“พิ้งกี้” ฝ่ามรสุมหัวใจปิดตาย - ดาวต่างมุม

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย “พิ้งกี้” ฝ่ามรสุมหัวใจปิดตาย - ดาวต่างมุม

ปีที่แล้วโดนมรสุมข่าวโถมใส่ลูกใหญ่ เลยทำให้ พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ผลงานสะดุด ห่างหายไปจากหน้าจอพักใหญ่ ปีนี้เธอพร้อมจะโลดแล่นบนเส้นทางบันเทิงอีกครั้ง ในละคร “ทองประกายแสด” ทางช่อง 8 ในระบบทีวีดาวเทียม แถมบทเรื่องนี้ถือว่าเป็นบทที่แรงที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอ เพราะมีเลิฟซีนเยอะมาก ๆ วันนี้พิ้งกี้มาเยือนถึง “เดลินิวส์” ให้ “ดาวต่างมุม” ได้สัมภาษณ์กันแบบหมดเปลือก

รู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาเล่นละครหลังจากหายหน้าไปพักใหญ่?

ตัวพิ้งกี้เองก็ว่านานนะคะ แต่คงไม่เท่ากับแฟนละครของเราที่เขาคงรู้สึกว่าเราหายไปนานมาก เห็นได้จากเอสเอ็มเอสตามรายการข่าวบันเทิงที่เขาบอกว่าหายไปเลย อยากเห็นข่าวของเรา พอกี้กลับมามันก็ค่อนข้างท้าทายที่ได้มาแสดงอะไรที่พลิกบทบาทเยอะ จากก่อนหน้านี้ที่เป็นเด็กสาว ใส ๆ หรือบู๊แก่น มาเป็นแบบเข้มข้น เหมือนเราเคยดูละครแล้วเราอยากเล่นบทอย่างนี้บ้าง เราก็ได้มาเล่นค่ะ

ถือว่าเป็นบทที่แรงที่สุดในชีวิตเลยไหม?

อาจจะว่าแรงก็ได้ค่ะ ที่ผ่านมาเราอาจจะเล่นเลิฟซีนกับพระเอกคนเดียว แต่เรื่องนี้เหมือนเราเล่นสัก 7 เรื่องในเรื่องเดียว เพราะมันรวมหลาย ๆ อย่าง รวมพระเอก รวมเรื่องราว ถือว่าได้ฝึกฝีมือเยอะมาก เราได้เล่นกับทีมงานใหม่ ๆ ได้เล่นกับพี่ชุดาภา จันทเขตต์ ได้เจออะไรใหม่ ๆ ในชีวิตค่ะ

บทในเรื่องนี้ต้องเปลืองตัวมากขึ้นหรือเปล่า?

ส่วนใหญ่พี่ผู้ชายเขาจะบอกว่าพี่เปลืองตัวมากเลย โดนพิ้งกี้ลวนลาม (หัวเราะ) คือถ้ายังไม่ได้ดูละครคนอาจจะคิดว่าต้องเปลืองตัวมากแน่ ๆ แต่พี่ชุเขามีมุมที่จะไม่ทำให้กี้ดูแย่ จะใช้มุมกล้องช่วย มีลิมิตของการแสดง ไม่ให้ภาพออกมาน่าเกลียดค่ะ

รู้สึกอย่างไรที่ละครเรื่องนี้ฉายทางเคเบิล?

กี้คิดว่าช่องเคเบิลเป็นช่องทางใหม่ เหมือนเราเป็นผู้บุกเบิกค่ะ ณ ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันยังไม่บูมหรือเป็นแค่เคเบิล แต่กี้เชื่อว่าอีกสักปีสองปีมันจะเทียบเท่าฟรีทีวีทั่วไปเลย ซึ่งทุกบ้านนับจากนี้น่าจะมีเคเบิลติดอยู่แล้ว บริษัทบันเทิงต่าง ๆ ก็มีช่องเคเบิลกันหมดแล้ว ดาราหลายคนก็มาเล่นกัน มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่และยังเปิดหูเปิดตาด้วยค่ะ

ไม่ได้มองว่าเราถูกลดเกรดลงมาใช่ไหม?

ไม่นะคะ เพราะในปัจจุบันมันมีสื่อที่หลากหลายขึ้น เราอาจจะเล่นเคเบิล เดือนหน้าอาจจะไปช่องปกติ แล้วก็กลับมาเคเบิลอีก กี้เป็นนักแสดงก็มีหน้าที่แสดงอยู่แล้วค่ะ

ตอนนี้ถือว่าเป็นนักแสดงอิสระ มีค่ายละครมาจีบเยอะไหม?

มีติดต่อมาค่ะ มีอะไรใหม่ ๆ หลายอย่างที่ให้เราได้ทำ ได้ท้าทายกับชีวิตมากพอสมควร แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ มันคงถึงจังหวะและเวลา เพราะกี้อายุ 25 จะ 26 ปีแล้วค่ะ จะให้เรามาเล่นเป็นเด็กผูกแกละ 2 ข้างมันก็ไม่ได้ เราก็อยากมีภาพที่แตกต่างจากเดิม เพราะเราทำงานมาถึงช่วงอายุหนึ่งแล้วจึงไม่มีสังกัดก็ได้ ที่ผ่านมาเราอยู่กับสังกัดมาเยอะค่ะ

พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช

แล้วงานที่อินเดียเป็นอย่างไรบ้าง?

กี้จบงานที่นั่นเรียบร้อยแล้ว งานต่อไปยังไม่มีค่ะ เพราะตอนนี้ขอลุยงานที่เมืองไทยก่อน แต่ถ้าทางโน้นติดต่อมาอีกก็พร้อมจะไป เพราะรู้การทำงานอยู่แล้ว เสียงตอบรับก็ออกมาดีนะคะ แม้ว่าเราจะเป็นนักแสดงใหม่ ไม่มีใครรู้จักเราเลย แต่หลังจากหนังออกฉายก็เริ่มมีคนรู้จักเราบ้าง ถือว่าโอเคแล้ว คงไม่ได้หวังสูงอะไรขนาดนั้น กี้เองก็ไม่ได้ไปอินเดียนานแล้ว ไม่รู้ว่าคนที่นั่นยังจะจำเราได้ไหม แต่ถือเป็นใบเบิกทางที่โอเคเลย เราได้รู้จักผู้สร้าง ทีมงาน เขาก็ได้รู้จักเราในระดับหนึ่งแล้ว เหมือนกับว่าอาชีพนักแสดงของเราได้ก้าวข้ามไปอีกจุดหนึ่งและได้รับประสบการณ์อีกอันหนึ่งค่ะ

นอกจากงานแสดงยังมีงานประเภทไหนอีกบ้าง?

ตอนนี้ก็มีงานคอนเสิร์ตค่ะ เป็นงานจ้าง เพราะกี้มีวง มีแดนเซอร์ เราก็ทำโชว์สมกับที่เขาจ้างเราไปแสดง เราร้องเพลง โชว์ และเต้น ทุกอย่างกี้วางคอนเซ็ปต์เองหมด โดยมีเพลงของศิลปินดัง ๆ หลายคน คนที่จ้างเราเขาอยากเห็นเพอร์ฟอร์ม ความพร้อมเพรียง ทุกอย่างต้องฝึกซ้อมมาก ไม่ให้เขามาว่าเราได้ ส่วนงานอื่น ๆ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนคิดและวางแผนอยู่ อย่างเรื่องธุรกิจ แม่ก็เตรียมเปิดร้านอาหารแถวบ้าน เพราะเขาทำก๋วยเตี๋ยวอร่อยและเป็นสูตรที่ใคร ๆ ก็ชอบกัน ซึ่งกำลังเตรียมการอยู่ค่ะ แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตอนนี้คุณแม่ก็ต้องยุ่งอยู่กับกี้ตลอดเวลาเลย และคงมองไปถึงอนาคตหากงานแสดงไม่มั่นคงด้วย เพราะว่าเวลามันก็ผ่านไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ตอนนี้กี้ก็เริ่มศึกษาเรียนรู้ค่ะ เพราะเราไม่ได้เก่งเรื่องการค้า

ช่วงที่ผ่านมา ข่าวด้านอื่นของพิ้งกี้มากลบข่าวผลงานละครหมดเลย?

กี้เองก็อยากให้มาสนใจที่ผลงานมากกว่าจะมาสนใจเรื่องส่วนตัว แต่สื่อมักจะสนใจเรื่องส่วนตัวมากกว่าผลงาน ตอนนี้เลยอยากให้มองที่งานของกี้ เพราะกี้ว่าน่าติดตามและจับตามองนะในเรื่องละครที่กำลังจะออนแอร์รวมไปถึงงานต่อ ๆ ไป แต่พี่ ๆ นักข่าวจะชอบถามว่าตอนนี้เรื่องหัวใจเป็นอย่างไร กี้ก็จะตอบว่าคงปิดตายไปแล้ว ยังไม่เปิดให้ใครค่ะ เพราะตอนนี้คงโฟกัสไปที่เรื่องงานมากกว่า เหมือนเราเองก็หายไปนาน พอกลับมาอยากให้ทุกคนดูสิว่าเราเล่นได้ขนาดไหน จะเล่นดีหรือเปล่าค่ะ

แล้วช่วงนี้มีคนเข้ามาจีบบ้างไหม?

มีค่ะ แต่ตอนนี้กี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาไปสังสรรค์มากสักเท่าไร เพราะต้องเตรียมตัวในการเล่นคอนเสิร์ตค่ะ ต้องซ้อมวง ละครเรื่องต่อไปก็กำลังจะมา มันก็เลยไม่มีเวลาให้กับใคร เคยคิดว่าถ้าเรามีใครแล้วก็คงอยากแต่งงานไปเลย ไม่อยากเสียเวลากับชีวิตอีกแล้ว อายุ 26 แล้วก็ถือว่าเราโตแล้ว แต่ตอนนี้อยากทำงานให้ดีที่สุดมากกว่าค่ะ

พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช

มุมมองความรักเป็นอย่างไร?

ตอนนี้ค่อนข้างชินชานะคะ ไม่ค่อยอะไรกับมันสักเท่าไร คิดว่าเราอยู่กับคนที่รักเราก่อนอย่างพ่อแม่พี่น้อง เพราะบางครั้งเราใส่ใจกับคนรักมากจนลืมคนรอบข้างไป ตอนนี้เราเลยอยากให้เวลากับคนข้างๆเราก่อนที่จะไปให้คนอื่น

แล้วไม่เหงาใจบ้างเหรอ?

มันเหงาจนชินแล้วค่ะ ก็หาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่ลึก ๆ แล้วก็อยากมีแฟนนะ แต่ถ้าเราต้องไปไขว่คว้าบางครั้งมันก็เสียเวลาและเหนื่อยเปล่าด้วย สู้อยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว หรืออยู่กับแม่ มันก็มีความสุขแล้ว วัน ๆ หนึ่งมันก็ผ่านไปเร็วมากด้วยค่ะ ก็ไม่มีสเปกอะไรมากค่ะ แค่คนที่ดีและเข้ากับเราได้

ความพอใจในเรื่องของงานเทียบกับเมื่อก่อนเป็นอย่างไร?

ตอนนี้แฮปปี้มากค่ะ กี้เป็นคนที่เชื่อในเรื่องของโชคชะตา เหมือนมันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องมาอยู่แบบนี้ และทำให้มาเจอกับสิ่งที่ดีกว่า กี้ว่าตอนนี้กี้พอใจและภูมิใจนะ ถึงมันอาจจะไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เราก็สบายใจ ทุกคนมีล้ม มีแย่ มีทุกข์ ไม่มีใครที่สมบูรณ์พร้อมหรือแฮปปี้ไปทุกอย่าง แต่ก็คงไม่มีใครที่จะแย่ไปตลอด มันต้องมีสิ่งดี ๆ อยู่แล้ว เราต้องเชื่อว่าสิ่งที่ดีนั้นกำลังรอเราอยู่

มีสิ่งใดเป็นกำลังใจให้พิ้งกี้ลุกขึ้นสู้?

กี้มองว่ายังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก คิดว่าเรายังมีคุณพ่อคุณแม่ ยังมีคนรอบข้าง ยังมีทุกอย่างอยู่ สักวันหนึ่งมันก็จะดีเอง ยามที่เรารู้สึกแย่ เรารู้เลยว่าไม่มีใครที่รักเรามากกว่าพ่อแม่พี่น้อง เหมือนสายใยที่ตัดไม่ขาด เป็นกำลังใจที่ทำให้เราอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ของพิ้งกี้บ้าง?

ฝากละครเรื่อง “ทองประกายแสด” กำลังจะออนแอร์วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้แล้วนะคะ ดูได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทางช่อง 8 และขอฝากผลงานอื่นๆที่กำลังจะตามมา อยากให้ติดตามชมกัน และขอขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ

ถือว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะกำลังใจจากครอบครัว ที่ทำให้พิ้งกี้ก้าวผ่านขวากหนามมาถึงวันนี้ได้ และหวังว่าหนทางข้างหน้าของเธอคงจะสวยงามประดุจโรยด้วยกลีบกุหลาบ ฟ้าหลังฝนต้องดีขึ้นแน่นอน.