“ดีเจต้นหอม” ครวญ โดนไล่จากคอนเสิร์ตแร็พเตอร์

“พอเดินออกมาพนักงานรีเซฟชั่นก็ทักว่า ทำไมรีบกลับจัง เพื่อนต้นหอมเขาก็ตอบไปว่า ไม่ดูแล้วคอนเสิร์ตไร้มารยาท เขาเชิญให้ออกมาค่ะ ก็งงๆ เหมือนกันว่า ทำไมเพื่อนของต้นหอมยังนั่งดูคอนเสิร์ตได้เป็นชั่วโมงก่อนที่เราจะมา ทั้งที่เพื่อนของต้นหอมก็เป็นพนักงานแกรมมี่(เป็นบุคคลมีชื่อเสียงหรือเป็นพนักงาน) เป็นพนักงานในแกรมมี่ค่ะ เขานั่งอยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นมาเชิญออก แต่พอเรามาถึงกลับให้ออก”

“ต้นหอมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะต้นหอมก็มีบัตรเข้ามาอย่างถูกต้อง และพนักงานเขาก็ยังบอกให้เข้าไปได้ คือถ้าเข้าไม่ได้ก็ต้องบอกตั้งแต่ประตูแรก แต่พอเข้าไปดูแล้วถูกเชิญออกมันเสียความรู้สึก แต่ก็มีการทวิตเตอร์มาชี้แจงเขาไม่ได้ส่งมาถึงต้นหอมโดยตรง แต่มีคนส่งต่อมาให้ต้นหอมอีกทีว่า รอบนี้เป็นรอบสำหรับศิษย์เก่าอาร์เอสดูและให้สื่อมวลชนบางส่วนดูเท่านั้น ต้นหอมก็เลยทวิตถามกลับไปว่า แล้วสื่อมวลชนส่วนไหนที่ดูไม่ได้เพราะเราก็เป็นสื่อเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าเป็นสื่อในส่วนที่ดูไม่ได้หรือเปล่า เพราะเหตุผลที่เขาเชิญออกที่เขาพูดตรงนั้นคือเหตุผลเพราะเราเป็นเอไทม์โชว์บิส”

ดีเจ ต้นหอม

“รุ่งเช้ามาก็มีคนไปโพสต์ในพันทิปว่า ไปงานคอนเสิร์ตแล้วเห็นดีเจต้นหอมใช้มือถือถ่ายภาพ นักข่าวที่แกรมมี่ก็มาถามว่า แกเอามือถือไปถ่ายเหรอ มันมีการโพสต์ที่ทำให้เข้าใจว่าเราทำผิดกฎ ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเพราะต้นหอมฝากมือถือไว้แล้ว”

อย่างไรก็ตามอีกกระแสหนึ่งกลับมีการพูดถึงว่า คนที่ถ่ายภาพเป็นเพื่อนของ “ดีเจต้นหอม” จนเป็นเหตุให้ถูกเชิญออกจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ งานนี้ดีเจต้นหอมยืนยันว่าไม่จริง
“เพื่อนต้นหอมไม่ได้ฝากมือถือไว้แต่ก็ไม่ได้นำไปถ่ายรูป แต่เขาเอาบีบีมาแชตหาต้นหอมว่าถึงไหนแล้วจะมาหรือยัง ก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า พี่อย่าใช้ถ่ายรูปนะเดี๋ยวหนูซวยและก็เดินไป และก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกจนกระทั่งต้นหอมมา และตอนเชิญออกเขาก็ไม่ได้บอกเรื่องมือถือ แต่บอกเรื่องเราเป็นพนักงานเอไทม์ และถ้าเพื่อนของต้นหอมถ่ายจริงมันก็คงจะต้องมีการยึดมือถือไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว หรือถ้าไม่เชื่อจะเอาเมมของเพื่อนไปกู้มาดูได้เลย”

เผยคอนเสิร์ตของค่ายแกรมมี่พนักงานอาร์เอสรวมไปถึงศิลปินอาร์เอสก็มาดูคอนเสิร์ตของแกรมมี่เช่นกัน แต่ทางแกรมมี่ก็ให้เข้าเพราะถือว่าใครมีบัตรก็เข้าได้

ดีเจ ต้นหอม กับ ดีเจ บุ๊กโกะ

“ต้นหอมรู้สึกว่ามันค่อนข้างแรง จริงๆ ถ้ามันมีประเด็นมือถือเขาก็จะแค่ตักเตือนกัน แต่การที่ถูกเชิญออกนั่นแปลว่ามันต้องมีการเสียมารยาทมากๆ หรือเราไปทำอะไรรุนแรงถึงโดนไล่ออก ตอนนั้นรู้สึกอายมากมาก เพราะมันเป็นจังหวะเพลงช้าพอดีคนก็ชักนิ่งๆ พอเขาเดินเข้ามาพูดให้ออกคนก็หันมามอง รู้สึกเสียหน้าเหมือนกันไม่เข้าใจว่าทำไมให้ออก ก็คิดว่าเขามาดูของเรา เราก็ไปดูของเขาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”

ดีเจ ต้นหอม กับ ดีเจ บุ๊กโกะ

“พอผู้ใหญ่ทราบเรื่องก็โทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าให้เขาฟังเขาก็ไม่ได้ห้ามที่จะให้ตอบคำถามนักข่าว เขาบอกว่าให้พูดความจริง ซึ่งต้นหอมก็คิดว่า ต้องพูดเพราะมันมีการเข้าใจผิดคิดว่าเราทำผิดกฎเอามือถือไปถ่ายรูปคอนเสิร์ต แต่ทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มีนโยบายอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วอาร์เอสจะเข้าไปดูคอนเสิร์ตแกรมมี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ยึดหลักถ้ามีบัตรเข้าได้หมด ไม่ว่าจะได้บัตรนั้นมาอย่างไร เพราะเราต้องให้เกียรติคนที่ถือบัตรเข้ามาร่วมงาน”

“สำหรับคอนเสิร์ตของอาร์เอสครั้งต่อไป ก็คงจะต้องถามก่อนว่าอันไหนเข้าได้อันไหนเข้าไม่ได้ คงไม่ถึงกับต้องทำหนังสือไปถามหรอกเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ และเขาเองก็ไม่ค่อยจัดคอนเสิร์ตบ่อยอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าอยากดูต้นหอมก็คงจะซื้อบัตรเข้าไปเลย คราวนี้เขาคงไม่มาไล่ออกแน่ แต่ยังไงก็คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่เพราะยังอายอยู่”

“ก็รู้สึกเสียดายนะที่ไม่ได้ดูคอนเสิร์ตเพราะชอบแร็พเตอร์มันอยู่ในยุคของเรา แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่คอนเสิร์ตของแกรมมี่ เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา ถ้าเขาเห็นว่าเราไม่เหมาะสมในการไปดูคอนเสิร์ตของเขาก็ไม่เป็นไร ก็คงไม่ได้ไปเกลียดอะไรเขา เขาคงไม่ค่อยชอบท่าเต้นแรดๆ ของหนูมั๊ง”

ดีเจ ต้นหอม กับ ดีเจ บุ๊กโกะ