เมื่อ บันเทิง วิพากษ์การเมือง ผลคือ จั๊ด โดนเด้ง


ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด

การวิพากษ์วิจารณ์การเมือง ถือเป็นเรื่องชอบธรรมสำหรับสังคมประชาธิปไตย

แต่ในบ้านเรา เมื่อวิพากษ์ตาม "สิทธิอันชอบธรรม" ไปแล้ว บางทีผลตอบรับที่มีก็เกินจะคาดคิดได้

โดยเฉพาะในรายที่ "คนบันเทิง" เป็นฝ่ายวิพากษ์

เพราะดีไม่ดี การงานอันรุ่งโรจน์อาจรุ่งริ่ง หรือแฟนคลับเคยรักๆ ต้องกลับกลายเป็นเกลียด ด้วยเหตุ "ทัศนคติทางการเมืองไม่ตรงกัน"

ล่าสุด ดีเจจั๊ด-ธีมะ กาญจนไพริน ก็ต้องตกงาน เพราะดันไปพูดในรายการและทำคลิปเกี่ยวกับการทำงานของ ศปภ.-ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จน พีดี เรดิโอ ตัดสินใจปลดจากตำแหน่งนักจัดรายการทางคลื่นสบาย 90 เอฟเอ็มแบบสดๆ ร้อนๆ

"ประเทศไทย บันเทิงกับการเมืองเป็นเรื่องแยกกันไม่ออก" เจ้าตัวบอกแบบเซ็งๆ

ทั้งยังว่าจากประสบการณ์ถูกพักงาน 1 สัปดาห์จากที่ทำงานเก่า พักงาน 3 สัปดาห์จากพีดี และจบท้ายด้วยการถูกออกครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าจะอยู่ในวงการให้เป็น ให้รอด ก็ไม่ควรแตะเรื่องการเมือง ไม่เช่นนั้นอาจถูกมองเป็นคนหัวรุนแรง หรือเป็นพวกสุดโต่งแบบไม่รู้ตัว



"ตอนอยู่ที่เก่าก็ถูกพักงาน เพราะพูดเรื่องการเมือง แต่ก็ได้กลับมาจัดใหม่ ซึ่งต้องปรับวิธีการพูดให้มีลิมิตมากขึ้น"

ส่วนครั้งนี้ที่คนพูดถึงกันเยอะคือคลิปวิดีโอ "จั๊ดจัด" ที่เขาจัดทำและโพสต์ลงเว็บไซต์ยูทูบ ด้วยความตั้งใจที่ว่า "เป็นคนชอบอ่านข่าว เลยอยากทำข่าวย่อยง่ายๆ ให้วัยรุ่นดูแล้วติด เข้าใจในเรื่องราวความเป็นไปของบ้านเมือง"

ความจริงการถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ จั๊ดบอกว่า เขาเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งกับคลื่นเก่าที่เคยร่วมงาน แต่เมื่อคลื่นยุบตัวไป เขาเลยนำมาฟื้นชีวิตใหม่ในรูปคลิปวิดีโอ โดยเพิ่งทำมาได้ไม่กี่ตอน และในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมหนักอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งแน่นอนต้องมีเรื่องการทำงานของ ศปภ.มาเกี่ยวข้อง

"ทางคลื่นบอกว่า เราเป็นสื่อ ต้องเป็นกลาง เรื่องความคิดเห็นทางการเมืองไม่อยากให้พูด กลายเป็นผมมีภาพของความรุนแรงเกิดขึ้น"

ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด


และแม้จะยอมรับว่าระเบียบบริษัท มีระบุชัดเจนว่าห้ามพูดเรื่องการเมือง หรือเรื่องใดๆ อันส่อไปในทางทำให้คนแตกแยกกัน แต่ในใจเขากลับคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ทำอาชีพใด แต่ละคนย่อมจะมีทัศนคติทางการเมืองของตัวเอง

"เมื่อทำงานของเราได้ดี ก็ไม่น่าเกี่ยวว่าเราจะมีความคิดเห็นทางการเมืองเช่นใด"

เมื่อคิดอย่างนี้ คนที่ตกงานแบบไม่เต็มใจเลยยืนยันว่าจะยังทำรายการ "จั๊ดจัด" อยู่

"จุดประสงค์หลักอีกอย่างที่ทำคลิป คืออยากฉีกภาพตัวเอง เพราะคลิปนี้เป็นเหมือนการได้ปล่อยตัวตนจริงๆ ให้สังคมได้รับรู้ ว่าเราทำแบบนี้ได้ ไม่ใช่เป็นแค่ดีเจวัยรุ่น เปิดเพลงไปวันๆ"

ซึ่งถึงตอนนี้จะมีคนเห็นมาก-น้อยแค่ไหนเขายังไม่รู้ รู้แต่ "ผลตอบรับ" จากการจัด ที่นอกจากจะตกงาน รถยนต์จะถูกกรีดจนเป็นรอย แล้วยังมีคนมา "เมนต์" แบบดุเดือดเลือดพล่าน

ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด


"คนไทยยังใช้พวกพ้องเป็นตัวสำคัญ ชอบฝั่งไหนก็เอนไปสุดที่ฝั่งนั้น" พูดแล้วเขาก็หัวเราะ

ก่อนจะว่า เอ,ที่จริงพูดไปก็เข้าตัว ด้วยเขาเองก็เข้าข่าย

"แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่เข้าฝั่ง โดยไม่หาข้อมูลเพิ่ม ไม่งั้นจะกลายเป็นเหยื่อของคนที่เราเชื่อ"

เข็ดไหม? อดถามไม่ได้จริงๆ เพราะเห็นโดนพิษมา 2 ครั้ง 2 ครา

ทว่า คนตอบกลับส่งเสียงมั่นใจ "ไม่เข็ด" แต่อาจต้องมีวงเล็บว่า "ในตอนนี้" ด้วยยังพอมีกิน มีใช้ ไปได้อีกสักพัก-หมายถึงสักไม่กี่เดือนน่ะ

"ผมไม่ได้พูดให้ดูเหมือนเป็นฮีโร่นะ แต่รู้สึกว่ายังโอเค

"พอถึงตอนนั้นค่อยดูว่าจะเอายังไง"

ระหว่างกลับเข้าสู่ "กระแสหลัก" เปิดเพลงไปเรื่อยเปื่อย หรือเปิดไป วิจารณ์สังคม การเมืองไป อย่างใจอยาก

"ผมจะพยายามรักษาตัวตนไว้ให้ถึงที่สุด แต่ถ้าไม่ไหว ก็คงพอ เพราะผมเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ยังต้องกินต้องใช้ ยังมีภาระหน้าที่รับผิดชอบ"

ซึ่งเราคงเห็นคำตอบสุดท้ายในไม่ช้า

ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด


ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด


ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด


ดีเจ จั๊ดดีเจ จั๊ด

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์