หมวยออกโรง ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง

นางแบบ "หมวย พิลาวรรณ" เปิดใจขอยอมรับผิดคนเดียวเรื่องไปทำแท้ง เตือนลูกผู้หญิงอย่าเดินซ้ำรอยจนชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็น

ยืนยัน "ฮาเวิร์ด หวัง"อดีตแฟนหนุ่มตามกดดันให้เอาเด็กออกจริง จากนี้ไปขอยุติการพูด โต้กันไปมาก็ไร้ประโยชน์ ด้านฝ่ายชายบอกไม่รู้กฎหมายไทยเรื่องความผิดฐานทำแท้ง ตอนนี้กังวลใจมากเนื่องจากมีคดีติดตัว แต่คิดว่าคงไม่ถึงขั้นติดคุก อย่างมากก็โดนส่งกลับไปไต้หวัน ขณะที่นักสิทธิสตรีและเด็กชี้สังคมต้องเห็นใจ-เข้าใจนางแบบสาวที่กล้าออกมายอมรับผิด แนะรัฐเร่งวางแผนป้องกัน-เยียวยาหาทางออกให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ส่วนผู้ชายที่ทำให้ท้องต้องร่วมรับผิดชอบในตัวเด็กตามกฎหมาย ด้านตำรวจจ่อเรียกทั้งสองคนมา สอบ ตามจับกุมแหล่งทำแท้งต่อไป


จากกรณี "ฮาเวิร์ด หวัง" ดารา-นายแบบหนุ่มแบดบอย อดีตนักร้องบอยแบนด์รุ่นจิ๋ว "ไจแอนท์" ยอมรับว่าเคยพา "หมวย"น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ อดีตแฟนสาว มิสแม็กซิม 2010 ไปทำแท้งจริง แต่เป็นการสมยอมไม่ได้บังคับ แตกต่างจากที่ฝ่ายหญิงให้ข่าวว่าถูกฝ่ายชายกดดัน บีบบังคับ หาว่ากุเรื่องขึ้นมา กระทั่งสุดท้ายถอดใจยอมไปทำแท้ง แต่ชีวิตก็ทุกข์ทรมานย่ำแย่มาโดยตลอดถึงขั้นกินยา 40 เม็ดหวังฆ่าตัวตายจนต้องเข้าร.พ. จากนี้อะไรจะเกิดขึ้นพร้อมรับทุกอย่าง

ภายหลังกระแสข่าวดังกล่าวเผยแพร่ตามสื่อ ล่าสุดส่งผลให้พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. (ดูแลงานป้องกันปราบปราม) ระบุว่ามอบให้พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ผกก.ดส.) ตรวจสอบข้อมูล หากเป็นจริงต้องดำเนินคดี เพราะผิดกฎหมายอาญามาตรา 301 ในข้อหาว่าผู้หญิงใดยินยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท ส่วนผู้ชายหากพาไปทำแท้งโดยมีส่วนรู้เห็นมีความผิดต้องโทษ 2 ใน 3 ในข้อหาเรื่องสนับสนุน โทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 พันบาท

"ฮาเวิร์ด"ยันไม่ได้บีบทำแท้ง

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องถ่ายทอดสด สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สนามเป้า นายฮาเวิร์ด หวัง เดินทางมาออกรายการ "5 เช้าข่าวดี" และให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่มีข่าวออกมาเครียดจนนอนไม่หลับ มีผู้ใหญ่เตือนแล้วว่าไม่ให้พูดอะไร แต่เพราะเป็นคนตรงๆ เมื่อถามมาก็ตอบไป เรื่องนี้หมวยออกมาพูดก่อน ตอนแรกตนคิดว่าการออกมาพูดครั้งนี้จะทำให้อะไรดีขึ้น แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิดไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายหญิงบอกว่าฮาเวิร์ดเป็นคนบังคับให้ไปทำแท้ง นายแบบหนุ่มปฏิเสธว่า ไม่ได้บังคับ ก่อนหน้านี้เราเลิกกันไปแล้ว จู่ๆ หมวยฝากบอกเพื่อนมาว่าท้องกับตน พร้อมกับฝากที่ตรวจครรภ์มาให้ดู ตอนนั้นตกใจจึงไปบอกแม่ แม่คุยกับหมวยว่าให้มาตรวจดีเอ็นเอว่าใช่ลูกตนหรือเปล่า หลังจากนั้นหมวยไม่ยอมให้แม่กับตนติดต่อไปอีก บอกแค่ว่าจะเลี้ยงลูกเอง

"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


ครวญขอ"บวช"ไถ่บาป

ฮาเวิร์ดระบุว่า หลังจากนั้นไม่นานหมวยติดต่อมาบอกว่ามีแฟนใหม่แล้ว ไม่ไหว ขอให้ขับรถไปส่ง ก่อนจะไปตนถามว่าแน่ใจแล้วหรือ ทั้งยังถามย้ำอีกครั้งก่อนที่จะลงจากรถ หลังจากนั้นรออยู่ประมาณ 20 นาที หมวยกลับลงมา หน้าซีดมาก เดินจะไม่ไหว ตนไม่รู้ว่าทำจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานอะไร

ผู้สื่อถามว่า เหตุใดตอนแฟนสาวบอกว่าท้องจึงไม่รับเป็นพ่อเด็ก ฮาเวิร์ดตอบด้วยสีหน้าเครียดว่า ตนไม่พร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องวัย หน้าที่การงาน และสภาวะการเงิน และตัวเองก็เกิดมาจากครอบครัวแตกแยก ถ้าไม่พร้อมไม่อยากให้เด็กเกิดมา ในความคิดของตนถ้าเด็กเกิดมาตอนที่ยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งมาดีกว่า

เมื่อถามว่าหลังจากมีข่าวออกไปมีผลกระทบอะไรกับเรื่องงานบ้าง ฮาเวิร์ดกล่าวว่า "ต้องขอบคุณพี่พจน์ อานนท์ ที่ไม่แบนออกจากหนังเรื่อง ปล้นนะยะ ภาค 2 ส่วนงานอื่นๆ ยังไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบขนาดไหน ถ้าช่วงนี้งานหายไปก็คงจะไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อเตรียมตัวบวช เพราะรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา อยากบวชให้กับการทำผิดครั้งนั้น แต่ยังไม่มีกำหนดบวชที่แน่นอน"

เครียด-มีข้อหาติดตัวหลายคดี

ผู้สื่อข่าวระบุว่าในเรื่องของกฎหมาย การพาไปทำแท้งถือว่ามีความผิด ฮาเวิร์ดทำหน้างงก่อนกล่าวว่า ไม่ทราบและยังไม่มีตำรวจติดต่อเข้ามา เมื่อถามต่อไปว่าตำรวจกำลังเตรียมจะเอาผิดโทษฐานสมรู้ร่วมคิด มีโทษจำคุก 2 ปี และปรับเงินอีกจำนวนหนึ่ง เตรียมตัวตั้งรับอย่างไร นักแสดงหนุ่มถึงกับแสดงอาการเครียดก่อนเผยว่า "เพิ่งทราบ ก่อนหน้านี้ไม่รู้เลยว่ามีความผิด ผมไม่รู้กฎหมายไทยในข้อนี้ ตอนนี้รู้สึกกังวลมาก เพราะยังมีคดีติดตัวอยู่ 2 คดี คือ ทำร้ายร่างกาย กับมียาเสพติดอยู่ในครอบครอง ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการสู้คดี น่าจะจบปีนี้ ถามว่ากลัวว่าจะติดคุกหรือเปล่า คงไม่ติดเพราะไม่ใช่คนไทย แต่คิดว่าทางเจ้าหน้าที่คงส่งตัวกลับไต้หวัน แล้วห้ามเข้ามาประเทศไทยกี่ปี ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย"

ต่อข้อถามว่า คิดว่าจะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงไทยได้อีกหรือไม่ หลังจากเจอเรื่องหนักขนาดนี้ ฮาเวิร์ดตอบว่า "ขึ้นอยู่กับความสามารถ ผมรักในสิ่งที่ทำ และขึ้นอยู่กับโอกาสว่าจะมีผู้ใหญ่ให้หรือเปล่า อยากทำให้แม่ภูมิใจ"

"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


ตร.ขอข้อมูล-จับแหล่งทำแท้ง

พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ดส. ระบุว่าการดำเนินการเรื่องนี้ กก.ดส.ต้องทราบสถานที่ที่นายฮาเวิร์ดพาน.ส.พิลาวรรณไปทำแท้งก่อนว่าเป็นที่ใด เนื่องจากกก.ดส.ไม่มีอำนาจเชิญตัวทั้ง 2 คนมาสอบปากคำหรือแจ้งข้อหา เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดี ปัจจุบันทำได้เพียงติดต่อขอความร่วมมือจากนายฮาเวิร์ดและน.ส.พิลาวรรณให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ทำแท้ง

"หากไม่ได้รับความร่วมมือ ตำรวจต้องสืบ สวนหาข้อมูลเอง และต้องบุกจับขณะกำลังทำความผิดร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่มีอำนาจดำเนินคดีเอง และต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนท้องที่นั้นเป็นผู้รับผิดชอบ" ผกก.ดส.กล่าว

"หมวย-ฮาเวิร์ด"ต้องโดนด้วย

พ.ต.อ.สุพัชรกล่าวอีกว่า หากพบว่าน.ส. พิลาวรรณไปทำแท้งจริง จะมีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 301 ข้อหาว่าผู้หญิงใดยินยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนนายฮาเวิร์ดหากเป็นผู้พาไปทำแท้ง ถือว่ามีส่วนรู้เห็นต้องมีความผิดต้องโทษ 2 ใน 3 ข้อหาสนับสนุน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผกก.ดส.ระบุว่าจากสถานการณ์เกี่ยวกับเด็กและสตรีทุกวันนี้มีความเสื่อมลงของวัฒนธรรม เด็กรุ่นใหม่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ห่างไกลศีลธรรมจริยธรรมที่ดี กก.ดส.จึงริเริ่มโครงการเกี่ยวข้องกับการอบรมขัดเกลาจิตใจเยาวชน โดยนำโครงการ "โรงพักวิถีพุทธ" นำเอาเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงประพฤติตนไม่เหมาะสมมาปลูกฝังให้มีจิตสำนึกที่ดี มีกลุ่มเป้าหมายคือเด็ก ม.ต้น-ม.ปลาย โดยมีแผนจะร่วมมือกับสถานศึกษาต่างๆ ในกทม.ส่งเข้ามาร่วมโครงการเริ่มชุดแรกต้นเดือนมี.ค.นี้

ด้านพ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผกก.ดส. กล่าวว่า ได้หมายเลขโทรศัพท์ฝ่ายหญิงมาแล้ว แต่โทร.ไปไม่รับสาย เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อน แม้เจ้าตัวรับระหว่างให้สัมภาษณ์ แต่เมื่อเชิญมาสอบถามอาจปฏิเสธ แต่จะพยายามสืบสวนว่าไปทำแท้งที่ใด

"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


ชี้"สังคม"ควรเห็นใจฝ่ายหญิง

สำหรับมุมมองของนักวิชาการด้านสตรีและเด็กที่มีต่อข่าวทำแท้งของฮาเวิร์ด หวัง และอดีตแฟนสาว

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้ประสานงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ว่า กฎหมายเรื่องทำแท้งมีอยู่ในกฎหมายอาญา 5 มาตรา คือ 301-305 ซึ่งมาตรา 305 ระบุว่า ทำแท้งได้โดยแพทย์เป็นผู้กระทำและหญิงนั้นมีปัญหาสุขภาพ หรือถูกข่มขืน หรืออายุต่ำกว่า 15 ปี ถ้าเข้าข่ายนี้ไม่มีความผิด

น.ส.ณัฐยาระบุว่า การที่หญิงคนหนึ่งทำแท้งจนต้องฆ่าตัวตายและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากส่วนไหนเลย หากเป็นประเทศที่มีการให้ความช่วยเหลือ สิ่งที่หญิงคนนั้นจะได้รับคือการดูแลหลังทำแท้ง ซึ่งบ้านเราไม่มี การดูแลนี้คือ 1.ดูแลทางกายว่ามีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ 2.ดูแลจิตใจ ให้คำปรึกษา การดูแลเชิงศาสนา เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดเป็นตราบาป 3.ให้คำปรึกษาเรื่องคุมกำเนิด

"สังคมไทยไม่มีระบบเหล่านี้ มองว่าเป็นปัญหาส่วนบุคคล ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ทั้งเจ้าตัวยังถูกประณามจากประชาชนและสื่อ แต่กรณีนี้ผู้หญิงออกมายอมรับอย่างกล้าหาญ พร้อมยอมรับผิด สังคมควรเห็นใจ แต่ไม่ปล่อยให้เรื่องเหล่านี้ผ่านไปโดยไม่แก้ไข เพราะยังมีผู้หญิงอีกมากที่ไม่เป็นข่าวซึ่งฆ่าตัวตายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากเหตุผลใด" น.ส.ณัฐยากล่าว

จี้รัฐวางระบบป้องกัน-เยียวยา

ผู้ประสานงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจสุขภาพผู้หญิงกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า 1.ไม่มีการถอดบทเรียนประสิทธิภาพของกฎหมายห้ามทำแท้ง 2.การให้ความรู้เพศศึกษาไม่เข้มแข็งและไม่ทั่วถึง 3.บริการคุมกำเนิดสำหรับครอบครัวไม่เหมาะกับคนโสด ต้องได้รับการปรับปรุง เพราะสังคมมีแนวโน้มคนแต่งงานช้าลง

น.ส.ณัฐยาระบุต่อไปว่า หากเกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม สังคมไทยยังให้ความช่วยเหลือไม่ครบวงจรเพื่อให้คำปรึกษาหญิงนั้นว่ามีทางเลือก ไม่จำเป็นต้องทำแท้งอย่างเดียว แต่ยังมีบ้านพักฉุกเฉินหากถูกสังคมตราหน้าขับไล่ไม่มีที่ไป หรือถ้าเลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อจนคลอดแต่ไม่พร้อมที่จะดูแล เพราะครอบครัวไม่ยอมรับ ต้องมีบริการการยกบุตรบุญธรรมจะได้ไม่นำเด็กไปทิ้งตามถังขยะหรือสถานที่ต่างๆ เช่น ในประเทศเยอรมนี หากนำเด็กไปวางไว้ในจุดที่จัดให้บริการในร.พ.จะเป็นที่ทราบว่ายกเด็กนั้นให้กับรัฐและรัฐจะหาพ่อแม่บุญธรรมให้ นั่นคือการช่วยเหลือ แต่ในบ้านเราไม่มี นอกจากนี้ ยังไม่มีการดูแลหลังการทำแท้งอีกด้วย

"ทุกวันนี้มีผู้หญิงที่บาดเจ็บจากการทำแท้งเถื่อนปีหนึ่งเป็นหมื่นคน เสียงบประมาณดูแลหญิงที่ไปทำแท้งไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จึงน่าจะนำงบฯ ดังกล่าวมาทำระบบป้องกัน ระบบช่วยเหลือที่รอบด้าน และเยียวยาฟื้นฟูหลังการทำแท้ง" น.ส.ณัฐยากล่าว

"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


ทางแก้-ผู้ชายต้องร่วมรับผิดชอบ

ด้านนายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผอ. มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า สำคัญสิ่งที่ต้องเรียนรู้คือผู้ชายไม่รับผิดชอบ และกฎหมายไทยมีจุดอ่อนทำให้ผู้ชายไม่ระมัดระวังตัว การที่หญิงนั้นตั้งครรภ์เมื่อถูกชายบอกกล่าวให้ไปทำแท้ง แสดงว่าชายไม่มีความรักผูกพันกับเด็กแม้ว่าจะเป็นลูกของตนครึ่งหนึ่ง และสุดท้ายการทำแท้งควรทำเมื่อไม่มีหนทางอื่นในการแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่หมายความว่าในสังคมปัจจุบันไม่มีช่องทางแก้ไขและป้องกัน ผู้ชายต้องมีส่วนรับผิดชอบเด็กเหมือนกฎหมายในประเทศอื่น และมีกลไกของรัฐต้องเข้าไปรับผิดชอบ เช่น หักภาษี ส่งให้เลี้ยงดูอุปการะ ฯลฯ

นายสรรพสิทธิ์อธิบายว่า การที่หญิงต้องทำแท้งส่วนหนึ่งเพราะชายไม่รับผิดชอบ เกิดความรู้สึกว่าไม่ได้รับความรัก ความจริงใจ ชีวิตไม่มีค่า เพราะคนที่รักไม่มีความรู้สึกแบบเดียวกันเลยเลือกฆ่าตัวตายตามแรงกดดันจากฝ่ายชาย อย่างไรก็ดี การทำแท้งอาจมีมากกว่าที่กฎหมายเปิดช่องให้ แต่ต้องผ่านกระบวนการปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อหาเหตุผลที่จำเป็น เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดให้ทำแท้งเสรี

ผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กกล่าวอีกว่า ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ครอบครัว ต้องไปเพิ่มเติมอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งจะทำให้ชายมีความระมัดระวังไม่ทำให้หญิงท้อง และเมื่อหญิงนั้นท้องขึ้นมาไม่จำเป็นต้องทำแท้ง เพราะมีผู้ชายที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ กฎหมายเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขจึงจะป้องกันและแก้ไขปัญหาได้

"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


"หมวย"เปิดใจ-ขอรับผิดทั้งหมดเอง

เวลา 17.00 น. วันเดียวกัน หมวย พิลาวรรณ นัดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ที่บ้านพักย่านนวลจันทร์ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อชีวิตมาก อย่างที่บ้านจ.ปราจีนบุรี ครอบครัวเป็นห่วงและคอยสอบถามตลอด ไปไหนมาไหนตัวเองต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่อยากเจอใคร มีแต่คนซุบซิบ ผิดกับเมื่อก่อนที่ไปไหนเราไปอย่างสง่าผ่าเผย อยากฝากบอกคนทั่วไปว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม เพราะเป็นสิ่ง ไม่ดี เหมือนตกนรก ตนขอยอมรับผิดทั้งหมด แม้อีกฝ่ายไม่ยอมรับอะไรเลยก็ตาม จากนี้ขอยุติการพูดแล้ว

"ที่ฮาเวิร์ดออกมาให้ข่าว เขาไม่ได้พูดความจริง แต่หมวยคงไม่ตอบโต้ เพราะถึงตอบโต้ไปก็ไม่จบสิ้น ในเมื่ออีกฝ่ายพูดความจริง แต่อีกฝ่ายไม่พูดความจริงจึงเป็นเหมือนการโต้กันไปมา อย่างเรื่องที่บอกว่าเขาพยายามจะเข้ามาพูดกับหมวยเรื่องทำแท้ง หมวยก็บอกว่าอย่าเข้ามายุ่ง หมวยจัดการเองได้ ทุกครั้งที่โทร.มาจะบอกว่าให้หมวยไปทำแท้งโดยเขาจะเป็นคนออกเงินให้ แต่หมวยอยากเก็บลูกไว้ จะดูแลลูกเอง เขาไม่เคยบอกเลยว่าอยากเอาลูกไว้" หมวยเปิดใจ

เมื่อถามว่าที่ออกมาพูด กลัวคนมองหรือไม่ว่าอยากดัง นางแบบสาวปฏิเสธ "ไม่จริง เพราะมีงานเยอะอยู่แล้ว ตอนนี้ถึงลดลงไปบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นผลจากข่าวที่เกิดขึ้นก็ต้องยอมรับสภาพ ความจริงหมวยยังรู้สึกเลยว่าลูกยังวนเวียนอยู่ หมวยพยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูก แม้จะรู้ว่าชดเชยกันไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ ทุกวันนี้ก็ใช้วิธีนั่งสมาธิสวดมนต์เพื่อให้จิตใจดีขึ้น คิดว่าอีกไม่กี่วันจะไปบวชชีพราหมณ์ ความจริงเรื่องบวชตั้งใจจะไปตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม พอดีน้ำท่วมเลยไม่ได้ไป"

"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง"หมวย"ยัน ฮาเวิร์ดให้ทำแท้ง


ฮาร์เวิร์ด หวังฮาร์เวิร์ด หวัง


ฮาร์เวิร์ด หวังฮาร์เวิร์ด หวัง


ฮาร์เวิร์ด หวังฮาร์เวิร์ด หวัง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์