น้องฟ้า กับ มงกุฬมิสไทยแลนด์ ฯ 2550

แซงโค้งมาคว้ามงกุฎ มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2550 ไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย


น้องกวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม วัย 19 ปี ครูสอนเปียโนระดับ 7 ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ สาขารังสิต ใฝ่ฝันอยากเป็นนางงามมาตั้งแต่เด็ก และเตรียมพร้อมเรื่อยมา ทั้งการเรียนเปียโน ที่เริ่มเรียนมาตั้งแต่ 3 ขวบ

จนขณะนี้กำลังจะสอบเกรด 5

ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการเป็นครูสอนเปียโน นอกจากนี้ยังเตรียมตัวเรื่องภาษาอังกฤษ ปูทางพร้อมสู่การเป็นนางงามโดยเฉพาะ


เจ้าของสัดส่วน 33-24-33 สูง 179 เซนติเมตร


เคยพิชิตตำแหน่ง มิสยูลีก ปี 2548 ระหว่างศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปศาสตร์ประยุกต์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ถึงแม้ในเวทีมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มตัวเก็ง

แต่เจ้าตัวมาประกวดครั้งนี้ด้วยความคาดหวังเต็มที่ และคิดว่าตัวเองมีศักยภาพพอที่จะเป็นตัวแทนสาวไทยจะไปประกวดมิสยูนิเวิร์สได้

สุดท้ายจึงได้รับการสวมมงกุฎจากมิสยูนิเวิร์ส 2006 ซูเลกา ริเวอรา เมนโด ที่ขึ้นเวทีมาประกาศให้เป็นพิเศษ


ขณะที่รองอันดับหนึ่ง ได้แก่


น้องจูน-น.ส.จิราภรณ์ สิงห์เอี่ยม นักศึกษาสาวปี 3 การโรงแรม ราชภัฏสวนดุสิต ซึ่งคว้ารางวัลรักษ์ความเป็นไทย

รองอันดับ 2 จำนวน 3 คน ได้แก่

น้องเอ๋ย น.ส.ณัฐธยาน์ สุวรรณโรจน์ นิสิตปี 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
น้องพลอย-น.ส.วัชรวรรณ สุนทรรินทุ นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และ
น้องทราย น.ส.บัวชมพู วารี สาวนักเรียนนอกจากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา


มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์สคนใหม่ กล่าวถึงนาทีประกาศผลว่า


ตอนที่เหลืออยู่ 2 คนบนเวทีกับน้องจูน มั่นใจว่าตัวเองจะได้ ส่วนที่ชนะใจกรรมการ คิดว่าน่าจะเป็นความมั่นใจ การตอบคำถามและรูปร่าง ซึ่งคิดว่าความสูงของตนเองทำให้ได้เปรียบกับการไปประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์ส สู้นางงามต่างชาติได้

น้องกวางกล่าวต่อว่า

ดีใจที่ได้เป็นนางงามเหมือนคุณแม่ การมาประกวดเป็นความหวังของพ่อและแม่ โดยคุณพ่อเคยเป็นนายแบบรุ่นเดียวกับ สินจัย เปล่งพานิช และลิขิต เอกมงคล

ส่วนแม่ เคยเป็นนางสาวลำปาง และรองนางสาวเชียงใหม่


ขณะนี้คุณพ่อ นายฟาร์เลย์ ยุติธรรม รับข้าราชการกรมราชทัณฑ์


ตำแหน่งรองผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดปทุมธานี ส่วนคุณแม่ นางประยูรศรี ยุติธรรม มีธุรกิจร้านขายยาและเป็นแม่บ้าน

สำหรับเรื่องเงินรางวัล ยกให้แม่เป็นคนจัดการดูแลทั้งหมด

ส่วนหนึ่งก็จะใช้เป็นทุนการศึกษา ตั้งเป้าไว้ว่าจะเรียนถึงปริญญาเอกด้านภาษา เพราะอยากเป็นนักการทูต ส่วนงานด้านบันเทิง สนใจด้านพิธีกร และเดินแบบ ถ้าหาพระเอกที่สูงได้เหมาะสม ก็สนใจเป็นนางเอกเหมือนกัน

ด้วยความสูงที่โดดเด่น จึงมีคำถามว่า

ทำไมจึงเลือกประกวดนางงามแทนที่จะเป็นนางแบบ น้องกวาง กล่าวว่า การเป็นนางงามได้เป็นตัวของตัวเอง

ส่วนนางแบบเหมือนไม้แขวนเสื้อ

ต้องเน้นไปที่การแสดงเสื้อผ้า นางงามได้แสดงความสามารถของตัวเอง จึงท้าทายมากกว่า และคิดว่าการประกวดนางงามเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน


มาถึงคำถามเรื่องศัลยกรรม มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2550 กล่าวว่า


ไม่ได้เสริมอะไรเลย มีคนทักบ่อยมาก ว่าไปทำคางมาหรือเปล่า จริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย ตัวเองเด็กอยู่ด้วย ไม่คิดที่จะทำ ส่วนตอนเก็บตัวประกวดเพื่อนๆ จะเรียกว่า กวนอิม เพราะตอนเก็บตัว เวลาทาแป้ง หน้าจะขาวเด้งทุกครั้ง

ส่วนเรื่องเตรียมไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส น้องกวางกล่าวว่า

คงต้องดูอีกที หลักๆ น่าจะเป็นเรื่องบุคลิกภาพ การเดิน และคงนำการเล่นเปียโนไปแสดงความสามารถพิเศษ มั่นใจและจะทำเต็มที่มากที่สุด

มาถึงคำถามประจำของนางงาม

คือหนุ่มในสเป๊ก น้องกวางกล่าวว่า ต้องเป็นคนให้เกียรติ หน้าตาไม่สำคัญ เรื่องแบบนี้ดูภายนอกไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่มีใคร มีแต่เพื่อน เพราะสอนทั้งเปียโนและเรียนหนังสือ จึงยังไม่มีเวลาให้กับเรื่องนี้


ด้านคุณพ่อ กล่าวว่า


สนับสนุนให้มาประกวด เพราะเขาเป็นเด็กที่มั่นใจสูง ฉายแววเป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก ชอบทำกิจกรรม คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการเป็นแบบอย่างเยาวชน

ส่วนคุณแม่ กล่าวว่า

การที่แม่เป็นนางงาม ก็มีส่วนที่ปลูกฝังน้องกวางให้อยากเป็นนางงามด้วย เขารักสวยรักงาม เคยนำมงกุฎของแม่มาใส่เล่นตั้งแต่เด็ก

จนตอนนี้น้องกวางก็มีมงกุฎเป็นของตัวเองแล้ว


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ข่าวสด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์