“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด


หลังจากหายหน้าไปเลี้ยงน้อง “ไลลา” อยู่พักใหญ่ ล่าสุดนางเอกสาว พอลล่า เทเลอร์ ก็กำลังเปิดเว็บไซต์ “พอลล่าแอนด์เบบี้” (www.paulaandbaby.com) เพื่อแชร์ประสบการณ์เลี้ยงน้องให้แก่คนอื่น ๆ ได้รับรู้ นอกจากนี้เจ้าตัวยังแย้มว่ากำลังจะมีผลงานในวงการบันเทิงอีกครั้งด้วย มีทั้งหน้าที่คุณแม่ที่ต้องรับผิดชอบ บวกกับต้องทำงานที่ตัวเองรัก งานนี้เลยต้องฉกตัวสาวพอลล่ามานั่งคุยสักหน่อยว่าชีวิตตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง





ทำไมถึงมาทำเว็บไซต์นี้ได้?

“ตอนนั้นที่อุ้มท้อง “ไลลา” อยู่ ก็กลัวว่าจะไม่มีอะไรทำและเราเองก็ใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตเยอะมาก เลยรู้สึกเสียดายเวลา อยากทำอะไรที่มีประโยชน์ เลยทำให้อยากทำเว็บไซต์นี้ขึ้นมา ซึ่งพอทำแล้วก็รู้สึกสนุกนะ มันก็ยากกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่าแค่เขียน ๆ ไปแต่ความจริงแล้วมันต้องหาข้อมูล คอยอัพเดทเรื่อย ๆ ก็เยอะเหมือนกัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายดี แล้วเราก็ทำเป็น 4 ภาษาด้วย ทั้งไทย จีน ฟิลิปปินส์ และอังกฤษ มันเลยยิ่งยาก ต้องให้คนช่วยแปล แต่ก็สนุก จริง ๆ ค่ะ ข้อมูลบางทีก็มาจากเพื่อน หลายอย่างก็มาจากประสบการณ์   ตัวเอง อย่างเราจะแนะนำอะไร เราก็ใช้เองแล้วบอกว่าดีตรงนี้นะ ซึ่งเว็บไซต์นี้เนื้อหาหลัก ๆ ก็ตามชื่อเลยค่ะ “พอลล่าแอนด์เบบี้” ดังนั้นก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับน้องเยอะ แต่ว่าคนที่ยังไม่มีลูกก็ดูได้เหมือนกัน เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นด้วย เราก็ชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ ส่วนฟีดแบ็กก็ดีนะ เพราะเริ่มเดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็มีคนมาดู 5 หมื่นกว่าคนแล้ว ก็แฮปปี้ค่ะ”

แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างกับบทบาทของคุณแม่?

“ก็สนุกดี มันเป็นเรื่องที่ท้าทายอีกแบบนึง เพราะเป็นอะไรที่เหนื่อยจริง ๆ ยอมรับเลยค่ะ  ส่วนใหญ่จะบอกมีลูกแล้วชีวิตจะเปลี่ยนนู่นนี่ แต่ก็ไม่มีใครบอกเลยว่ามันเหนื่อยมาก (หัวเราะ) แต่ก็สนุก ถามว่าเอ็ดเวิร์ดมีช่วยเลี้ยงน้องมั้ย ก็มีนะแต่ส่วนมากเขาจะเล่น อย่างน้องกำลังจะนอน แต่พอเห็นหน้าพ่อปุ๊บน้องก็จะเล่นเลย”

พัฒนาการน้องไลลาเป็นอย่างไรบ้าง?

“เร็วมากเลยค่ะ ตอนนี้กำลังยืนตลอด ไม่ยอมนอน ไม่ยอมนั่ง เหมือนขาเขายืนได้แล้วก็อยากจะยืน ซึ่งตอนนี้เราก็พยายามสอนให้เรียก “มามี้” “แด๊ดดี้” อยู่ คือแข่งกันค่ะ พอแม่ไม่อยู่ พ่อเขาก็พยายามให้เรียกแด๊ดดี้ ๆ ก็อยากให้เราเป็นคนแรกที่เขาเรียกชื่อได้กันค่ะ (หัวเราะ)”


“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด


เคยคิดมั้ยว่าวันนึงต้องมาทำหน้าที่คุณแม่?

“ก็รู้ว่าต้องทำล่ะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน เหมือนว่าตอนเราเด็ก ๆ เราก็ใฝ่ฝันว่าอายุเท่านี้เราจะทำแบบนี้ คือนั่งคุยกับเพื่อนว่าอายุเท่านี้เราจะซื้อรถ อายุเท่านี้เรา   จะซื้อบ้าน แล้วก็แต่งงาน ตามที่หวังไว้ ก็คือจะแต่งงานตอนอายุ 27 ปี จากนั้นก็มีลูก แต่พอเราโตขึ้น พอได้มาทำงาน เราก็ไม่ได้คิดแล้วว่ามันจะเป็นเหมือนที่คิดไว้ตอนเด็ก เราก็ทำงานอย่างเดียวเลยไม่ได้คิดเรื่องพักไปมีครอบครัว แต่พอทุกอย่างมันมา มันก็มาแบบปุ๊บปั๊บเลยค่ะ ก็เลยให้มันเป็นไปตามนั้น แต่พอเรามานั่งคิดย้อนไป ก็รู้สึกว่ามันก็เหมือนอย่างที่เราวาดไว้ตอนเด็กเหมือนกันนะ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราเคยฝันไว้เลย”

พอมี “ไลลา” ก็เหมือนเป็นการเติมเต็มให้เรากับเอ็ดเวิร์ด?

“ใช่ค่ะ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก เราจะมองกันแล้วก็บอกว่าของเรานะ เราทำกันนะ (หัวเราะ) คือน้องเป็นแรงบันดาลใจในการทำทุกอย่างของพอลล่าเลย พอเราทำงานเหนื่อย ๆ เห็นหน้าเขา เราก็หายเหนื่อยเลยค่ะ”

ได้วางอนาคตของ “ไลลา” ไว้ยังไงบ้าง?

“อยากให้เขาเป็นคนดีและแฮปปี้ แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น ไม่ว่าเขาอยากจะเป็นอะไร อยากครองโลกหรือจะขายก๋วยเตี๋ยว อะไรก็ได้ แต่ขอแค่เขามีความสุขและเป็นคนดีค่ะ ส่วนเรื่องการหาที่เรียนให้น้องตอนนี้ก็ยังนะ เหมือนเราก็ให้น้องเรียนว่ายน้ำ เรียนเป็นคลาสเล็ก ๆ ก่อน เพราะเขาก็เพิ่ง 9 เดือนเอง แต่ก็ต้องเริ่มแล้วล่ะ จริง ๆ เราเองก็ยังอยู่   ไม่นิ่งเลย อาจจะไปสมัครเรียนไว้ 2 ที่แล้ว แต่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนค่ะ ยังไม่รู้เหมือนกัน”

เห็นว่า “ไลลา” กำลังซนเลย ต้องระวังอะไรเขาเป็นพิเศษมั้ย?

“ตอนนี้น้องเจออะไรก็เอาเข้าปากหมดเลย ต้องระวังว่าเราวางอะไร แต่ก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรแรง ๆ นะ จะมีแค่เรื่องล้ม อะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็โอ๋เขานะ แต่สำหรับพอลล่าแล้วการที่น้องล้มก็โอเค เพราะว่ามันจะเป็นบทเรียนรู้นิด ๆ หน่อย ๆ ให้เขา แล้วมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย เราไม่ได้แบบล้มแล้วสมน้ำหน้า อันนี้ไม่ใช่ เราจะบอกเขาว่าถ้าล้ม           ก็ไม่มีอะไรนะ เราทำแบบนี้แล้วมันเจ็บนะ คราวหลังไม่ทำแล้วนะ เราไม่ได้ถึงขนาดห้ามเขาเดินล้ม มีสำลีคอยรับตลอด    อันนี้พอลล่าว่า มันเว่อร์ไปค่ะ คือพอลล่าจะเลี้ยงลูกค่อนข้างก็ลุย ๆ  ปล่อยให้ลองดูเองว่าเป็นยังไงบ้าง น้องเขาเหมือนติดเราและเราก็รู้จักน้องเขามากที่สุด เลยอยากให้อยู่กับเรา เพราะว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็เอาน้องอยู่ ลูกเราก็ต้องอยู่กับเรา แต่ว่าเวลาที่เขาอยู่กับพ่อก็สนิทกับพ่อนะ แต่ว่าถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้น เช่น น้องร้องไห้ เขาก็จะหันมาหาเรา”

“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด


มีแพลนจะมีทายาทคนที่ 2 หรือยัง?

“มีค่ะ แต่ว่าคงทำงานไปอีกสัก 2 ปีก่อน ก็รอเพื่อน ๆ อยู่ค่ะ พวกเขากำลังแต่งงานกันเลย ให้เขามีลูกก่อน เดี๋ยวเราแซงไปหมด”

ทั้งงานทั้งเลี้ยงลูกแบ่งเวลายังไง?
    
“ยังฝึกอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าต้องแบ่งยังไง (หัวเราะ) ก็พยายามอยู่ เราก็แบบว่าพอเอ็ดเวิร์ดบ่นคิดถึงลูก เราก็โอเคบินกลับสิงคโปร์ พออยู่ที่นู่นแล้วงานเข้าเราก็กลับมา ตอนนี้ก็บินเป็นว่าเล่นอยู่แถวนี้ ที่จริงหลัก ๆ พอลล่าอยู่ที่สิงคโปร์นะแต่ตอนนี้อยู่ที่ไทยมากกว่า เพราะว่ามีงานอยู่ที่นี่ แล้วบางทีเอ็ดเวิร์ดก็มาเยี่ยมที่ไทยบ้างค่ะ”

ตอนนี้จะกลับมามีผลงานในวงการหรือยัง?
   
“มีค่ะ มีถ่ายโฆษณากับน้องด้วยนะ น่ารักมาก คุณพ่อเขามองดูแล้วภูมิใจมาก แต่จะเป็นโฆษณาอะไร เดี๋ยวรอดูกันค่ะ ไม่นานนี้ คือพอลล่า ว่ามันเป็นยี่ห้อที่ดี ที่เราก็ชอบอยู่แล้ว เขาบอกมาเราก็โอเคเลย ซึ่งจริง ๆ เรื่องติดต่อน้องถ่ายโฆษณานี่มีมาเรื่อย ๆ เลยนะคะ ตั้งแต่ก่อนคลอด แต่เราก็คิดว่ารอให้คลอดก่อนมั้ย อยากเห็นหน้าน้องก่อนมั้ย (หัวเราะ) ส่วนเรื่องงานละคร เร็ว ๆ นี้อาจจะมีข่าวดี กำลังรอสรุปก่อน เดี๋ยวรีบมาบอก”

ก่อนแต่งงานพอลล่าฮอตมากเลย กลัวมั้ยว่าหลังจากมีครอบครัวแล้วจะไม่ดังเท่าเดิม?

“พอลล่าคิดว่าคงไม่ต้องเหมือนตอนนั้น ถ้ากลับมาแล้วเหมือนตอนนั้นคงยากแหละ เพราะทุกอย่างทั้งวัย ทั้งเทรนด์ ก็เปลี่ยน มันเป็นเรื่องธรรมดานะ เราอยู่มานานแล้วจะให้เป็นเหมือนเดิมก็ไม่ได้หรอก มันต้องมีการพัฒนา เราก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่เราไปมีครอบครัว คือ กลับมาเขาจะสนใจเราหรือเปล่า แต่แค่ทุกวันนี้ที่ทุกคนยังให้ความสนใจบ้าง เราก็รู้สึกโอเคแล้ว จริง ๆ กลับมาวงการบันเทิงครั้งนี้ พอลล่าไม่คาดหวังเลยนะ แต่ทุกอย่างที่ได้มาตอนนี้   เราก็ถือว่าเราโชคดีและก็รู้สึกแฮปปี้แล้วค่ะ”


“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด




ถ้าเรากลับมาทำงานในวงการเวลาเราก็จะน้อยลงไปอีกนะ เอ็ดเวิร์ดว่ายังไงบ้าง?
  

“เราก็มีคุยกัน เขาก็โอเคนะเราก็บอกเขาว่าก็ไม่ได้ทำแบบนี้ตลอด เหมือนเราได้โอกาสก็ถือว่าดี แต่จริง ๆ เขาก็ชอบที่จะเห็นเราทำงาน วันที่เราไปถ่ายโฆษณาเขาก็บอกว่าภูมิใจมาก เหมือนเขาก็ชอบดูค่ะ”

ในอนาคตอยากให้ “ไลลา” เป็นนักแสดงเหมือนเราหรือเปล่า?

“ถ้าเขาอยากเป็นเดี๋ยวเราจะช่วยค่ะ เช่น ช่วยดูงานให้ แต่ว่าจะบังคับให้เขามาเป็นคงไม่ เพราะงานอยู่ในวงการบันเทิง พอลล่า ว่ามันเป็นอะไรที่เฉพาะคน ไม่ใช่ทุกคนทำได้ มันเป็นอะไรที่เหนื่อย แล้วเราต้องเฟรนด์ลี่ ยิ้มแย้ม ต้องดูก่อน  โตขึ้นเขาอาจจะอยากเป็นนักธุรกิจก็ได้ เราก็ไม่รู้ค่ะ แต่ถามว่าเขามีแววนักแสดงมั้ย เขามีค่ะ มองกล้องตลอด ต้องดูตอนถ่ายงาน อายุ 9 เดือนนี้เว่อร์มาก (หัวเราะ)”

รู้สึกยังไงบ้างที่ต้องทำงานด้วยและเป็นคุณแม่ด้วย?

“พอลล่ายังถือว่าโชคดีที่เรามีคนช่วยเราได้ เช่น มีพี่เลี้ยงแต่พอเรามาทำตรงนี้ก็เลยรู้ว่า บางคนที่เป็นแม่แบบไม่มีพี่เลี้ยงช่วยเขาทำงานเองด้วย เลี้ยงลูกเองด้วย พอลล่าคิดว่าพวกนั้นเป็นซูเปอร์ มัม จริง ๆ ค่ะ”

มองอนาคตข้างหน้าไว้ยังไงบ้างมั้ย

“ก็ไปเรื่อย ๆ ค่ะ คิดว่ายังเต็มที่กับชีวิตได้เหมือนทุกวันนี้ค่ะทำนู่นทำนี่แบบนี้แหละค่ะ”

เมื่อพูดคุยเสร็จ บอกได้คำเดียวเลยว่า แม้พอลล่าจะมีครอบครัวแล้ว ก็ไม่ทำให้ความน่ารักของเธอลดลงเลย.


คนกลาง : เรื่อง/สันติ มฤธนนท์ : ภาพ


“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด


“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด


“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์