ฟอร์ด ปั่นจักรยานย้อนอดีต วัยเด็ก

ร้องเพลงกล่อมแฟนๆ มาก็เยอะแล้ว

วันนี้นักร้องเสียงคุณภาพ "ฟอร์ด" สบชัย ไกรยูรเสน วางไมค์จับจักรยานพาเที่ยวบ้านเกิด ย่านเมืองทองธานี ย้อนอีดตที่น่าประทับใจ

ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ครับ

เกิดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นคนที่ 99 ของโรงพยาบาล โดยแพทย์ที่ทำคลอดคือ น.พ.วรา วรเวช ที่แต่งเพลง เทพธิดาดอย ที่ร้องโดย พ.ญ.พันทิวา สินรัชตานันท์ ส่วนบ้านจะอยู่ที่ฝั่งธนฯ ในย่านซอยบางขุนศรี ถ.จรัญสนิทวงศ์"

เครื่องย้อนอดีตเริ่มติดแล้ว ฟอร์ดเล่าต่อว่า

"ตอนนั้นพ่อไปเช่าบ้านอยู่ จำได้ว่าเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีร้านตัดผมอยู่ปากซอย จำได้เพราะแม่จะพาไปตัดผมแล้วจะร้องไห้ประจำ ครอบครัวอยู่ที่นั่นได้แค่ประมาณ 2-3 ขวบ ก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองทอง เพราะว่ามาซื้อบ้านใหม่"

ตอนที่ครอบครัวผมย้ายมาใหม่ๆ ยังเป็นลูกรังอยู่เลย

"ชีวิตในตอนเด็ก ก็จะซนๆ ตามประสาเด็กผู้ชาย ผมจะมีเพื่อนอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเพื่อนที่ขี่จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ กลุ่มนี้จะมีประมาณ 12 คน เราก็จะขี่ไปเที่ยวกันในเมืองทอง บางวันเราก็จะขี่กันไปที่ข้างๆ บึงสีกัน อยู่กลางเมืองทอง

จากนั้นก็จะเต้นเบรกแดนซ์กันกับเพื่อน

บนสนามหญ้าแบบไม่มีอะไรรอง หรือไม่ก็เอาลังกระดาษมารอง ไหนที่เป็นสนามหญ้าเพียวๆ หลังก็จะเขียวไปหมดเพราะเราต้องกลิ้งๆ บนพื้น"

ยังมีมุขในอดีตให้ฮาอีกต่างหาก

"ตอนที่เราเต้นๆ กันอยู่ ตอนนั้นเป็นจะเป็นป่าๆ ก็จะมีตะกวด 2-3 ตัว วิ่งไปวิ่งมา ไม่รู้มาดูพวกเราเต้นหรือเปล่า (หัวเราะ) หรือไม่ก็จะมีที่ดินเปล่าๆ อยู่ผืนหนึ่งซึ่งจะติดกับบ้านเพื่อน แต่เจ้าของที่ดินเขาทำรั้วล้อมไว้ เพื่อนมันก็ลงทุนขุดดินลงไปใต้รั้ว จากนั้นพวกเราก็มุดใต้รั้วลงไปเพื่อนเข้าไปเล่นข้างใน"

เล่าไปก็เริ่มอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

ว่าแล้วก็คว้าจักรยานคันเก่งที่เก็บอยู่ในโรงรถออกมาปัดฝุ่น แล้วปั่นออกไปตามรอยอดีตวัยเด็ก

เริ่มจากแวะไปบ้านหลังแรกของครอบครัวที่ ซ.พิงคนคร 4

ซึ่งจะห่างจากบ้านที่อยู่ปัจจุบันแค่ไม่กี่ซอย ซึ่งพอ "ฟอร์ด" ปั่นจักรยานไปถึง เพื่อนบ้านต่างก็ทักทาย เพราะคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ปั่นไปที่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับคลองประปา

พร้อมเล่าความประทับใจว่า

บริเวณนี้เป็นที่มาเล่นกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง บริเวณที่เราเล่นกันก็คือ ที่นาของเพื่อนที่ชื่อ เอนก ตอนนั้นมีประมาณ 25 ไร่ และบริเวณข้างๆ ก็จะเป็นทุ่งนา

พอปิดเทอมก็จะเล่นกับเพื่อนมาหมกตัวอยู่ที่นั่นเลย

ไปช่วยเขาทำนาบ้างแบบเล่นๆ ปีนต้นไม้เล่นบ้าง จับกบ เขียด หนูนา ไปย่างกิน ไปตีงูสิงตีได้แม่ของเอนกก็เอามาผัดเผ็ดให้กิน

หรือบางทีแม่ของเอนกก็จะไปแหย่ไข่มดแดงมายำให้กิน

ได้ไปเล่นที่โรงนา ได้สีข้าว ได้ตำข้าวแบบโบราณที่ตำด้วยครกกระเดื่อง ตอนนั้นรู้สึกว่าสนุกมาก"

แล้ว ฟอร์ด ก็ถือโอกาสไปเยี่ยม ป้าแพง แม่ของ เอนก

พอโผล่เข้าไปในสวน "ป้าแพง" ก็ดีใจ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ส่วน "เอนก" ไม่อยู่บ้าน

ว่าแล้ว "ป้าแพง" ก็ยังอุตส่าห์ลุยฝนที่ตกพรำๆ

ออกไปสอยมะม่วงมาให้ "ฟอร์ด" กิน แถมให้ใส่ถุงกลับบ้านอีกต่างหาก แล้วอย่างนี้จะให้หนุ่ม"ฟอร์ด" ลืมถิ่นบ้านเกิดได้ไงเล่า