‘เปิ้ล’ โชว์ลูกชาย ‘น้องออก้า-นครา’ ตั้งเป้าให้เป็นนักเจ็ตสกี

 โดยเปิ้ลเปิดใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้ลูกตามสูตร ชาย1คน หญิง 1 คน ซึ่งทำให้ครอบครัวสมบูรณ์มากขึ้น จริงๆแล้วอยากได้ผู้หญิง 2 คน แต่คนนี้เป็นผู้ชายออกมาก็น่ารักดี ลูกเราโชคดีมากที่ได้เกิดในวันที่ 21 ต.ค เพราะเป็นวันเกิดวันเดียวกับสมเด็จย่า จริงๆ ตั้งใจอยากมีลูกเพิ่มอีกเรื่อยๆ แต่จูนไม่ไหวแล้ว เพราะมีลูก 2 คนก็กินเวลาไป 3 ปีแล้ว ซึ่งจูนเองเขาไม่ได้ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ นานแล้ว พอเขามาเป็นแม่ตั้งท้องก็เหนื่อยทุกอย่าง พอหลังจากท้องนี้เขาก็ขอฟิตหุ่น แต่เดี๋ยวอีก 5 ปีเราค่อยว่ากันอีกที ยังไม่ปิดอู่ เพราะเรายังมีความสามารถเยอะอยู่”

 ต่อข้อถามถึงชื่อลูก ‘น้องออก้า’ นาครกล่าวว่า
ที่ใช้ชื่อว่าน้องออก้า เพราะตอนแรกพอมีเหตุการณ์น้ำท่วมเราเลยมาคิดว่าจะชื่ออะไรดี จะตั้งชื่ว่าน้องอุ อุทกภัย(หัวเราะ) แต่มันก็ชัดเจนเกิดไป เลยชื่อน้องออก้า ที่คล้ายปลาวาฬเพชรฆาตร พ่อก็ชื่อ ‘นาคร’ เราเลยตั้งชื่อจริงว่า ‘นครา’ สลับชื่อกับเราที่ชื่อ ‘นาคร’ ด้วย จริงๆ คิดว่าเป็นชื่อเมืองพญานาค แต่ในหนังสือแปลว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยมั่งคั่ง

ครอบครัว ศิลาชัย

 ผู้สื่อข่าวถามว่าลูกหน้าคล้ายใคร ภรรยาสาวกล่าวว่า “มีผมกับหัวที่ไม่คล้ายพ่อ เพราะหัวไม่เถิก ผมก็ดก ออกมาก็ถือว่าคุ้ม(หัวเราะ) จริงๆเรารู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนคลอดน้องออกัสลูกคนแรกเหมือนกัน อยากให้เขาออกมาแข็งแรงก็พอใจแล้ว”

 ส่วนในอนาคตจะวางแผนให้น้องออก้าเป็นอะไรนั้น
 เปิ้ลกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ก็เหมือนพ่อแม่ทุกคน แล้วแต่เขาเลย ในใจเราคิดว่าโตขึ้นอยากให้เป็นนักกีฬาเจตสกีเหมือนเราคงดี เพราะร่างกายจะได้แข็งแรง แต่ถ้าเขาชอบอะไรเราก็สนับสนุนเต็มที่ ยกเว้นนักการเมือง เพราะดูแล้วคงเหนื่อย เราไม่อยากให้ลูกเหนื่อยขนาดนั้น”

 ผู้สื่อข่าวถามว่า วิลลี่ แมคอินทอช และเสนาหอย ได้มารับขวัญหลานหรือยัง เปิ้ลกล่าวว่า “ตอนนี้เขาไปทำงานที่ญี่ปุ่น เดี๋ยวคงกลับมาแน่นอน”

 พิธีกรหนุ่มยังกล่าวทิ้งทายไว้ว่า “จริงๆ ออกจากโรงพยาบาลได้วันพรุ่งนี้ แต่เห็นเขาบอกว่าน้ำจะท่วม เราเลยคิดว่าอยากให้อยู่ที่โรงพยาบาลรอดูสถานการณ์ก่อน ส่วนผมวันนี้จะลงพื้นที่ที่จังหวัดนครสวรรค์ต่อ เพราะอยากไปช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อน ส่วนภรรยาและลูกปล่อยให้เป็นความดูแลของทางโรงพยาบาล เห็นลูกและภรรยาแข็งแรงก็หมดห่วงเพราะมีคนคอยดูแลอยู่ตลอด ซึ่งต่างจากคนต่างจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดคุณหมอแบบนี้ มีอะไรที่ผมสามารถช่วยได้ผมจะช่วยเต็มที่”

ครอบครัว ศิลาชัย