาอิจฉา เพราะว่าปีนึงเราทำหนัง 4-5 เรื่องหรือเปล่า หรือเราคิดไปเอง แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขานี่ แค่คุณด่าเรา เราก็ด่ากลับ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่ ทุกคนก็ป้องกันตัวเองไง

"คนถึงไม่ค่อยกล้ามาเล่นกับเรา เพราะเราป้องกันตัวเองตลอดเวลาว่าอย่ามายุ่งกับกูนะ ถ้ายุ่งกูก็ไม่ปล่อย ทำไมล่ะ เราจะยอมให้คนว่าเราเสียๆ หายๆ เหรอ

"แล้วเราเป็นคนตรงไง ถ้าเห็นอะไรไม่ถูกต้องจะพูด"

พจน์ อานนท์

ที่ผ่านมาเขาจึงพูดเรื่องนั้น นี้ โน้น บางเรื่องก็พาให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

"แต่ถ้าไม่พูดความจริงจะปรากฏหรือ

"ไม่ได้ ผิดก็ต้องบอกว่าผิด ยอมรับผิด แล้วคนจะอภัย อย่างเราพูดผิดยังขอโทษเลย"

อย่างตอนนำ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ไปเทียบกับ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ในลักษณะว่าเดี๋ยวนี้ชมพู่มีงานมากกว่า ซึ่งหลังนอนคิดทั้งคืน รุ่งขึ้นก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา "บอกอั้มพี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ"

ส่วนที่ใครๆ ไม่ชอบเขานั้น พจน์ว่าถ้าเขารู้ว่าทำอะไรผิดไป ก็เต็มใจจะขอโทษ

"แต่เราไม่รู้ไง

"ที่คนในพันทิปไม่ชอบพจน์ อานนท์ ไม่ชอบเพราะอะไรเพราะเราไม่ยอมเขาใช่ไหม ต้องปล่อยให้เขาด่าแล้วเราเงียบๆ เหรอ

"เคยสืบว่าคนที่ด่าเป็นใคร ก็เป็นคนในวงการนี่แหละ เป็นผู้กำกับหนังอีกค่ายด้วยซ้ำ เราก็งง หรืองานเราเยอะอย่างที่ว่า

"ยอมรับนะว่าไม่สามารถทำให้คนทั้งล้านคนรักเราได้ แต่ไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงได้เกลียดเรานัก บางคนยังไม่ทันดูหนังเลยวิจารณ์แล้วมันไม่ยุติธรรม

"แต่ไม่เป็นไร เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เพื่อให้คนด่า"

ฟังจากเสียงแล้วเหมือนปลง แต่ด้วยความเป็นพจน์ อานนท์ เลยต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าพูดไปด้วยอารมณ์ไหนนี่

"เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ" เขาย้ำ

"แล้วถ้าไม่มีข่าวด่าไป ด่ามา เราก็เงียบนะ เพราะสังคมไทยชอบเรื่องฉาวไม่ชอบเรื่องดี เราได้รางวัลจากเมืองนอกมา 4-5 ตัว ไม่มีใครพูดถึง "เอ๋อเหรอ" ได้ "เพื่อนกูรักมึงว่ะ" ได้ เงียบกริบเลยแถมตอนหนังฉาย บอกไม่ดี

"มึงยังไม่ดูหนังกูเล้ยยยย" เขาว่า

ก่อนจะยอมรับ "น้อยใจนะ

พจน์ อานนท์

แต่ไม่รู้จะทำไง จะบังคับให้เขารักได้ยังไง

"หนังอย่างศพเด็ก สมอลล์รูฯ สนุกกว่าหนังตั้งหลายเรื่อง แล้วทำไมต้องด่าไม่ดีอย่างนี้ อย่างนั้น

"เก่งจริง แสดงตัวซิ อย่าเป็นอีแอบ มาคุยกัน ไม่ชอบฉันเพราะอะไร ฉันทำอะไรให้ อย่าด่าลับหลัง ด่าลับหลังมาทำหนังไหมจะเป็นโปรดิวเซอร์ให้ ให้รู้ไปเลยว่าทำได้ไหมเก่งกันนัก"

พูดแล้ว พจน์ก็ว่าเดี๋ยวต้องโดนด่ากลับอีก-แต่ไม่เป็นไร

"เพราะโดนมา 10 ปี ชินแล้ว

"แต่ฝากถามหน่อย ให้นั่งคิดดีๆ ว่าพจน์ อานนท์ ไปทำอะไรให้ถึงได้เกลียด

"ถ้าพูดแบบพจน์ อานนท์ คือกูไปทำอะไรให้มึง"อยากรู้จริงๆ"

.....

"จริงๆ เป็นคนชอบหนังสไตล์ "18 ฝนคนอันตราย, เอ๋อเหรอ, เพื่อนกูรักมึงว่ะ" แต่เขาไม่ค่อยให้ทำ จะให้ทำ "หอแต๋วแตก, ตุ๊ดตู่กู้ชาติ, ปล้นนะยะ" ชอบหนังแบบ "Life is Beautiful" หนังเกาหลี "Spring, Summer, Fall, Winter...and Spring" แล้วก็ "Million Dollar Baby" แต่จะให้ทำแบบ "เอ๋อเหรอ, เพื่อนกูรักมึงว่ะ" ตลอด ก็ไม่ต้องกินอะไรกันแล้ว

"ถ้ามีเงินสัก 100 ล้านค่อยว่ากัน"

พจน์ อานนท์

โดยในวันที่ "ยังมีไม่ถึง" อย่างนี้เขาจึงเลือกทำงานอย่างที่เป็นอยู่ ขณะเดียวกันก็เลือกเปิดบริษัท อารมณ์ดีมีสุข ทำหนังอย่างที่ตัวเองอยากทำ แบบ นานๆ ที

ทำออกมาแล้วใครจะดู ไม่ดูก็ไม่เป็นไร

"แต่ใครด่ากูอย่างไม่มีเหตุผลกูก็ด่ามึงกลับ

"แค่นั้นเอง"

คนแบบ "พจน์"

"จริงๆ เป็นคนบ้าๆ บอๆ เก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิง ต่างจากภาพ ที่เป็นคนแรง ปากหมา ไม่ยอมคน เหวี่ยงแล้วก็วีน

"แต่นั่นเป็นเกราะไว้ป้องกันตัว เราไม่ชอบให้ใครมารังแก แต่พอสู้ก็หาว่าเราร้าย

"เราสู้ด้วยตัวเองมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตไง เป็นคนจนไม่มีจะกินต้องรับจ้างล้างจาน ทำงานเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่อายุ 16 ส่งผลให้เราแข็งแรง ไม่ยอมแพ้และจะไม่ยอมลำบากอีกแล้ว เราถึงไม่ยอมคนไง

"เพื่อนก็ไม่มี ไม่ชอบเรื่องมาก แล้วมีเพื่อน เพื่อนต้องโทร.มายืมเงิน สู้ไม่มีเลยดีกว่า เพราะยืมแล้วเดี๋ยวไม่ใช้ทะเลาะกันอีก เคยเจอบ่อย ไม่เคยได้คืน

"แฟนก็ไม่มี ไม่คิดจะมี เพราะเคยมีแล้วรู้สึกว่าต้องเอาชีวิตเขามาผูกกับเรา ไม่เอาดีกว่า"

บอกด้วยว่าทุกวันนี้มีบ้าน 2 หลัง หลังที่อยู่ประจำอยู่ที่ลาดพร้าว ซอย 1 ซึ่งมีเนื้อที่ 100 ตารางวา แต่บริเวณใช้สอยจริงๆ น่ะ ก็แค่ห้องนอนห้องเดียว

"อยู่ในห้องก็นอนคลุมโปง กลิ้งไปกลิ้งมา เดินไปเดินมา ออกจากห้องก็ไปดูหนังคนเดียวแล้วกลับบ้าน กินข้าวยังไม่กินข้างล่างเลยซื้อมากินในส้วมกลัวกลิ่นเหม็นเข้าห้อง

"ถ้าถามว่าเป็นคนดีไหม คนเรามันไม่ดี 100% หรอก ต้องมีเลวด้วย แต่ภาพที่ออกมามันเลวเยอะกว่าดีไง

"แต่ยืนยันว่าเราไม่ร้ายแบบภาพที่เห็นหรอก"

พจน์ อานนท์