รักของป้าจุ๊ จุรี โอศิริ

ดิฉันเคยเขียนบทความถึง "ป้าจุ๊" จุรี โอศิริ ครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว

วันนั้นท่านมารับรางวัลนราธิป ประจำปี 2553 ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ 
 
เป็นการมอบรางวัลให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านความคิด ที่กลั่นกรองผ่านงานเขียนในรูปแบบต่างๆ อย่างที่ผ่านไปแล้วก็มีรางวัล "นราธิป" ที่สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยจัดขึ้น นับเป็นบรรยากาศที่งดงาม และอบอุ่นไม่น้อย
 
ภาพที่จำได้ติดตา คือมีหญิงชราที่คุ้นหน้าคุ้นตาของวงการบันเทิงมาร่วมรับรางวัลด้วย ... "ป้าจุ๊" จุรี โอศิริ วันนั้นคุณตู่ นพพล โกมารชุน ประคองแม่ไม่ห่างเลย
 
และไม่เพียงป้าจุ๊ เป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวบนเวที ทว่า บทกลอนที่ท่านเขียนและอ่านในวันนั้น ก็ทำให้คนในงานซาบซึ้งกันเป็นแถว
 
ป้าจุ๊เขียนถึง "ลุงปุ้ย" สมชาย สามิภักดิ์ สามีที่จากไป...
 
แม้เกริ่นด้วยความคิดถึง แต่ตบท้ายด้วยการฝากบอกไปว่าไม่ต้องห่วงคนทางนี้ เพราะสบายดี และดีใจที่ได้รับรางวัลในวันนี้
 
เสียดายที่หาต้นฉบับนั้นไม่ได้ คิดว่าความรู้สึกที่กลั่นออกมาเป็นตัวอักษรป้าคงเก็บรักษาไว้อย่างดี  
 
ดูว่าป้าเป็นคนอารมณ์ดี และเจ้าบทเจ้ากลอนน่าดู 
 
รักครั้งที่ 2 กับลุงปุ้ย ที่ป้ามักบอกเสมอว่า เป็นรักที่ใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ก็จะพูดว่าเหมือนพบเจอกันครั้งแรกๆ คำพูดนี้ทำให้ลูกๆ หลานๆ ประทับใจและตาร้อนด้วยความอิจฉากันเป็นแถว 
 
จะเรียกว่าทั้งสองนั้นเป็นคู่รักไอดอลแห่งความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น ของบ้านเราก็คงไม่ผิดนัก
 
...เราจะรักกันไปจนวันตาย...

 ...เราจะรักกันตราบจนสิ้นลมหายใจ...

คิดว่าจะมีคู่รักสักกี่คู่กันที่มีชีวิตคู่เป็นไปดั่งประโยคข้างต้น หรือจะมีผู้ชายสักกี่คนที่สามารถทำได้อย่างที่กล่าว
 
“ลุงปุ้ย" หรือ สมชาย สามิภักดิ์ ที่เสียชีวิตไปอย่างสงบ ด้วยวัย 82 ปี หลังจากเข้ารับการรักษาอาการน้ำท่วมปอดมาตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2551
 
แต่ป้าจุ๊ ยังคิดว่าลุงอยู่ใกล้ๆ ตัวเสมอ และมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง 
 
จนเป็นที่มาของหนังสือ "เรารักกัน" ที่ ณเพชรสำนักพิมพ์จัดพิมพ์ คิดว่ายังหาอ่านได้ไม่ยาก 
 
เส้นทางบนถนนสายบันเทิงของป้าจุ๊ยาวนาน เป็นทื่เคารพนับถือ และยกให้เป็นปูชนียบุคคลแห่งวงการอย่างไม่ต้องสงสัย 
 
นักแสดงรุ่นเก่าหลายคน เคารพในความเป็นมืออาชีพ และในความเป็นผู้ใหญ่ เพราะท่านเป็นคนที่ให้เกียรติคนอื่น ตรงต่อเวลา และเป็นผู้สอนให้กับศิลปินรุ่นหลังๆ อย่าง "ครูผู้ให้" 
 
ในความเป็นนักร้อง นักแสดง นักพากย์ ท่านได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักพากย์และนักแสดง) พุทธศักราช ๒๕๔๑
 
ป้าจุ๊รักงานแสดงมาก หัวใจศิลปินที่ไม่เกษียณอายุเปี่ยมล้น หากไม่ป่วยเสียก่อน เราคงยังเห็นท่านโลดแล่นในวงการอีกแน่ 
 
แต่วันนี้ท่านได้จากไปแล้ว ไปอย่างสงบ และคงมีความสุข   
 
เพราะวันนี้ป้าจุ๊ คงนั่งกอดลุงปุ้ยอยู่บนฟ้าแล้ว !!