ญาญ่าปัดลูกรักช่อง3 เป้าหมายนักแสดงมีฝีมือ

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ญาญ่าปัดลูกรักช่อง3 เป้าหมายนักแสดงมีฝีมือ

กลายเป็นนางเอกขายดี มีละครเข้ามือต่อเนื่อง เล่นเรื่องไหนเป็นต้องดังเปรี้ยง สำหรับนางเอกวัย 18 "ญาญ่า"อุรัสยา สเปอร์บันด์

ล่าสุดโคจรปะทะบทบาทกับพระเอกคู่ขวัญ "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ในละคร "เกมร้ายเกมรัก" ช่อง 3 หลังพากันดังเปรี้ยงมาแล้วใน "ดวงใจอัคนี"

วันนี้เจียดคิวแน่นๆ ของหนูญาญา มาเปิดอกพูดคุยทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว

- บทใน "เกมร้าย-เกมรัก" เป็นอย่างไรบ้าง?

ญาญ่า - "บทเรื่องนี้เล่นเป็นสองคาแร็กเตอร์ ตอนแรกเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อม จำตัวเองไม่ได้ มาเจอพระเอกคือพี่ณเดชน์ (คูกิมิยะ) บนเกาะ จะเป็นพาร์ตที่อินโนเซนส์มากๆ หวาน กุ๊กกิ๊ก รักกันมาก ฉากที่อยู่บนเกาะสวยงามมาก"

"มาอีกพาร์ตตอนพี่สาวคือพี่มิ้นท์-ณัฐวรา ไปเจอพาเรากลับกรุงเทพฯ ชอร์ตไฟฟ้า ความทรงจำกลับคืน แต่ความทรงจำที่อยู่บนเกาะเลือนหาย เรื่องนี้ครึ่งเรื่องแรกกุ๊กกิ๊กน่ารัก แต่พาร์ตหลัง ดราม่า พระเอกจับพลัดจับผลูเป็นเจ้าของสายการบิน แล้วเผอิญมาเจอเราอีก แต่นางเอกจำเขาไม่ได้ พระเอกโกรธมาก ประมาณทั้งรักและเกลียด ปะทะคารมเยอะมาก ประมาณตบจูบค่ะ"

- เบาใจหรือเปล่าที่ได้เล่นกับ "ณเดชน์" พระเอกที่สนิทกันอยู่แล้ว?

ญาญ่า - "หนูร่วมงานกับพี่ณเดชน์มาแล้วเรื่อง ดวงใจอัคนี แน่นอนสนิทกัน ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เวลาแสดงราบรื่น เพราะรู้จังหวะกันทำให้แสดงง่ายขึ้น เหมือนจังหวะคลิกกัน เล่นรับส่ง โอเค ซึ่งเรื่องนี้มีเข้าฉากเลิฟซีนและฉากที่ต้องทำร้ายกัน ก็จะมีการขอโทษกันก่อน ไม่มีปัญหา"

ญาญ่า อุรัสยา

- เรื่องนี้บทเลิฟซีนเยอะ มีลิมิตไหม?

ญาญ่า - "หนูเป็นนักแสดง ทำอะไรก็ได้ที่ผู้กำกับฯ หรือผู้จัดอยากให้ทำ ส่วนบทเลิฟซีนจะประมาณไหนต้องคอยชม แต่รับรองคนที่ดูต้องเอาหมอนปิดหน้าแล้วร้องกรี๊ดเพราะขนาดหนูดูตัวเองตอนเช็กเทปยังเขินเลย ยิ่งตอนเล่นก็เขินแน่นอนอยู่แล้ว ฉากไหนที่เป็นฉากเลิฟซีนจะเขินทุกฉาก"

"ตอนอ่านบทที่บ้านจะจินตนาการไปแล้วเอาหมอนปิดหน้าร้องกรี๊ด (หัวเราะ) คิดไม่ออกว่าจะแสดงอย่างไร ต้องทำใจมาจากบ้าน เพราะถ้าถ่ายสดๆ ตรงนั้นคงเล่นไม่ได้แน่ เขินมาก ไม่ได้เขินเพราะเข้าฉากกับพี่ณเดชน์ แต่เขินเพราะต้องเล่นอะไรหวานๆ ที่เราไม่เคยทำในชีวิตจริง"

- ปีนี้คิดว่าเป็นปีทองของเราหรือเปล่า?

ญาญ่า - "ถือว่าเป็นปีที่งานเยอะ ถามว่าคิดมั้ยว่าตัวเองจะมาแรงได้เร็วขนาดนี้ จริงๆ ที่ผ่านมาหนูเล่นละครหลายเรื่องนะคะกว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ ค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมา และละครที่ทำให้คนดูเริ่มรู้จักมากๆ คือละครเรื่องแรกที่เล่นหลังข่าวเรื่อง กุหลาบไร้หนาม โชคดีมากได้เล่นกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างพี่พลอย-เฌอมาลย์ กับพี่โฬม-พัชฏะ หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนจำได้ และมาพีกมากจาก ดวงใจอัคนี"

- ทุกวันนี้ในความรู้สึกคิดว่าตัวเองดังหรือยัง?

ญาญ่า - "ในความรู้สึกของหนู คือมีคนรู้จักเราเยอะ แต่ไม่แน่ใจว่าดังหรือเปล่า ไม่อยากใช้คำว่าดัง อยากให้คนเรียกเราว่านักแสดงมีฝีมือจะดีกว่า ที่ไม่อยากใช้คำว่าดังเพราะกลัวคนหมั่นไส้"

ญาญ่า อุรัสยา

- ตอนนี้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม?

ญาญ่า - "เปลี่ยนไปนิดนึง ชีวิตส่วนตัวจะน้อยลง แต่หนูว่าวิถีชีวิตของหนูกับที่บ้านยังเหมือนเดิม ไปไหนก็เป็นคนเดิม เวลาไปข้างนอกบ้านยังทำตัวสบายๆ ยังมีความเป็นเด็ก อย่างตอนไปซูเปอร์มาร์เก็ตจะนั่งบนรถเข็น อาจโดนดุบ้าง แต่ถือว่าเป็นความสุขไม่ได้ทำคนอื่นเดือดร้อน"

"หนูอยากมีมุมเบาๆ รีแล็กซ์ๆ บ้าง ไปไหนก็เป็นตัวเอง คุณแม่จะคอยปรามและดุบ้าง อย่างการแต่งตัวต้องแต่งดีๆ รูจักกาลเทศะ เพราะเราเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย และตั้งแต่ทำงานความคิดหนูโตขึ้นในระดับหนึ่ง มีความเป็นผู้ใหญ่ในเรื่องความรับผิดชอบ เรื่องการเคารพผู้ใหญ่ การตรงเวลา รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก"

- แรกที่มาทำงานแสดงรู้สึกอย่างไร?

ญาญ่า - "คิดว่าทำไมยากขนาดนี้ อ่านบทไม่เข้าใจเลย ตอนนั้นเด็กด้วย ไม่มีประสบการณ์ ประกอบกับภาษาไทยไม่แข็งแรง ความเข้าใจในบทไม่ค่อยแตกฉาน แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นแล้ว ตอนแรกรู้สึกเหนื่อย คิดว่าทำไมไม่ได้ แต่พอทำไปทำมาเริ่มหลงรักการแสดงมากขึ้น ทุกๆ ครั้งที่ไปทำงานรู้สึกมีความ สุข ตอนนี้เลยกลายเป็นหลงรักการแสดงแล้วค่ะ"

ญาญ่า อุรัสยา

- ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเหนื่อยเกินวัย 18 ป ไปหรือเปล่า?

ญาญ่า - "ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยพักผ่อนทีหลัง เพราะตอนนี้หนูยังเด็ก ยังมีโอกาสทำงานได้ก็ควรทำให้เต็มที่ คิดว่าชีวิตนี้มีแค่ชีวิตเดียว เราควรทำทุกโอกาสที่ได้รับ ในส่วนรายได้ไม่ได้เป็นจุดสำคัญ แต่เราภูมิใจที่หาเงินได้ ได้เงินมาก็เก็บเข้าธนาคารไว้สำหรับอนาคต พูดตามตรงคุณพ่อไม่ต้องการให้เราเอาเงินมาให้เขา ถือเป็นเงินที่ทำมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานเรา ก็ให้เก็บไว้ในอนาคต"

- กับคำว่าเป็นลูกรักของช่อง 3 รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ญาญ่า - "จริงๆ นักแสดงทุกคนเป็นลูกรักหมด ถือว่าหนูดวงดีโชคดีที่จังหวะมีงานต่อเนื่อง จริงๆ คำว่าลูกรัก หนูเป็นลูกรักของคุณแม่คนเดียวค่ะ (หัวเราะ) ไม่ขอรับตำแหน่งลูกรักช่อง 3 เป้าหมายหนูตอนนี้ คืออยากให้คนมองว่าเราเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ อยากพัฒนาฝีมือการแสดงคะ"

- วันนี้ชีวิตลงตัวหรือยัง?

ญาญ่า - "ตอนนี้มัน มีความสมดุลที่ดี งานก็โอเค การเรียนที่คณะอักษรศาสตร์ อินเตอร์ จุฬาฯ เทอมที่ผ่านมาได้ 3.25 แค่ผ่านก็แฮปปี้แล้ว หนูรู้สึกว่าทุกอย่างแฮปปี้มากๆ"

- ตอนนี้วางอนาคตตัวเองอย่างไร?

ญาญ่า - "คงเรียนให้จบภายใน 4 ปี และอยากทำงานให้ดีขึ้นทุกวัน อยากให้คนมองว่าเราเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วค่ะ"

ญาญ่า อุรัสยา

กุลสตรีไทย

เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยเริ่มจากงานนางแบบ จนตอนนี้ "ญาญ่า-อุรัสยา" เป็นสาวเต็มตัวในวัย 18 ปี เป็นสาวฮอตที่มีงานเข้ามือไม่ขาดสาย ทั้งงานละคร ถ่ายแบบ โฆษณา ฯลฯ ซึ่งเจ้าตัวไม่คิดว่าจะมาไกลได้ขนาดนี้

"เป็นอะไรที่โชคดีมากๆ เพราะช่วงนั้นเรียนนานา ชาติ มีแต่เพื่อนฝรั่ง เราพูดภาษาไทยก็ไม่รู้เรื่องเลย ไม่คิดว่าใคร จะให้เรามาเล่นละคร แต่โชคดีไปแคสต์งานช่อง 3 แล้วทางช่องโอเค รับเรา หลังจากนั้นพี่นก-จริยา ก็ให้โอกาสไปเล่น บ้านก้านมะยม แต่ละครยังไม่ได้ออกอากาศค่ะ แต่หลังจากนั้นก็มีละครถ่ายอย่างต่อเนื่อง มีซิตคอม เพื่อนซี้ล่องหน แล้วก็มาเล่นละครหลังข่าวเรื่อง กุหลาบไร้หนาม ไม่มี เว้นช่วงเลยค่ะ"

ถ้าถามถึงการเลี้ยงดูของ "ญาญ่า" จากพ่อที่เป็นฝรั่งและแม่ที่เป็นคนไทย ญาญ่ากล่าวว่า "พ่อแม่เลี้ยงแบบผสมกันค่ะ ทั้งแบบฝรั่งและถูกเลี้ยงแบบวัฒนธรรมไทยด้วย ที่บ้านจะเน้นเรื่องการปฏิบัติตัวให้เป็นกุลสตรีไทย ไม่ได้เปรี้ยวแบบฝรั่ง และคุณพ่อกับคุณแม่จะค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องการมีสัมมาคารวะ ซึ่งถือเป็นอะไรที่สำคัญมาก"

"ถึงแม้คุณพ่อจะเป็นชาวนอร์เวย์ แต่คุณพ่อค่อนข้างมีความเป็นไทย เพราะเขาอยู่เมืองไทยมานาน แต่สิ่งที่คุณพ่อฝึกให้เป็นแบบฝรั่งคือให้เรามีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้ากำลังโดนดุอยู่เราอาจจะเถียงกลับ ได้ถ้ามีเหตุผลพอ คุณพ่อจะไม่มองว่าเป็นการก้าวร้าว แต่คุณพ่ออยากรู้ เหตุผล และพ่อจะสอนจากตรงนั้นว่าผิดหรือถูกอย่างไร"

"ส่วนคุณแม่จะดุมากเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนเด็กๆ จะโดนแม่ตี หรือถ้าเราทำอะไรผิดจะให้เราไปเด็ดก้านมะยมเองแล้วส่งก้านมะยมนั้นให้คุณแม่ตีค่ะ (หัวเราะ) ถึงหนูจะเป็นลูกสาวคนเล็ก แต่ถ้าทำผิดแม่ก็จะตี ไม่สปอยล์ค่ะ แม่จะรักลูกสาวสองคนเท่ากัน"

แม้แม่จะดุ พ่อจะเข้มงวด แต่ทั้งสองก็เลี้ยงลูกสาวเป็นเหมือนเพื่อน ยิ่งพอลูกสาวคนเล็กเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง คุณแม่ที่ว่าดุก็กลายเป็นทุกอย่างของสาวญาญ่า ถึงขั้นเจ้าตัวเอ่ยปากว่า "ถ้าไม่มีคุณแม่ หนูก็คงไม่ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้หรอกค่ะ"

ญาญ่า อุรัสยา

เชื่อพรหมลิขิต-ไม่เร่งรีบหารัก

กลายเป็นสาวเนื้อหอม นักแสดงหนุ่มๆ ปลื้มเยอะ สำหรับหนู "ญาญ่า-อุรัสยา" ซึ่งเจ้าตัวกล่าวขอบคุณ พร้อมเผยความรู้สึกว่าปลื้ม

จากนั้นก็เปิดใจถึงเรื่องความรักว่า "หนูเป็นคนค่อนข้างโรแมนติก เชื่อในเรื่องพรหมลิขิต คิดว่าเมื่อถึงเวลาและเจอคนที่ใช่เราก็จะรู้เอง เรื่องความรักไม่ได้รีบหา หรือรีบที่จะมีแฟน หนูกำลังรอให้จังหวะชีวิตถูกต้องและเจอคนที่ใช่ค่ะ"

แม้ที่ผ่านมาจะมีข่าวกับนักแสดงหนุ่มๆ เยอะ แต่น้องหนูไม่เคยฟันธง "ที่ผ่านมาญาญ่าจะมีข่าวกับพี่อเล็กซ์ เรนเดลล์ เป็นรุ่นพี่สมัยเรียนบางกอกพัฒนา และพี่เขาก็เรียนที่จุฬาฯ ด้วย เราสนิทเป็นเพื่อนไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น"

"ส่วนกับพี่ณเดชน์ (คูกิมิยะ) อยากจะบอกว่าก็เป็นเพื่อน พี่น้องกันหมด จริงๆ ไม่มีใครมาจีบหนูด้วยซ้ำ, กับพี่หมาก-ปริญ (สุภารัตน์) ตรงนี้หนูว่าเป็นเพราะกระแสละคร ตะวันเดือด มากกว่า"

"กับนักแสดงทุกคนที่เล่นด้วยกันจะเป็นข่าวเล็กๆ น้อยๆ อย่างพี่โป๊ป-ธนวรรธน์ (วรรธนะภูติ) ที่มีคนบอกแย่งกับพี่หมาก ตรงนี้ไม่เลย เพราะกอง ตะวันเดือด มีแต่ผู้ชาย และพวกนักแสดงชายคงลืมว่าพวกหนูเป็นผู้หญิง (หัวเราะ)"

ในบรรดานักแสดงชายที่ตกเป็นข่าวด้วยทั้งหมดนี้ มีคนไหนที่ตรงสเป๊กมากที่สุด ญาญ่าหัวเราะก่อนบอก "หนูไม่มีสเป๊กค่ะ ขอแค่เขาทำให้หนูหัวเราะได้ มีความคิดเป็นของตัวเอง และนิสัยดีก็พอ เรื่องรูปร่างหน้าตาไม่ซีเรียส"

"อย่างพี่อเล็กซ์จะเป็นคนเฟรนด์ลี่ สามารถปรึกษาอะไรก็ได้, พี่ณเดชน์นิสัยดี ตั้งใจทำงานมาก จริงๆ ทุกคนตั้งใจทำงานมากและนิสัยดี, พี่หมากเป?นคนนิ่งๆ ขี้เขิน แต่เขาก็มีมุขเหมือนกัน ถึงเขาเป็นคนเงียบๆ แต่จะแอบฮา, พี่โป๊ปก็เหมือนเป็นพี่ใหญ่ ซึ่งเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเรามากค่ะ"

ตอนนี้ให้ความสำคัญกับความรักมากแค่ไหนในวัย 18 ปี ญาญากลาววา "หนูรอให้ถึงเวลาก่อนค่ะ ช่วงนี้เน้นเรื่องการทำงานและการเรียน ถ้าถามว่าพร้อมกับการมีความรักตอนไหน ก็ตอนที่เราเจอ ถ้าจะบอกว่าไม่ได้คิดเรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้หญิง เป็นธรรมชาติที่คนจะคิดถึงความรัก ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลา ชีวิตของเราอีกยาวไกล หนูไม่รีบค่ะ"

และแน่นอนว่า หาก "ญาญ่า" มีความรัก ทั้งพ่อ แม่ และพี่สาว ต้องเห็นชอบด้วย โดยเธอให้เหตุผลว่า "เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตหนูคือครอบครัว" ญาญ่ายืนยัน